เจาะลึก เหตุใดตะวันออกกลาง ถึงเป็นโอกาสด้านความแข็งแกร่งด้าน  Wellness Economy ไทย

เจาะลึก เหตุใดตะวันออกกลาง ถึงเป็นโอกาสด้านความแข็งแกร่งด้าน Wellness Economy ไทย

เจาะลึก เหตุใดตะวันออกกลาง ถึงเป็นโอกาสด้านความแข็งแกร่งด้าน Wellness Economy ไทย/ ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง X BDMS Wellness Clinic
หากพูดถึง “โอมาน” ภาพจำของคนส่วนใหญ่ จะนึกถึงประเทศที่มีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ปัจจุบัน “โอมาน” มีสถานะเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่อยู่ในความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับที่มี 6 ประเทศในกลุ่มคือ ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE), คูเวต, โอมาน, กาตาร์ และบาห์เรน โดยมีจำนวนประชากรร่วมกัน 62.47 ล้านคน และมี GDP รวมกันสูงถึง 2.16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
โอมาน ถือเป็นประเทศที่มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงติดอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่งผลให้ไลฟ์สไตล์ประชากรของประเทศ ชื่นชอบสินค้าและบริการคุณภาพสูง
หนึ่งในนั้นคือ ความต้องการบริการสุขภาพระดับลักชัวรี ที่กำลังเติบโตต่อเนื่อง
แม้จะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจมั่งคั่ง รายได้ต่อประชากรสูง แต่ประชากรจำนวนไม่น้อยในประเทศ ต้องเผชิญความท้าทายด้านสุขภาพหลายมิติ เช่น การป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ Non-Communicable Diseases (NCDs)
Pain Point เหล่านี้เองที่ทำให้ BDMS Wellness Clinic ตัดสินใจขยายเครือข่ายสุขภาพไปยังประเทศในแถบตะวันออกกลาง ด้วยวัตถุประสงค์ในการมุ่งมั่นสร้างสังคมสุขภาพดีให้กับคนทั่วโลก หรือที่เรียกว่า “เศรษฐกิจสุขภาพ” ที่เป็น Mega Trend ของโลกที่กำลังเติบโตรวดเร็ว โดยทาง BDMS Wellness Clinic จะใช้เป็นเข็มทิศเพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจอย่างยั่งยืน
โดยล่าสุดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต รัฐสุลต่านโอมาน ได้เรียนเชิญ นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการผลักดันประเทศไทยก้าวสู่ Wellness Hub ระดับโลก
นับเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ ในการวางรากฐานการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ที่จะทำให้ Wellness Economy ประเทศไทย สร้าง Impact ไปยังทั่วโลกในอนาคตอันใกล้
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
World Health Organization หรือ WHO เผยว่ากว่า 80% ของผู้เสียชีวิตในโอมาน มาจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คิดเป็นราว ๆ 13,000 รายต่อปี หรือเฉลี่ยเสียชีวิต 1.5 ราย ต่อชั่วโมง
โดยโรคที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ, โรคมะเร็ง, โรคเบาหวาน และโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
ทีนี้หากเจาะข้อมูล Insight ลงลึกไปอีกจะพบว่าต้นเหตุของปัญหานี้ เริ่มต้นจากการที่ประชากรโอมาน เผชิญกับปัญหาโรคอ้วน หนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคเรื้อรัง
นายแพทย์ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือคุณหมอแอมป์ อธิบายประเด็นนี้ได้อย่างน่าสนใจว่า
ปัจจุบัน ชาวโอมานกว่า 66.9% หรือราว 3,328,275 คน อยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน
สาเหตุมาจากไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบบริโภคอาหารที่มีพลังงานสูง เคลื่อนไหวร่างกายน้อย เพราะชื่นชอบใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และไม่ค่อยให้เวลาในการดูแลสุขภาพตัวเอง
ปัจจัยเหล่านี้ถูกหล่อหลอมให้ประชากรโอมานเป็นโรคอ้วนที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงไปยังการเป็นโรคในกลุ่มไม่ติดต่อเรื้อรัง
การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน หรือ Proactive Healthcare จึงเป็นเสมือนกุญแจที่มาปลดล็อกปัญหาเหล่านี้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตพร้อมกับให้ประชากรตื่นตัวกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น เป็นวิธีการกำจัดความเสี่ยงในการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
ขณะเดียวกันยังมีการสนับสนุนระบบการดูแลสุขภาพให้มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
และไม่ใช่แค่โอมาน เท่านั้น แต่ประชากรในตะวันออกกลางต่างยอมรับมาตราฐานการรักษาของแพทย์ไทย, คุณภาพโรงพยาบาล, บริการด้านสุขภาพ เป็นต้น ที่จะส่งผลโดยตรงต่อการเติบโต Wellness Economy ในประเทศไทย
อีกทั้งปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
เพราะทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศให้ยั่งยืน นั่นคือ “ประชากร” ต้องมีสุขภาพที่ดี
ทำให้ช่วงหลายปีที่ผ่านมา “เศรษฐกิจสุขภาพ” หรือ Wellness Economy ที่เน้นการลงทุนพัฒนาบริการส่งเสริมสุขภาพร่างกายและจิตใจ เติบโตแบบก้าวกระโดด ปัจจัยเหล่านี้ ถือเป็นโอกาสการเติบโตของ BDMS Wellness Clinic ในตลาดต่างประเทศ
Global Wellness Institute (GWI) คาดว่าช่วงปี 2024-2029 “เศรษฐกิจสุขภาพ” ทั่วโลกจะมีอัตราเติบโตสูงถึง 7.6% ต่อปี โดยมีกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่จะเป็น Rising Star เติบโตอย่างโดดเด่น
ปรากฏการณ์นี้ถือเป็นประตูแห่งโอกาสที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่ Wellness Hub ระดับโลก
จากจุดแข็ง 2 เรื่องหลัก ๆ ที่เป็นหัวใจในอุตสาหกรรมนี้
1. การแพทย์ไทยที่ได้รับการยอมรับระดับโลกทั้งด้านบุคลากรการแพทย์ เทคโนโลยี และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยผ่านบริการที่มีมาตรฐานระดับสากล
2. ประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่คนทั่วโลกหลงใหลไม่ว่าจะเป็นภูเขาหรือทะเล
ตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดคือ BDMS Wellness Clinic x Sri panwa ที่ปัจจุบันได้กลายเป็น Destination เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการใช้บริการดูแลสุขภาพเชิงท่องเที่ยวในไทย
ประเทศไทยมีศักยภาพและความได้เปรียบในอุตสาหกรรมนี้ชัดเจน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับโอมานที่มีวิสัยทัศน์ Health Vision 2050 ต้องการยกระดับระบบสาธารณสุขให้มีคุณภาพสูงรับมือกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และการเข้าสู่สังคมสูงวัยสมบูรณ์แบบ
ตรงนี้เอง ทำให้เกิดการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ Wellness ระหว่างสองประเทศ โดยประเทศไทยจะใช้ความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่ได้การยอมรับระดับโลก ทั้งโรงพยาบาล, คลินิกดูแลสุขภาพระดับ Luxury เป็นต้น มาสนับสนุนระบบสาธารณสุขของประเทศโอมานอย่างหลากหลายมิติ รวมถึงส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ปัจจุบัน BDMS Wellness Clinic มีสถานะเป็นพันธมิตรกับประเทศโอมาน ในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพสมัยใหม่ให้ประชากรในโอมาน มีสุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรง
จะเห็นว่าแม้ BDMS Wellness Clinic จะไม่ใช่ธุรกิจขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น ๆ แต่กลับสามารถสร้างการร่วมมือระดับประเทศ เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการผลักดันประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Wellness Hub ระดับโลกในอนาคต
ก้าวต่อๆ ไปของ BDMS Wellness Clinic จึงน่าจับตามองไม่น้อยเลยทีเดียว
Reference
- ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (จำกัด)

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon