ผู้สนับสนุน..
กรณีศึกษา คริสตัล ยืนยัน...ใครว่าน้ำดื่มเหมือนกันหมด

“น้ำดื่ม” สินค้าที่ดูเผินๆ คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าแบรนด์ไหนก็ไม่ต่างกัน
ขอแค่เป็นน้ำดื่มที่มีแบรนด์ที่พอเชื่อถือได้ และรู้สึกว่าสะอาด ก็เพียงพอ?

แต่ “คริสตัล” ขอยืนยันว่า น้ำดื่มไม่ได้เหมือนกันหมด
เพราะสิ่งที่ทำให้น้ำดื่มแต่ละแบรนด์แตกต่างคือ “คุณภาพ” ซึ่งได้ทำการสื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง
ด้านคุณภาพ คริสตัล ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ
ไม่ว่าจะเป็น NSF จากสหรัฐอเมริกา หรือองค์การอาหารและยาของไทย
และเป็นน้ำดื่มที่ดื่มเข้าไปแล้ว ให้ความรู้สึก “สะอาด สดชื่น” ไม่เหมือนใคร
นี่จึงเป็นเหตุผลที่คริสตัลครองใจคนไทย และยืนหนึ่งในฐานะผู้นำตลาดน้ำดื่ม

นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นด้านการกระจายสินค้าที่ครอบคลุมและสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุด
ด้วยการมีโรงงานผลิตน้ำดื่ม 15 แห่ง ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ
ประกอบกับระบบการขนส่งจากเสริมสุข และบริษัทในเครือไทยเบฟเวอเรจ
ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคริสตัล กระจายสู่ทุกพื้นที่ของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยในปีที่ผ่านมา คริสตัลยืนหนึ่งเป็นแบรนด์น้ำดื่มอันดับหนึ่ง
ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเฉลี่ยทั้งปีที่ 19.1%
ของมูลค่าตลาดน้ำดื่มรวม 35,776 ล้านบาท

ความท้าทายของคริสตัลก็ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ เมื่อคู่แข่งก็หยิบเรื่องคุณภาพมาเป็นจุดขายเหมือนกัน
ด่านต่อไปคือ การทำให้น้ำดื่มคริสตัล โดดเด่นจากน้ำดื่มอื่นที่เรียงอยู่บนชั้นวางในร้านค้า

ลองคิดกันดูว่า ถ้าเราอยากเพิ่มยอดขายน้ำเปล่า จะทำอย่างไร?
คำตอบของคนส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็น การลดราคา

อย่างไรก็ตาม คริสตัลมองว่า วิธีนี้ไม่ยั่งยืน เพราะถึงแม้จะขายได้จำนวนเพิ่มขึ้น
แต่รายได้ที่ได้รับ อาจไม่เทียบเท่ากับที่ขายราคาปกติ
และที่สำคัญคือเมื่อกลับไปขายที่ราคาปกติ ลูกค้าก็มีโอกาสเปลี่ยนไปซื้อยี่ห้ออื่นได้เช่นกัน

พอเรื่องเป็นแบบนี้ คริสตัลจึงพยายามเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า

โดยล่าสุดคริสตัลได้ออกแคมเปญ “Crystal Moment ช่วงเวลาคุณภาพ น้ำดื่มต้องคุณภาพ”
ผ่านการนำเสนอของแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง นาย ณภัทร

เพื่อแสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญด้านไหน เช่น เวลาของมื้ออร่อย หรือช่วงที่ต้องทำงานหนัก น้ำดื่มคริสตัลก็พร้อมจะอยู่กับเราในทุกสถานการณ์

ที่สำคัญคือการเลือกน้ำดื่มที่มีคุณภาพ ก็ถือเป็นหนึ่งในคุณภาพชีวิตดีๆ ที่เราเลือกได้

นอกจากนั้นคริสตัลยังให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืน
เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตที่ใส่ใจต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน
จนได้รับฉลากลดโลกร้อนหรือคาร์บอนฟุตพริ้นต์
และยังได้รับการรับรองมาตรฐาน Water Footprint สะท้อนการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังส่งเสริมการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ
และการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วอย่างมีคุณภาพ

หนึ่งในนั้นก็คือ การจัดกิจกรรม “คริสตัลรีฟันด์ความสุข”
ด้วยการจับมือกับศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ร่วมรักษ์โลกไปกับน้ำดื่มคริสตัล
โดยติดตั้งเครื่องรีฟันด์ความสุข RVM (Reverse Funding Machine)
ซึ่งเป็นเครื่องจัดการขยะขวดพลาสติกที่ใช้แล้ว มากำจัดอย่างถูกวิธี เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษภายในศูนย์การค้า

ที่สำคัญคือถ้าซื้อน้ำเปล่าที่ตู้ Vending นี้ จะได้รับขวดน้ำรุ่นลิมิเต็ตที่ออกแบบโดยศิลปิน 2 เจเนอเรชัน
“ครูโต” ม.ล.จิราธร จิรประวัติ และหลานชาย คุณจิระ จิรประวัติ ณ อยุธยา ให้เลือกสะสมทั้งหมด 3 แบบ

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการสะท้อนแนวคิดความยั่งยืนของคริสตัล “Crystal CARE”
Consumers, Customers and Community “ผู้บริโภค ลูกค้า และชุมชน”
Authenticity “ความเชื่อถือได้ของแบรนด์”
Responsibility “ความรับผิดชอบต่อสังคม”
Environment “สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ”

อ่านมาถึงตรงนี้ น้ำดื่มคริสตัล จึงถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
ในเรื่องการทำให้สินค้า “น้ำดื่ม” แตกต่างและโดดเด่นขึ้นมา
โดยเริ่มจาก “การเน้นคุณภาพที่ดีที่สุดเพื่อบริโภค” เสมอมา
ตอกย้ำด้วยการใช้เครื่องมือทั้งนวัตกรรม และการตลาด มาช่วยให้แบรนด์นี้มีความยั่งยืนได้อย่างลงตัว..