
คนรวยสุดในเวียดนาม ขึ้นมารวยเท่า เจ้าสัวธนินท์ เศรษฐีเบอร์ 1 ของไทย
คนรวยสุดในเวียดนาม ขึ้นมารวยเท่า เจ้าสัวธนินท์ เศรษฐีเบอร์ 1 ของไทย /โดย ลงทุนแมน
ไทยกับเวียดนาม ถือเป็นคู่แข่งที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกันแทบทุกมุม
ไทยกับเวียดนาม ถือเป็นคู่แข่งที่ถูกนำมาเปรียบเทียบกันแทบทุกมุม
หากพูดถึงมหาเศรษฐีที่รวยสุดในประเทศไทย เราคงนึกถึง คุณธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือซีพี
แล้วถ้าถามว่า ใครคือคนที่รวยสุดในเวียดนาม ?
คำตอบคือ คุณฝ่าม เญิ้ต เวือง (Phạm Nhật Vượng) ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 57 ปี
คำตอบคือ คุณฝ่าม เญิ้ต เวือง (Phạm Nhật Vượng) ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 57 ปี
สิ่งที่น่าสนใจ และอาจทำให้หลายคนประหลาดใจคือ ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของทั้งสองประเทศ มีความร่ำรวยอยู่เท่ากันแล้ว..
ซึ่งทั้งคู่มีความมั่งคั่งราว 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยคุณเวือง เป็นหนึ่งในคนเวียดนามที่เกิดมาในช่วงที่เวียดนาม กำลังอยู่ในยุคสงครามเวียดนาม เคยต้องหนีไปทำธุรกิจที่ต่างแดน
ก่อนที่จะกลับมาประสบความสำเร็จในประเทศบ้านเกิด
ก่อนที่จะกลับมาประสบความสำเร็จในประเทศบ้านเกิด
ไต่เต้ากลายมาเป็นเศรษฐี Billionaire คนแรกของประเทศ
แล้วกว่าจะมาถึงจุดนี้ เขาผ่านอะไรมาบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คุณเวือง เป็นชาวเวียดนามที่ถือกำเนิดขึ้นในเมืองไฮฟอง ที่ตั้งอยู่ทางเวียดนามตอนเหนือ
ช่วงเวลานั้น เวียดนามกำลังอยู่ในภาวะสงครามที่ประเทศเวียดนามแบ่งออกเป็น 2 ขั้ว
ขั้วคอมมิวนิสต์ก็คือ เวียดนามเหนือ ซึ่งมีสหภาพโซเวียตและจีนสนับสนุน
ขั้วต่อต้านคอมมิวนิสต์ก็คือ เวียดนามใต้ ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาสนับสนุน
เรื่องนี้ทำให้คุณพ่อของคุณเวือง ต้องเข้าร่วมกับกองทัพอากาศ ตั้งแต่เด็ก คุณเวืองจึงต้องอยู่กับคุณแม่ที่ทำธุรกิจเปิดร้านน้ำชาเล็ก ๆ พอประทังชีวิต
อย่างไรก็ตาม ความชื่นชอบในวิชาคณิตศาสตร์ ทำให้คุณเวือง จบการศึกษาที่ Hanoi University of Mining and Geology และสามารถสอบชิงทุนเพื่อศึกษาต่อที่สหภาพโซเวียตได้สำเร็จ
แต่โชคชะตาก็ดันมาเล่นตลกอีกครั้ง เพราะหลังจากคุณเวืองจบการศึกษา สหภาพโซเวียตก็ได้ล่มสลายลง..
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณเวือง จึงตัดสินใจไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ประเทศยูเครน
ที่นั่นเองกลับเป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางมหาเศรษฐีที่รวยสุดในประเทศเวียดนามของคุณเวือง
แล้วเขาเริ่มต้นทำธุรกิจอะไร ?
หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ทำให้ประเทศยูเครนได้รับผลกระทบหนัก คนยูเครนจึงลำบาก และมีฐานะยากจน
เรื่องนี้จึงทำให้คุณเวือง เริ่มต้นทำธุรกิจร้านอาหารเวียดนาม ต่อมาก็ได้ทำธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขายให้กับชาวยูเครน ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ในยุคนั้น เพราะแทบจะไม่มีใครรู้จัก
แต่ด้วยความที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าราคาถูก และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อ Mivina ของคุณเวือง จึงกลายมาเป็นสินค้ายอดนิยมอย่างรวดเร็ว
เรื่องนี้ส่งผลให้คุณเวืองในวัย 25 ปี สามารถก่อตั้งบริษัท Technocom ทำธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจนกลายมาเป็นผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ครองตลาดประเทศยูเครนได้สำเร็จ
ซึ่งภายหลังคุณเวือง ก็ได้ตัดสินใจขายธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้กับ Nestlé เป็นมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท และหลังจากนั้นเขาตัดสินใจกลับไปเริ่มสร้างธุรกิจที่บ้านเกิดอีกครั้ง
เงินทุนมหาศาลก้อนนี้ คือใบเบิกทางให้เขาได้กลับไปสร้างตำนานบทใหม่ที่ประเทศบ้านเกิด..
สำหรับธุรกิจที่ประเทศเวียดนาม คุณเวือง ได้เริ่มต้นธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สร้างโรงแรม ห้างสรรพสินค้า
สอดคล้องกับนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศเวียดนาม
สอดคล้องกับนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศเวียดนาม
โดยจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ได้เติบโตกลายเป็น Vingroup ปัจจุบันเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเวียดนาม ด้วยมูลค่าบริษัทกว่า 792,000 ล้านบาท
แซงหน้า Vietcombank ธนาคารใหญ่สุดของเวียดนาม เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว
ซึ่ง Vingroup เป็นบริษัทโฮลดิง ที่ประกอบไปด้วยเครือบริษัทอื่น ๆ มีทั้งธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ศูนย์การค้า โรงแรม โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย เทคโนโลยี รวมไปถึงธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า VinFast
ผลประกอบการของ Vingroup ที่ผ่านมา
ปี 2021
รายได้ 150,800 ล้านบาท กำไร -3,000 ล้านบาท
รายได้ 150,800 ล้านบาท กำไร -3,000 ล้านบาท
ปี 2022
รายได้ 122,200 ล้านบาท กำไร 10,500 ล้านบาท
รายได้ 122,200 ล้านบาท กำไร 10,500 ล้านบาท
ปี 2023
รายได้ 193,700 ล้านบาท กำไร 2,600 ล้านบาท
รายได้ 193,700 ล้านบาท กำไร 2,600 ล้านบาท
ปี 2024
รายได้ 226,900 ล้านบาท กำไร 14,300 ล้านบาท
รายได้ 226,900 ล้านบาท กำไร 14,300 ล้านบาท
6 เดือนแรก ปี 2025
รายได้ 156,400 ล้านบาท กำไร 7,700 ล้านบาท
รายได้ 156,400 ล้านบาท กำไร 7,700 ล้านบาท
แล้วทำไมคุณเวือง ถึงรวยเทียบคุณธนินท์ได้ ?
คำตอบอยู่ที่การเติบโตอย่างร้อนแรงของราคาหุ้นในกลุ่ม Vingroup..
โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
- Vingroup +320%
- Vinhomes +152%
- Vincom Retail +93%
- Vingroup +320%
- Vinhomes +152%
- Vincom Retail +93%
ซึ่งการที่ราคาหุ้นทั้งกลุ่ม Vingroup พุ่งแรง ก็ทำให้คุณเวือง มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ล่าสุดจากข้อมูล Forbes เขามีความมั่งคั่งราว 16,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวยขึ้น 150% หรือมากกว่าเท่าตัว นับจากตอนต้นปี
ทำให้ความมั่งคั่งของเขาขึ้นมาเท่ากับคุณธนินท์ เจียรวนนท์ คนรวยสุดของประเทศไทยเราแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความมั่งคั่งของคุณเวืองก็มีความเปราะบางซ่อนอยู่
เมื่อเจาะลึกลงไปในสถานะทางการเงินของบริษัท พบว่า หลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายของกลุ่ม Vingroup บริษัทต้องเผชิญกับปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามที่กดดันรายได้หลัก จาก Vinhomes
ขณะเดียวกัน ต้องทุ่มเงินทุนมหาศาลเพื่อสนับสนุน VinFast ที่ยังคงขาดทุนอย่างต่อเนื่องหลายปี
โดยในปี 2024 VinFast มีรายได้ 52,800 ล้านบาท แต่กลับขาดทุนสูงถึง 92,700 ล้านบาท
โดยในปี 2024 VinFast มีรายได้ 52,800 ล้านบาท แต่กลับขาดทุนสูงถึง 92,700 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีหนี้สินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดย ณ ไตรมาส 2 ปี 2025 Vingroup มีหนี้สินกว่า 967,000 ล้านบาท (เป็นหนี้ระยะสั้น 608,000 ล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นอัตราหนี้สินต่อทุนสูงถึง 5 เท่า
และปัจจุบัน หุ้น Vingroup ซื้อขายกันบนระดับ P/E ราว ๆ 50 เท่า
รวมไปถึงเรื่องการใช้มาร์จิน หรือใช้เงินกู้มาซื้อหุ้น ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในตลาดหุ้นเวียดนาม
ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ดันให้ราคาหุ้นของกลุ่ม Vingroup ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงอีกด้วย
ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ดันให้ราคาหุ้นของกลุ่ม Vingroup ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงอีกด้วย
ซึ่งตอนที่ทุกอย่างกำลังไปได้สวย
ราคาหุ้นของกลุ่ม Vingroup ก็อาจปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ
ราคาหุ้นของกลุ่ม Vingroup ก็อาจปรับตัวขึ้นเรื่อย ๆ
แต่เมื่อไรที่สถานการณ์ไม่เป็นใจ นักลงทุนให้ความคาดหวังกับธุรกิจน้อยลง
ก็อาจเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงได้
ก็อาจเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงได้
สุดท้าย ความมั่งคั่งของคุณเวืองที่เพิ่มขึ้นอย่างเปราะบางนี้ ก็อาจลดลงได้อย่างรุนแรงเช่นกัน..