GC X ลงทุนแมน

หลังจากประสบความสำเร็จที่ได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในการขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ในช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา

ล่าสุด บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ สกุลเงินบาทชุดใหม่

ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือของ GC ที่ระดับ AA-(tha) แนวโน้ม “มีเสถียรภาพ” เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ A(tha) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือเป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงสุดในปัจจุบัน

จากความสำเร็จของการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ครั้งที่แล้ว สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อศักยภาพธุรกิจและสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของ GC

การออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ครั้งนี้ของ GC ไม่ใช่แค่เสริมความแกร่งทางการเงินอย่างเดียว แต่เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทภายใต้ Deleveraging Program ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2567

รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถทางการแข่งขัน ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาขับเคลื่อนสร้างการเติบโต โดยเฉพาะในธุรกิจมูลค่าสูงคาร์บอนต่ำ (High Value - Low Carbon) เมกะเทรนด์วงการเคมีทั่วโลก

รายละเอียดหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ครั้งนี้ เป็นอย่างไร ?
แล้วการมุ่งสู่ธุรกิจมูลค่าสูงคาร์บอนต่ำ จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนอย่างไรให้แก่ GC ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

อุตสาหกรรมเคมีทั่วโลกกำลังเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจผันผวน ที่ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์เคมีบางประเภทลดลง รวมทั้ง เทรนด์การใช้เคมีที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อผู้บริโภคและบริษัทเริ่มให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

“ปรับตัว ยืดหยุ่นสูง” จึงไม่ใช่แค่วิธีให้ธุรกิจอยู่รอด
แต่เป็นวิธีขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตได้ในทุกความท้าทายและการเปลี่ยนแปลง

GC เองก็ใช้แนวคิดนี้ ในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพในรูปแบบ Holistic Optimization อธิบายง่าย ๆ คือ GC จะปรับเปลี่ยนทุกระบบในธุรกิจตัวเอง จากนั้นก็เชื่อมโยงทุกระบบให้ทำงานร่วมกันเป็นองค์รวม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

แล้วหัวใจหลักในการปรับตัวครั้งนี้ของ GC คืออะไร ?

นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลถูกนำมาใช้ในทุกระบบของบริษัท และมุ่งสร้างการเติบโตธุรกิจมูลค่าสูงคาร์บอนต่ำ ตอบสนองความต้องการที่กำลังเป็นเมกะเทรนด์ของโลกที่ทาง GC โฟกัสเป็นพิเศษ ผ่านการดึงศักยภาพของ allnex ที่เป็นผู้ผลิตเรซินสารเคลือบผิวระดับโลก

โดย GC ได้ซื้อกิจการมาเพื่อผนึกกำลังต่อยอดไปสู่ธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) ผ่านการขยายฐานการผลิต และเน้นวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในตลาดที่เติบโตสูง เช่น จีน และอินเดีย รวมไปถึงตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนธุรกิจชีวภาพ บริษัทร่วมทุนอย่าง NatureWorks ก็กำลังก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพแห่งที่ 2 ของโลกในจังหวัดนครสวรรค์ โดยทั้ง 2 ธุรกิจนี้จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับ GC ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก

จะเห็นว่า GC กำลังปรับพอร์ตโฟลิโอธุรกิจตัวเอง... จากเดิมที่มุ่งเน้นธุรกิจเคมีภัณฑ์ทั่วไป (Commodity Chemical) เพียงอย่างเดียว อาจไม่ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเคมี

การเร่งเพิ่มสัดส่วนธุรกิจเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ และผลิตภัณฑ์ชีวภาพ นอกจากตอบโจทย์ความยั่งยืนทั้งลูกค้ากลุ่ม B2B และ B2C แล้วนั้น ยังมีกำไรต่อหน่วยสูงและมีโอกาสเติบโตจากเมกะเทรนด์ในโลกธุรกิจด้วยสินค้าลดคาร์บอน

การเตรียมออกหุ้นกู้ครั้งนี้ของ GC เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัท ภายใต้ Deleveraging Program เพื่อใช้เสริมแกร่งเงินทุน พร้อมสำหรับการเติบโตของธุรกิจมูลค่าสูงคาร์บอนต่ำ (High Value - Low Carbon) รองรับการเติบโตระยะยาว

โดยล่าสุดทาง GC อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ โดยอัตราดอกเบี้ยและวันจองซื้อที่แน่นอน ทาง GC จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ส่วนข้อมูลที่ชัดเจนแล้วคือ หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่เสนอขายครั้งนี้ ทาง GC สามารถใช้สิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนกำหนดได้ เมื่อหุ้นกู้มีอายุครบ 5 ปี 6 เดือน เป็นต้นไป เนื่องจากเมื่อครบ 5 ปี 6 เดือนแล้ว ทาง S&P จะเปลี่ยนจากการนับส่วนของทุน 50% และหนี้ 50% ไปเป็นหนี้สินทั้งหมด 100% ซึ่ง GC จะไม่ได้รับประโยชน์จากการนับเป็นส่วนของทุน จึงมีแนวโน้มที่ GC จะใช้สิทธิในการไถ่ถอนหุ้นกู้ ก่อนครบกำหนด (แม้ว่า Moody’s, Fitch Rating (International) และ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จะยังนับเป็นส่วนของทุน 50% ให้ตลอดอายุหุ้นกู้ก็ตามเหมือนหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ของ GC ที่ออกในปี 2567) และกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป
- สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท
- ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

ผู้สนใจสามารถติดต่อจองซื้อ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือ โทร. 1333 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Bangkok Bank Mobile Banking
- ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-626-7777
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest ได้ ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าวและนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) โทร. 02-888-8888 กด 869 และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-111-1111 หรือจองซื้อออนไลน์บนแอปพลิเคชัน Krungthai Next ผ่านระบบ Money Connect by Krungthai
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป Dime! และรวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของ
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
- บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 1572
- บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5555
- บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 1428 กด #4 (เปิดจองซื้อเฉพาะผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)
- บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56

หมายเหตุ :
- แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนยังไม่มีผลใช้บังคับ เนื่องจากอยู่ระหว่างยื่นขออนุญาตต่อสำนักงาน ก.ล.ต.
- การจัดสรรหุ้นกู้ดังกล่าวให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ตามแต่จะเห็นสมควร

คำเตือน :
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th