ปีนี้ “เงิน” ผลตอบแทนดีกว่า “ทอง” และรอทำ ALL-TIME HIGH ?
-แม้หลายคนจะพูดติดปากว่า มีเงินเรียกน้อง มีทองเรียกพี่ แต่ปีนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น
เพราะตั้งแต่ต้นปีนี้ “โลหะเงิน” ให้ผลตอบแทนถึงเกือบ +60%
มากกว่าทองคำ +47% เสียอีก..

อีกเรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ เงิน (Silver) ก็เป็นอีกหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากสุดในโลก
อันดับหนึ่ง คือ ทองคำ ตามมาด้วยหุ้น Nvidia, Microsoft, Apple, Alphabet เจ้าของ Google และ YouTube และอันดันที่ 6 ก็คือ เงิน..

แล้วถามว่านักลงทุนไทย จะลงทุนในเงินได้ไหม ?
คำตอบก็คือ “ได้” ซึ่งก็ต้องเกริ่นก่อนว่า เงิน ในที่นี้ไม่ใช่เงินสด เงินเหรียญ 5 บาท 10 บาท
แต่เป็น เงิน สินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มโลหะมีค่าแบบเดียวกับทองคำ

ซึ่งการลงทุนในโลหะเงิน มีด้วยกันหลัก ๆ 2 วิธี แบ่งออกเป็น

1. เงินแท่ง หรือ Silver Bullion ความบริสุทธิ์ 99.9%
2. Silver Online Futures หรือ SVF ในตลาด TFEX เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่อ้างอิงราคากับโลหะเงินบริสุทธิ์ 99.9% ซื้อขายในหน่วยดอลลาร์สหรัฐต่อน้ำหนัก 1 ทรอยออนซ์ แต่วางเงินหลักประกันและคิดกำไรขาดทุนเป็นเงินบาทจึงทำให้ไม่มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ในลักษณะเดียวกับ Gold Online Futures

แปลว่าถ้าเราต้องการถือครองเป็นเงินแท่ง แบบเดียวกับทองแท่ง เพื่อกักเก็บมูลค่าแทนการถือเงินสด หรือเพื่อออมระยะยาว เราก็อาจจะเลือกวิธีที่หนึ่ง

แต่หากเราต้องการเทรดเพื่อสร้างผลตอบแทน หรือมองโลหะเงินเป็นสินทรัพย์ลงทุนทางเลือกเหมือนทองคำ การใช้ Silver Online Futures ก็จะสะดวกกว่า เพราะเราไม่ต้องหาที่เก็บ แถมอีกเรื่องสำคัญสุดเลย ก็คือเราไม่ต้องโดนบวก VAT 7% เหมือนเงินแท่ง..

แล้วถ้าถามว่าความเคลื่อนไหวของราคาเงิน มาจากอะไร ?

จริง ๆ แล้ว เงินมักจะวิ่งขึ้น - ลง ตามทองคำ เพราะถูกมองเป็นสินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มโลหะมีค่าเหมือนกัน

แต่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับดีมานด์ในอุตสาหกรรมด้วย เช่น กลุ่มโซลาร์เซลล์ รถไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

สรุปง่าย ๆ คือถ้าเรามองทองเป็น Safe Haven
เงิน ก็จะเป็นลูกผสมระหว่าง Safe Haven และภาคอุตสาหกรรมจริง

สำหรับความน่าสนใจของเงินเมื่อเทียบกับทองคำ
นอกจากราคาเงินจะผันผวนกว่า และผลตอบแทนที่มีแนวโน้มสูงกว่าทองคำแล้ว
ในแง่ของเงินลงทุนเริ่มต้น สินค้าเงินก็ยังใช้เงินลงทุนน้อยกว่าทองคำ

โดยเฉพาะปีนี้ เงินก็ถือว่าสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าทองคำ ชนิดที่ว่าเราอาจจะต้องเปลี่ยนไปพูดติดตลกแต่เป็น Fact กันได้เลยว่าใครลงทุนเงินเป็นพี่ ใครลงทุนทองเป็นน้อง..

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ

รู้หรือไม่ว่าแม้เงินจะขึ้นมาแล้วเกือบ 60% ในปีนี้ แต่ถ้าเทียบกับอดีต เงินเป็นเพียงสินค้าโภคภัณฑ์กลุ่มโลหะมีค่าเพียงตัวเดียว ที่ยังไม่ทำ ALL-TIME HIGH

โดยจุดสูงสุดของเงิน อยู่ที่ราคาราว 49.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ในปี 2011
ซึ่งยังสูงกว่าราคาปัจจุบันอยู่ราว 7%

ไม่ว่าเราจะมองทางไหน ขาขึ้น หรือ ลง เราก็สามารถใช้เครื่องมือ Silver Online Futures สร้างผลตอบแทนได้ทั้ง 2 ฝั่ง

สำหรับใครที่อยากศึกษาเพิ่มเติมเรื่องการสร้างผลตอบแทนทั้งขาขึ้น - ลง ด้วย Futures และ Options
ลงทุนแมน กำลังจะจัด WORKSHOP ร่วมกับ TFEX เกี่ยวกับ Futures และ Options ฉบับมือใหม่
ใครสนใจ ที่นั่งมีจำนวนจำกัด ! รีบไปจองกันได้ที่ลิงก์ https://www.set.or.th/th/about/event-calendar/event/eventdetails?id=87970