เส้นทาง 28 ปี ของ BONCAFÉ สู่บริษัทกาแฟรายได้พันล้าน

เส้นทาง 28 ปี ของ BONCAFÉ สู่บริษัทกาแฟรายได้พันล้าน

20 พ.ย. 2019
ผู้สนับสนุน..
เส้นทาง 28 ปี ของ BONCAFÉ สู่บริษัทกาแฟรายได้พันล้าน / โดย ลงทุนแมน
กาแฟ.. เป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายคนขาดไม่ได้
ยิ่งกาแฟมีคุณภาพดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งมอบความสุขให้กับผู้ดื่มมากเท่านั้น
BONCAFÉ จึงมีความตั้งใจที่จะนำเสนอกาแฟที่มีคุณภาพดีที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
หลายคนอาจคิดว่า BONCAFÉ ขายแฟรนไชส์
แต่จริงๆ แล้ว BONCAFÉ เป็นศูนย์รวมแบบครบวงจรสำหรับผู้ที่สนใจในธุรกิจกาแฟ
เรียกได้ว่าเป็น One Stop Coffee Solution ที่ให้บริการได้จบครบทุกอย่างในที่เดียว
ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดกาแฟ เครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์เสริม ผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ชาเขียว ชาผลไม้ ผงโกโก้ ไซรัป การจัดเวิร์คช็อปให้ความรู้เรื่องกาแฟและธุรกิจกาแฟอย่างสม่ำเสมอ ไปจนถึงหลักสูตรอบรมมืออาชีพสำหรับบาริสต้า
เรื่องราวของบริษัทนี้น่าสนใจอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
BONCAFÉ เป็นคำในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งแปลว่า กาแฟที่ดี หรือ กาแฟที่อร่อยนั่นเอง
โดยนำมาปรับให้คนไทยเรียกง่ายๆ ว่า “บอนกาแฟ”
บอนกาแฟมีจุดเริ่มต้นในปี 1962 ที่ประเทศสิงคโปร์
ก่อตั้งโดย Mr. W.E. Huber นักธุรกิจชาวสวิส ซึ่งมองหากาแฟที่มีคุณภาพดีในสิงคโปร์
และเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงสั่งซื้อเมล็ดกาแฟ และเปิดโรงคั่วเพื่อจำหน่ายกาแฟระดับพรีเมี่ยม
ต่อมาในปี 1991 จึงได้ร่วมกับ Mr. Urs T. Brunner ซีอีโอคนแรกของ บอนกาแฟ ประเทศไทย
นำแบรนด์บอนกาแฟ เข้าสู่ตลาดกาแฟคั่วบดในประเทศไทย
เมื่อเวลาผ่านไป แบรนด์บอนกาแฟเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถขยายกิจการไปยังหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย
จนมีสำนักงานอยู่ใน 10 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, มาเลเซีย, ฮ่องกง, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, จีน, เวียดนาม, มัลดีฟส์ รวมถึงไทย
ปี 2014 Massimo Zanetti Baverage Group (MZBG) หนึ่งในบริษัทเครื่องดื่มและกาแฟรายใหญ่ของโลกจากอิตาลี เจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Chock full o'Nuts, Chase & Sanborn, MJB, Hills Bros., Segafredo Zanetti ได้เข้าซื้อกิจการบอนกาแฟด้วยมูลค่ากว่า 2,580 ล้านบาท เพื่อขยายฐานสู่ตลาดเอเชียอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับธุรกิจของบอนกาแฟ ประเทศไทย
นอกจากเป็นผู้ผลิตและนำเข้ากาแฟรายใหญ่ของประเทศแล้ว
ยังเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องทำกาแฟแบรนด์ชั้นนำจากหลากหลายประเทศ
มีลูกค้าหลากหลายกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารและคาเฟ่ โรงแรม สำนักงาน รวมถึงยังวางจำหน่ายสินค้าในร้านค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ อีกด้วย
บอนกาแฟ มีทั้งแบรนด์กาแฟภายใต้ชื่อ BONCAFÉ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและคั่วบดกาแฟเองทั้งหมด และแบรนด์น้องตอบโจทย์กลุ่มคนรัก Specialty Coffee อย่าง Craze Café กาแฟซิงเกิ้ล ออริจิ้น ชั้นเยี่ยม
กาแฟแบรนด์ Boncafe Rainforest Reserve ที่ได้การรับรองจาก Rainforest Alliance
เพื่อสนับสนุนการเกษตรอย่างยั่งยืน
กาแฟ Segafredo กาแฟพรีเมี่ยมจากอิตาลี ซึ่งบอนกาแฟเองก็เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเจ้าเดียวในไทย
นอกจากนี้ยังจำหน่ายเครื่องดื่มผงสำเร็จรูป เช่น ชาเขียว ชาผลไม้ ผงโกโก้ ไปจนถึงซอสตกแต่ง น้ำเชื่อม และอุปกรณ์บาริสต้าต่างๆ
เรียกได้ว่ามีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมแทบจะทุกอย่างในธุรกิจกาแฟ
ที่น่าสนใจคือ บอนกาแฟ ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจที่ยั่งยืน
ตั้งแต่ระดับต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
เริ่มจากการสนับสนุนซัพพลายเออร์ที่เป็นเกษตรกรไทย
ผ่านการรับซื้อกาแฟอราบิก้าจากภาคเหนือ และโรบัสต้าจากภาคใต้
การเข้าไปพัฒนาองค์ความรู้เรื่องธุรกิจกาแฟให้กับชุมชน เช่น จัดอบรมความรู้ให้กลุ่มชาวบ้านบนดอยแม่สลองนอก หรือร่วมสานต่อโครงการเพื่อสังคมในการสร้างโอกาสทางอาชีพ กับ Dots Coffee ร้านกาแฟที่ดำเนินการทั้งหมดโดยผู้พิการทางสายตา
เพราะบอนกาแฟ เชื่อว่าความรู้เป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สุด
จึงไม่เพียงมีการจัดอบรมทั่วประเทศแก่ผู้ที่สนใจธุรกิจกาแฟ ซึ่งทำเป็นประจำต่อเนื่องมาอย่างยาวนานทุกปี
ในปี 2019 นี้ ยังจัดงานประกวด Thailand Creative Barista Challenge เพื่อพัฒนาทักษะบาริสต้าไทยให้ก้าวไกลไปอีกขั้น
เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สอง และได้รับความสนใจผู้คนในวงการบาริสต้ามากมาย
ด้านสิ่งแวดล้อม ที่โชว์รูมสาขาต่างๆ ของบอนกาแฟ ก็ได้หันมาใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ 100% ตั้งแต่แก้วกาแฟ หลอด และถุงพลาสติก เพื่อลดขยะที่จะกลายเป็นของเสียในอนาคต รวมถึงจัดแคมเปญ CSR สนับสนุนการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ทั้งกับภายใน และภายนอกองค์กร
จากทั้งหมดนี้ จึงทำให้ BONCAFÉ เติบโตอย่างยั่งยืน และพาไปสู่รายได้พันล้านต่อปี
แล้วผลประกอบการของ บอนกาแฟ ประเทศไทย เป็นอย่างไร?
ปี 2016 รายได้ 853 ล้านบาท กำไร 59 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 923 ล้านบาท กำไร 88 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 1,006 ล้านบาท กำไร 92 ล้านบาท
ถ้าดูจากแนวโน้มรายได้และกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสที่จะทำให้ไปสู่กำไรหลัก 100 ล้านบาทได้ในปี 2019
จะเห็นได้ว่า บอนกาแฟ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านของรายได้และกำไร
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงตลาดที่ใหญ่ขึ้น และพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมกาแฟมากขึ้น เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดที่มีการแข่งขันจากแบรนด์ต่างๆ ทำให้เห็นได้ว่าตลาดกาแฟ ยังไม่ใช่ขาลงอย่างที่หลายคนคิด
ในบรรดาเครื่องดื่มทั้งหมด
กาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีเสน่ห์ที่สุด
และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีกมากในอนาคต
ซึ่ง บอนกาแฟ ก็น่าจะมีส่วนร่วมกับการเติบโตนี้ได้เป็นอย่างดี..
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.