ตระกูลตั้งคารวคุณ เศรษฐีอันดับ 7 ไทย ภายหลังการเข้าจดทะเบียนของ STARK

ตระกูลตั้งคารวคุณ เศรษฐีอันดับ 7 ไทย ภายหลังการเข้าจดทะเบียนของ STARK

7 พ.ค. 2020
ตระกูลตั้งคารวคุณ เศรษฐีอันดับ 7 ไทย ภายหลังการเข้าจดทะเบียนของ STARK /โดย ลงทุนแมน
หลายคนยังไม่รู้ว่าตระกูลตั้งคารวคุณ เจ้าของบริษัทผู้ผลิตสีรายใหญ่สุดในประเทศไทยเป็นมหาเศรษฐีรวยสุดอันดับ 7 ของประเทศไทย มีทรัพย์สิน 1 แสนล้านบาท
ทรัพย์สินส่วนใหญ่นอกจาก TOA แล้วยังมีอีกส่วนหนึ่งมาจากการเข้าซื้อธุรกิจสายไฟของ Stark Corporation ซึ่งเพิ่งจดทะเบียนในปีที่ผ่านมา โดยบริษัทดำเนินธุรกิจ Holding Company ซึ่งปัจจุบันลงทุนในธุรกิจผลิตสายไฟเป็นหลัก
แล้วตระกูลตั้งคารวคุณ เห็นอะไรในธุรกิจผลิตสายไฟ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นเรามาดูจุดเริ่มต้นของบริษัทแห่งนี้กันก่อน
ปี 2558 หรือ 5 ปีก่อน กลุ่มบริษัท Phelps Dodge ผู้ผลิตสายไฟฟ้ารายใหญ่สัญชาติอเมริกัน ได้มีการขายธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ธุรกิจ Phelps Dodge ในประเทศไทย หรือ Phelps Dodge International Thailand (PDITL)
ตอนนั้น คุณวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ได้ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการ Phelps Dodge ในประเทศไทย
โดยมีบุคคลสำคัญที่บริหารจัดการและวางกลยุทธ์เข้าซื้อกิจการ Phelps Dodge ประเทศไทยครั้งนี้ก็คือ คุณชนินทร์ เย็นสุดใจ ผู้เป็นมือเข้าซื้อกิจการ และเทิร์นอะราวด์บริษัท ตัวอย่าง เช่น โรงพยาบาลเปาโล โรงพยาบาลศิครินทร์ และโรงพยาบาลพญาไท โดยคุณชนินทร์ได้นำประสบการณ์ในการเทิร์นอะราวด์ธุรกิจมาพัฒนาและปรับปรุง Phelps Dodge ประเทศไทยจนมีผลประกอบการเติบโตอย่างก้าวกระโดดตลอดเวลา 4 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งการเข้าซื้อ Phelps Dodge ครั้งนี้ก็ยังวางแผนการเติบโตระยะยาว และมีกลยุทธ์การเติบโตจากการเข้าซื้อกิจการต่อไปอีกในอนาคต
โดยสาเหตุสำคัญที่เข้าซื้อก็เพราะว่า Phelps Dodge เป็นแบรนด์ผู้ผลิตสายไฟระดับโลก
นอกจากนี้ ธุรกิจผลิตสายไฟยังเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่ผู้เล่นรายใหม่เข้ามาแข่งขันได้ยาก
นั่นก็เพราะว่าการผลิตสายไฟแต่ละประเภทจำเป็นจะต้องมีประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐานการผลิตระดับสากล ซึ่งการได้ใบรับรองมาตรฐานมีความซับซ้อนสูง และกินระยะเวลานาน
รวมถึงประเภทของกลุ่มลูกค้าที่ส่วนใหญ่ทำธุรกิจสาธารณูปโภคและโทรคมนาคม ที่มีสายไฟเป็นองค์ประกอบสำคัญ นั่นทำให้รายได้ของบริษัทได้รับผลกระทบต่ำในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน
แน่นอนว่าการเข้าซื้อกิจการเพื่อนำมาบริหารต่อก็มีความเสี่ยงที่เลี่ยงไม่ได้ นั่นก็คือ ความเสี่ยงเรื่องการปรับโครงสร้างธุรกิจ และบุคลากร
หากทำได้ดี บริษัทก็จะสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
หากทำได้ไม่ดี บริษัทก็อาจจะสะดุด และไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ล่าสุด Phelps Dodge ประเทศไทย กลายมาเป็นบริษัทย่อยภายใต้บริษัทหลัก Stark Corporation ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย
แล้วที่ผ่านมา ผลประกอบการธุรกิจผลิตสายไฟเป็นอย่างไร?
รายได้และกำไรของบริษัท Phelps Dodge ประเทศไทย
ปี 2558 รายได้ 6,024 ล้านบาท ขาดทุน 88 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 6,722 ล้านบาท กำไร 327 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 7,793 ล้านบาท กำไร 369 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 10,675 ล้านบาท กำไร 463 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 11,760 ล้านบาท กำไร 542 ล้านบาท
หลังจากเข้าซื้อกิจการในปี 2558
บริษัท Phelps Dodge ประเทศไทย
รายได้เติบโตเฉลี่ย 18.2% กำไรเติบโตเฉลี่ย 18.3%
แล้วโอกาสการเติบโตของธุรกิจสายไฟ มีอะไรบ้าง?
หนึ่งในโอกาสการเติบโตของธุรกิจสายไฟในอนาคต
ส่วนนี้เราอาจมองภาพรวมได้จากปริมาณการใช้ไฟฟ้า ต่อประชากร 1 คน
ประเทศสหรัฐอเมริกา 12,984 กิโลวัตต์ชั่วโมง
ยุโรป 6,353 กิโลวัตต์ชั่วโมง
เอเชียแปซิฟิก 3,677 กิโลวัตต์ชั่วโมง
ประเทศไทย 2,540 กิโลวัตต์ชั่วโมง
อเมริกาใต้ 1,981 กิโลวัตต์ชั่วโมง
แอฟริกา 1,687 กิโลวัตต์ชั่วโมง
จะเห็นได้ว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้ากลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ต่ำกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ แนวโน้มการเติบโตของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนายังมีสูง
ซึ่งกลุ่มประเทศเหล่านี้เป็นฐานลูกค้าของบริษัท Phelps Dodge ประเทศไทย
ที่มีเครือข่ายลูกค้าทางธุรกิจครอบคลุม 33 ประเทศทั่วโลก
ในขณะที่ต้นปีที่ผ่านมา Stark Corporation บริษัทแม่ก็ได้เข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม
คือ บริษัทผลิตสายไฟ ประเทศเวียดนาม ได้แก่ ThiPha Cable และ Dovina
จากการเข้าซื้อกิจการในประเทศเวียดนาม
ทำให้ตอนนี้ Stark Corporation กลายเป็นบริษัทผลิตสายไฟ
สัญชาติไทยเพียงรายเดียวที่มีศักยภาพในการผลิตสายไฟทุกประเภท
ตั้งแต่สายไฟฟ้าใต้น้ำ จนถึงสายไฟฟ้าแรงดันสูงอัลตรา
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ทำให้ Stark Corporation
กลายมาเป็นบริษัทผลิตสายไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 9 ของโลก
ปัจจุบัน Stark Corporation มีมูลค่าบริษัท 53,000 ล้านบาท และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ตระกูลตั้งคารวคุณ ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีรวยสุดอันดับ 7 ของประเทศไทย..
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นนี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
----------------------
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-รายงานประจำปี 56-1 บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
-Forbes Billionaires 2020
-Settrade
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.