NEXTOPIA เมืองต้นแบบแห่งโลกอนาคต ที่คุณไม่เคยค้นพบ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของไทย บนสยามพารากอน / ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง x สยามพารากอน

โลกอนาคตของเราจะเป็นอย่างไร ?
คำถามนี้คงเป็นคำถามที่หลายคนคงตอบไม่ได้ ถ้าตอบได้ก็คงจินตนาการและคาดเดาไปต่างๆ นานา

วันนี้ สยามพารากอน สร้างประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมายอีกครั้ง ทุ่มเงินลงทุนกว่า 850 ล้านบาท พร้อมปล่อยพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตรบนชั้น 5 สร้างเมืองต้นแบบแห่งอนาคตที่ชื่อว่า NEXTOPIA ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนมีส่วนสำคัญในการสร้างโลกที่ดีกว่าได้

ภายใต้ Revolutionary Concept ให้ธุรกิจรีเทล ในฐานะ Game Changer ที่พิสูจน์แล้วว่าศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก เนรมิตรสร้างแลนด์มาร์กใหม่ของประเทศ ที่ใหม่ล่าสุดและเป็นครั้งแรกของโลกอีกด้วย

NEXTOPIA เมืองต้นแบบแห่งโลกอนาคต บนสยามพารากอน น่าสนใจแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

NEXTOPIA ถูกออกแบบด้วยแนวคิด Sustainability, Equality และ Inclusivity

นี่คือเมืองต้นแบบที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ NEXTOPIA Model คือแพลตฟอร์มแห่งการผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อร่วมสร้างโลกที่ดีกว่า ผ่านแนวคิด Co-creation ด้วยการจับมือกับพันธมิตรเครือข่ายธุรกิจต่าง ๆ มากมายกว่า 50 องค์กรนวัตกรรม, 30 คอมมูนิตี้ของ Friends of NEXTOPIA และผู้ประกอบการกว่า 40 ร้านค้า และ กว่า 300 SMEs ให้มาร่วมออกแบบและสร้างเมืองโลกอนาคตด้วยกันครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย พร้อมสร้าง Experiential Engagement ที่สนุกและสร้างผลกระทบเชิงบวกสู่ความยั่งยืน

ซึ่งเป็นการเปิดพื้นที่ให้เกิดการมีส่วนร่วมเชิงสร้างสรรค์ ชวนทุกคนเข้ามาร่วมกิจกรรม สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกและสังคม ผ่าน ECO-workshops, Exhibitions และ Talks

พร้อมโชว์เคสจากพันธมิตรระดับโลก โดยมี Community Room พื้นที่ Co-working Space ใจกลางกรุงเทพฯ เปิดให้ทุกคนมาทำงาน ค้นหาแรงบันดาลใจ และเป็นศูนย์กลางกิจกรรมคอมมูนิตี้เพื่อคุณและโลกที่ดีขึ้น ตลอด 365 วัน

เริ่มตั้งแต่เมื่อเรากำลังเดินเข้าไปในเมืองอนาคตแห่งนี้ เราจะพบกับ The Tree ที่นำไม้มาเหลาเรียงบรรจงเรียงซ้อนและพันสูงขึ้นไป ซึ่งเป็นการเล่าให้เห็นภาพว่า ความหรูหราที่แท้จริงของการใช้ชีวิตคือการได้อยู่ใกล้พื้นที่สีเขียว

และการเดินเข้าไปในทุกย่างก้าวใน NEXTOPIA แห่งนี้ รู้ไหมว่า เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตพลังงานไฟฟ้าให้กับเมือง ซึ่งหากเมื่อรวมกันแล้วกลายเป็นพลังงานมหาศาลเลยทีเดียว

เพราะมีนวัตกรรมที่เรียกว่า The Kinetic Floor พื้นอัจฉริยะที่เก็บเกี่ยวพลังงานจลน์จากการเดินทุกย่างก้าวของเราให้เป็นพลังงานไฟฟ้า โดย Bangkok Cable และ NEXTOPIA และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังร่วมกันพัฒนาขึ้น

ลองนึกภาพตามว่า มันจะสนุกแค่ไหนแค่ไหน ที่เราแค่เดิน เต้น หรือออกแรงทำอะไรกับพื้นในเมือง ก็สามารถเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งทำให้เราทุกคนมีคุณค่ากับเมืองในการช่วยผลิตไฟฟ้าร่วมกัน

ซึ่งถ้าเราอยากรู้ว่าตอนนี้ NEXTOPIA ผลิตไฟฟ้าจากทุกคนไปมากแค่ไหนแล้ว เราก็สามารถเงยหน้ามองไปขึ้นด้านบนให้เห็น The Globe ลูกโลกจำลองขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่หมุนอยู่ตรงหน้า ที่ทาง NEXTOPIA ร่วมมือกับ PlanB ทำเป็นลูกโลกขนาดยักษ์ที่มีแดชบอร์ดแห่งชีวิตที่รายงานผลลัพธ์ทุกการทำจริงใน NEXTOPIA ตอนนี้ได้

โดย The Globe ก็ไม่ได้มีไว้แค่ดูแดชบอร์ดอย่างเดียวเท่านั้น แต่เรายังสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของทั่วโลก ทั้งพายุ เมฆฝน แผ่นดินไหว และอากาศทั่วโลกได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้ข้อมูลเหล่านี้จาก องค์กรชั้นนำอย่าง GISTDA และ NASA

เรียกได้ว่า แม้เราอยู่บนสยามพารากอน แต่เราสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวได้ทั่วโลกเลย

นอกจากพื้นผลิตพลังงานแล้ว ยังมีโซลาร์รูฟเหนือพื้นที่โครงการจาก BGRIMM ที่ช่วยสร้างพลังงานสะอาดให้กับเมืองแห่งนี้

แต่พลังงานสะอาดอย่างเดียวก็ยังไม่พอ เพราะเมืองโลกอนาคตต้องใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ซึ่งใน NEXTOPIA ยังมีนวัตกรรมคุณภาพและความเย็นที่ช่วยลดการใช้พลังงานอีกด้วย

เช่น Floor Radiant Cooling ระบบความเย็นแผ่รังสี ที่ให้ความเย็นแผ่มาจากพื้น โดยจะดูดซับความร้อนจากร่างกายและแผ่ความเย็นเฉพาะบริเวณที่มีคนอยู่ ความร้อนจะลอยขึ้นด้านบนและแผ่ระเหยออกไปด้านนอกทำให้เรารู้สึกเย็นอยู่เสมอ คล้ายเวลาเราอยู่ในถ้ำ แถมยังไม่มีระบบการเป่าลม จึงช่วยลดการกระจายของฝุ่นและเชื้อโรค

รวมไปถึงการมี Cooling Waterfall น้ำตกทำความเย็นที่สูง 16 เมตร ทอดตัวเชื่อมกัน 3 ชั้น ราวกับเป็นเครื่องปรับอากาศจากธรรมชาติขนาดมหึมา พร้อมกับระบบ DAS & DOAS อากาศมาตรฐานคลีนรูม จาก Daikin ที่เป็นระบบปรับอากาศขั้นสูง เลียนแบบห้องปลอดเชื้อเพื่อแยกอากาศเก่า สารปนเปื้อนลอยสู่ข้างบนต่อเนื่อง

พร้อมกับการใช้ Ultra Low VOCs สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายต่ำมากเป็นพิเศษ สีชนิดพิเศษจาก TOA ไม่ผสมตะกั่วและปรอท เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยให้เมืองแห่งนี้สีเขียวมากขึ้น และทำให้เมืองเย็นลง แต่ใช้พลังงานที่ลดลงตามไปด้วย

เมืองโลกอนาคตนี้ ยังเลือกใช้วัสดุเหลือใช้ ขยะรีไซเคิล และขยะจากท้องทะเลมารังสรรค์เป็นงานศิลป์ ตบแต่งพื้นที่ต่าง ๆ ให้เราได้เพลิดเพลินและรู้สึกอยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียว หรือก็คือให้ธรรมชาติกลายเป็นส่วนหนึ่งของเมือง เพื่อเชื่อมโยงกับเราทุกคนอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม แม้เมืองโลกอนาคตจะเปลี่ยนแปลงหรือล้ำสมัยมากแค่ไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่แน่นอน
นั่นคือ เราก็ต้องกิน ดื่ม และเข้าห้องน้ำอยู่ดี

ซึ่ง NEXTOPIA ก็ได้ออกแบบให้ทุกกิจกรรมที่ว่านี้ของเรา มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ด้วยการนำแบรนด์ร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟชื่อดังที่ใส่ใจความยั่งยืนเข้ามาอยู่ในเมืองเท่านั้น

โดยแต่ละร้านก็จะมีจุดเด่นทั้งการเลือกสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก หรือรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครจากทั้งในและต่างประเทศ

ร้านเหล่านี้จะถูกจัดการด้วยความยั่งยืน เริ่มตั้งแต่การลดขยะอาหาร การแยกขยะอย่างถูกต้อง ไปจนถึงการสนับสนุนให้แต่ละร้านใช้วัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนเกษตรกรในพื้นที่ต่าง ๆ ทางอ้อม

ส่วนระบบห้องน้ำ ก็ถูกออกแบบให้เป็น Smart Toilet ที่นำน้ำใช้แล้วมาบำบัดใช้ซ้ำที่ชักโครก เพื่อให้การใช้ห้องน้ำแต่ละครั้ง ประหยัดน้ำลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเรื่องราวของ NEXTOPIA เมืองต้นแบบแห่งโลกอนาคต ซึ่งจะเป็น Revolutionary Concept ที่ได้รับการจารึกว่าเป็นแห่งแรกของโลก ที่ให้คนไทยรวมไปถึงคนต่างชาติได้เข้ามาสัมผัสกับ The World you have never seen before นี้

ซึ่งพื้นที่เมืองโลกอนาคตนี้ ก็น่าจะเป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้เข้ามาเจอกัน พร้อมร่วมกันสร้างสรรค์แลกเปลี่ยนมุมมองใหม่ ๆ ระหว่างกัน เพื่อทำให้โลกของเราดียิ่งขึ้นมากกว่านี้อย่างไรได้บ้าง

และกลายเป็นพื้นที่แลนด์มาร์กสำคัญแห่งใหม่ของประเทศไทย ซึ่งจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจผู้คนจากทั่วโลกให้เข้ามาสัมผัส Global Experiential Destination ที่ทำให้ทุกการมาเยือนมีคุณค่าและมีความหมาย ทั้งต่อตนเอง สังคม และโลก ณ NEXTOPIA เมืองต้นแบบแห่งโลกอนาคตครั้งแรกของโลกที่สยามพารากอน.

Reference
- เอกสารประชาสัมพันธ์ NEXTOPIA