สรุปไฮไลต์ GPF Fund Fair 2025 ที่สมาชิก กบข. ไม่ควรพลาด / ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง x กบข.

จบไปแล้วสำหรับมหกรรมงานใหญ่แห่งปี GPF Fund Fair 2025 ของทางกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ที่ชวนสมาชิกมาร่วมยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มทักษะและสร้างความมั่นคงทางการเงิน เพื่อการเกษียณอย่างมีความสุข

ซึ่งครั้งนี้พิเศษสุดจัดเต็มกว่าครั้งไหน ๆ..

เพราะทาง กบข. ขนเอาทัพผู้บริหาร ทีมลงทุน นำโดยคุณทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการฯ กบข. เพื่อไปพบสมาชิกโดยเฉพาะ

ความน่าสนใจของ GPF Fund Fair 2025 มีอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง

เริ่มที่ คุณทรงพล ฉายภาพสถานการณ์การลงทุนในปี 2568 ที่ผ่านมาว่า เป็นอีกปีที่สถานการณ์ไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงมากกว่าปี 2567

สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่สุดในโลก โดยมีทรัมป์ ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีของประเทศปัจจุบัน ได้ดำเนินนโยบายที่มุ่งเน้นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศมากขึ้น ผ่านกำแพงภาษีและสงครามการค้า ส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

ส่วนในภาพใหญ่ของไทย เศรษฐกิจก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน รวมถึงเผชิญปัญหาภายในประเทศเอง อย่างเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง

อย่างไรก็ตาม จากนี้จนถึงสิ้นปี ปัจจัยต่าง ๆ ในประเทศน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยทาง ธปท. ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปบางส่วนแล้ว และคาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้ง แต่ยังมีความท้าทายโดยเฉพาะเรื่องปัญหาหนี้สิน ความมั่นใจในการใช้จ่าย

ทั้งนี้ คุณทรงพล กล่าวว่าปี 2568 ในเรื่องผลตอบแทนของ กบข. ปีนี้ไม่น่ามีความกังวลนัก สะท้อนผ่าน การประมาณการผลตอบแทน กบข. (หลังหักค่าใช้จ่าย) ตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2568

- แผนหลัก +4.78%
- แผนทองคำ +44.17%
- แผนหุ้นต่างประเทศ +18.48%
- แผนสมดุลตามอายุ (อายุไม่เกิน 51 ปี) +9.06%
- แผนสมดุลตามอายุ (อายุเกิน 55 ปี) +7.24%
- แผนสมดุลตามอายุ (อายุเกิน 59 ปี) +4.93%

จุดสำคัญที่สมาชิกทุกคนควรเข้าใจ ความผันผวนระยะสั้นจากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น ตลาดหุ้น ดอกเบี้ย ค่าเงิน หรือปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ จะยังคงเกิดขึ้นอยู่เสมอและหลีกเลี่ยงไม่ได้

ซึ่งการโฟกัสกับผลตอบแทนระยะสั้น อาจทำให้เสียโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาว

สอดคล้องกับแผนการดำเนินงาน กบข. ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญคือ การให้น้ำหนักกับมุมมองการลงทุนระยะกลางถึงยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรระยะสั้น

โดยมุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนการลงทุนระยะยาวให้กับสมาชิก มีเป้าหมายเอาชนะอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยระยะยาวของไทยบวก 2% เพราะอย่างน้อย ๆ ผลตอบแทนที่ได้นั้น ก็สามารถรักษากำลังซื้อของเงินนั้นได้

ซึ่งก็เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สมาชิกได้เกษียณอย่างมีความสุข

ปัจจุบัน กบข. กระจายการลงทุนไปยังหลากหลายสินทรัพย์อย่างเหมาะสม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเป็นสัดส่วน 40% และ 60% ตามลำดับ

เช่น ตราสารทุนไทย, ตราสารทุนต่างประเทศพัฒนาแล้ว, ตราสารทุนประเทศเกิดใหม่, ตราสารหนี้ภาครัฐไทย, ตราสารหนี้ภาครัฐโลก, ตราสารหนี้ภาคเอกชนโลก, ตราสารหนี้ภาคเอกชนไทย ฯลฯ

ซึ่งช่วงที่เหลือของปีนี้ กบข. มีการเพิ่มแผนการลงทุนทางเลือก ที่ยึดหลักชะรีอะฮ์ สำหรับสมาชิกที่นับถือศาสนาอิสลาม

และอีกแผนที่น่าสนใจคือ แผนเกษียณสบายใจ สำหรับสมาชิกใกล้เกษียณ โดยจะมีการลงทุนสินทรัพย์ที่เน้นรักษาเงินต้นเป็นหลัก ซึ่งอาจมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบคู่ไปกับแผนนี้ด้วย

นอกจากนี้ กบข. จะมีการเปลี่ยนชื่อแผนการลงทุนเดิม ช่วยให้สมาชิกเข้าใจในสินทรัพย์ที่อยู่ในแผนการลงทุนมากขึ้น อย่างเช่น แผนหลัก เปลี่ยนชื่อเป็น แผนลงทุนพื้นฐานทั่วไป, แผนหุ้น 65 เปลี่ยนชื่อเป็น แผนเชิงรุก 65 เป็นต้น

ต่อมาอีกเซสชันที่น่าสนใจคือ ทีมลงทุนพบสมาชิก ซึ่งจัดมาเพื่อประโยชน์ของสมาชิกโดยตรง ที่จะได้รับทราบข้อมูล และมีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น

การลงทุนของ กบข. จะอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของทีมลงทุนคุณภาพ ที่ติดตามสถานการณ์ และดูแลผลประโยชน์ของสมาชิกอย่างใกล้ชิด

มีการกำหนดกรอบการลงทุนที่ชัดเจนและยึดมั่นในแผนที่วางไว้ และมีคณะกรรมการ กบข. อนุกรรมการจัดการลงทุน ที่มาช่วยกำกับดูแลอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นหลักการลงทุนที่นักลงทุนมืออาชีพทั่วโลกปฏิบัติอยู่แล้ว

โดยเน้นการบริหารพอร์ตโฟลิโอแบบ Strategic Asset Allocation หรือที่เรียกว่า SAA คือการกำหนดสัดส่วนสินทรัพย์เติบโตและสินทรัพย์มั่นคงด้วยมุมมองระยะยาว เพื่อช่วยให้สมาชิกบรรลุเป้าหมายเกษียณ

ซึ่งทีมลงทุนได้มีการจัดทำกลยุทธ์การลงทุนในปี 2569 ตามแต่ละกรณี แบ่งออกเป็น 3 กรณีหลัก

1. กรณีเลวร้าย (Worst Case) : Hard Landing

โอกาสที่จะเกิดขึ้น : 20%
คำอธิบาย : สงครามการค้ารุนแรง, เศรษฐกิจถดถอย
แนวโน้มนโยบายของ FED : ลดดอกเบี้ย 3-4 ครั้ง
มุมมองสินทรัพย์ที่โดดเด่น : ตราสารหนี้

2. กรณีฐาน (Base Case) : Soft Landing

โอกาสที่จะเกิดขึ้น : 70%
คำอธิบาย : เศรษฐกิจเติบโตช้า แต่ไม่หดตัว
แนวโน้มนโยบายของ FED : ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง
มุมมองสินทรัพย์ที่โดดเด่น : ตราสารหนี้, ตราสารทุน

3. กรณีที่ดี (Good Case) : No Landing

โอกาสที่จะเกิดขึ้น : 10%
คำอธิบาย : เศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่ง, สงครามการค้ามีผลกระทบจำกัด
แนวโน้มนโยบายของ FED : ลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง
มุมมองสินทรัพย์ที่โดดเด่น : ตราสารทุน

และอีกไฮไลต์สำคัญคือ ลงทุนแมนได้มีโอกาสสัมภาษณ์สุดพิเศษกับทางคุณทรงพลเพิ่มเติม

คุณทรงพล พูดถึงแนวทางในการเลือกแผนการลงทุนของสมาชิก กบข. ว่า การลงทุนในแผนที่สอดคล้องกับอายุเป็นอีกหนึ่งทางเลือกน่าสนใจ อย่างแผนสมดุลตามอายุ หรือ Life Path

เนื่องจากมีการปรับสัดส่วนสินทรัพย์เติบโตให้ลดลงโดยอัตโนมัติเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ตามหลักการง่าย ๆ อายุยิ่งน้อย สินทรัพย์เติบโตยิ่งเยอะ อายุยิ่งเยอะ สินทรัพย์เติบโตยิ่งน้อย

เหตุผลก็ไม่ยาก เพราะเมื่ออายุยังน้อย เรามีเวลาในการลงทุนอีกยาวนาน หากตลาดปรับตัวลงในช่วงใดช่วงหนึ่ง เรายังมีเวลาให้พอร์ตฟื้นตัวกลับมา

แต่เมื่ออายุมากขึ้นและใกล้เกษียณ เราจำเป็นต้องลดความเสี่ยงลง
เพราะไม่มีเวลาให้รอพอร์ตฟื้นตัว หากเกิดวิกฤติขึ้นมา

ทั้งนี้ สมาชิกที่สามารถรับความเสี่ยงได้สูง ก็ควรพิจารณาอยู่ในแผนที่มีสัดส่วนสินทรัพย์เติบโตสูง
เพราะในระยะยาว สินทรัพย์ประเภทนี้มักจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

และสมาชิกยังสามารถเลือกออมเพิ่มได้เช่นกัน เพื่อเร่งสร้างความมั่งคั่งให้ตนเอง ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากระบบ กบข. ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายของงาน GPF Fund Fair 2025 นั้น ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมที่มุ่งเน้นการเสริมทักษะทางการเงินและไลฟ์สไตล์ให้กับสมาชิก

- กิจกรรมรวยไม่ใช่เล่น ซึ่งเปิดโอกาสให้สมาชิกได้ทดลองบริหารเงินผ่านเกมจำลองสถานการณ์

- กิจกรรมสร้างรายได้จาก TikTok เพื่อเรียนรู้กลยุทธ์และเทคนิคการสร้างคอนเทนต์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในยุคดิจิทัล

- กิจกรรม Money Freedom เส้นทางสู่ชีวิตการเงินที่เลือกได้ กับโค้ชหนุ่ม จักรพงษ์ เมษพันธุ์ Money Coach ที่มาร่วมแชร์เคล็ดลับการจัดการเงินส่วนบุคคล

รวมไปถึง สมาชิกสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน กบข. แบบส่วนตัว โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมร่วมสนุกลุ้นรับของที่ระลึกจากบูท กบข. และพันธมิตรสวัสดิการ รวมทั้งรับ GPF Point เพื่อสะสมแลกของที่ระลึกได้อีกด้วย

งาน GPF Fund Fair 2025 กบข. ได้จัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยกระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั้ง อุบลราชธานี อุดรธานี ชลบุรี ซึ่งงานครั้งนี้เป็นการจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ และในเดือนหน้า GPF Fund Fair 2025 จะมีขึ้นที่จังหวัดสงขลา

ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้สมาชิกวางแผนการเงินได้อย่างเข้าใจ เพิ่มโอกาสให้สมาชิกสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงิน มีคุณภาพชีวิตที่มั่นคงหลังเกษียณ และเกษียณอย่างมีความสุขนั่นเอง..

Reference
- งาน GPF Fund Fair 2025