Ben Francis จากเด็กส่งพิซซา สู่เจ้าของแบรนด์กีฬา หมื่นล้าน

Ben Francis จากเด็กส่งพิซซา สู่เจ้าของแบรนด์กีฬา หมื่นล้าน

5 ม.ค. 2021
Ben Francis จากเด็กส่งพิซซา สู่เจ้าของแบรนด์กีฬา หมื่นล้าน / โดย ลงทุนแมน
“ผมตื่นเช้าไปเรียน ช่วงเย็นเป็นพนักงานส่งพิซซาถึง 4 ทุ่ม
หลังจากนั้น ผมก็จะกลับบ้านมาหาไอเดียในการสร้างธุรกิจ”
ประโยคดังกล่าวเป็นการเล่าถึงชีวิตประจำวันของ Ben Francis
หนุ่มชาวอังกฤษวัย 19 ปี ที่ริเริ่มก่อตั้งธุรกิจเมื่อ 8 ปีที่แล้ว
มาวันนี้ ไอเดียทางธุรกิจของเขาได้กลายมาเป็น บริษัท Gymshark
ที่ล่าสุด ถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ประมาณ 39,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นสตาร์ตอัประดับยูนิคอร์น
Gymshark ทำธุรกิจอะไร
แล้วประสบความสำเร็จได้อย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Gymshark ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Ben Francis ในปี 2012
ตอนนั้น เขามีอายุเพียง 19 ปี และกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย
Francis มีอาชีพเสริมหลังเลิกเรียน เป็นเด็กส่งพิซซากะกลางคืน
รับส่งพิซซาตั้งแต่ 5 โมงเย็น จนถึง 4 ทุ่ม
หลังจากส่งพิซซาเสร็จ เขาก็ได้กลับบ้านมาเริ่มหาไอเดีย
ในการสร้างธุรกิจส่วนตัวเป็นประจำทุกวัน
จนในที่สุด Francis ก็ได้ตัดสินใจก่อตั้งบริษัทขึ้น
โดยธุรกิจแรกที่ทำก็คือ การขายอาหารเสริมบนเว็บไซต์
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอาหารเสริมของเขาก็เรียกได้ว่าไม่ประสบความสำเร็จ
โดย Francis พบว่าการที่เรานำแบรนด์อาหารเสริมของคนอื่นมาขาย
แม้จะพอขายได้ แต่กำไรต่อหน่วยของธุรกิจนี้ค่อนข้างต่ำ
รวมถึงพื้นที่ในการเติบโตมีจำกัด
ทำให้เขา ได้มองหาธุรกิจใหม่ และเขาก็พบว่า
เสื้อผ้าสำหรับนักออกกำลังกายในยิมน่าจะเติบโตได้ดี
สำหรับที่มาของไอเดียนี้เกิดขึ้นจากการที่ Francis เป็นคนที่ชอบเข้าไปใช้บริการในยิมเป็นประจำ และเขาก็พบว่าเสื้อผ้าที่เอาไว้ใส่ในยิม ไม่มีแบรนด์ไหนเลยที่มีดีไซน์ และคุณภาพถูกใจ
ประกอบกับการที่ Francis พอมีพื้นฐานการตัดเย็บอยู่บ้าง
เขาจึงได้ลองดีไซน์ และตัดเย็บเสื้อผ้าสำหรับเล่นในยิมขึ้นมาเพื่อทดลองใส่เองก่อน
ต่อมา เมื่อ Francis เห็นว่าดีไซน์ และการเลือกใช้วัสดุเริ่มนิ่งแล้ว
เขาก็ได้เริ่มนำเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ของเขาชื่อว่า Gymshark วางขายบนเว็บไซต์
และก็ดูเหมือนว่าแบรนด์ของเขา จะได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดี
เพราะตั้งแต่ในช่วงเปิดตัว Gymshark สามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 20,000 บาท ต่อวัน
แต่นั่นก็เทียบไม่ได้เลย กับการที่ Francis ตัดสินใจใช้เงินเก็บเกือบทั้งหมด
ไปเช่าพื้นที่ภายในงาน BodyPower Expo ซึ่งเป็นงานสำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เพื่อนำแบรนด์ Gymshark ของเขาไปวางขาย
ซึ่งนั่นก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะที่งาน BodyPower Expo
ร้านของเขาสามารถโกยรายได้ไปมากถึง 10 ล้านบาท จากการขายสินค้าหมดเกลี้ยง ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง..
เมื่อ Francis เห็นว่าแบรนด์ของเขาเป็นที่ต้องการ และมียอดขายถล่มทลายขนาดนี้
เขาจึงได้ตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย
และมาทุ่มเทให้กับ Gymshark อย่างเต็มตัว
แต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น..
เพราะตลาดที่ Gymshark กระโดดเข้ามาเล่น คืออุตสาหกรรมเสื้อผ้า และรองเท้ากีฬา ที่แม้จะมีมูลค่ามากถึง 5.3 ล้านล้านบาท แต่ก็เต็มไปด้วยเจ้าตลาดรายใหญ่มากมาย
อย่าง Nike และ Adidas พร้อมที่จะทุ่มงบลงทุนวิจัย พัฒนาสินค้าเข้ามาแข่งขัน รวมถึงทุ่มงบการตลาดเพื่อเป็นสปอนเซอร์ให้กับนักกีฬาชื่อดัง และสร้างฐานลูกค้า จากฐานแฟนคลับซูเปอร์สตาร์ในวงการกีฬา
เช่น
ถ้าอยากยิงฟรีคิกได้แบบ David Beckham ก็ต้องเลือก Adidas Predator
ถ้าอยากกระโดดชู้ตบาสได้แบบ LeBron James ก็ต้องเลือก Nike..
แล้วแบรนด์ Gymshark ที่แม้มีชื่อฉลามตัวโต แต่ยังมีฐานคนรู้จักขนาดเท่าปลาตัวเล็ก
จะมีกลยุทธ์ในการเติบโตในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่งที่แข่งแกร่งนี้ อย่างไร?
Francis มองว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความสนใจในแบรนด์กีฬาสมัยใหม่
แม้ว่าจะยังมีไอดอลเป็นนักกีฬาชื่อดังอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่เข้ามาอยู่ในความสนใจหลายคน
ก็คือ “กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์” บนแพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง YouTube, Instagram รวมถึง TikTok
โดยกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่ว่านี้ ก็จะกระจัดกระจาย แตกแขนงตามความสนใจของแต่ละคน
มีทั้งเรื่องเกม เรื่องสารคดี เรื่องธุรกิจ และแน่นอนว่าเรื่องการออกกำลังกายก็เป็นหนึ่งในนั้น
Francis มองว่าแบรนด์เกิดใหม่จะโตได้ในยุคนี้ ก็ต้องมีกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์เป็นตัวชูโรง
ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เข้าถึงฐานลูกค้าที่ชัด และมีศักยภาพในการทำการตลาดสูง
เช่น เราเป็นคนหนึ่งที่ดูยูทูบการออกกำลังกายทุกวัน
เราก็น่าจะมีโอกาสเห็นแบรนด์ในวิดีโอ หรือโพสต์ที่เราดูเป็นประจำ นั่นเอง
สำหรับตัวอย่างที่ชัดมากในเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
เมื่อยูทูบเบอร์ชื่อดังอย่าง Ninja นำเกมอินดี้อย่าง Among Us มาสตรีม
จนทุกวันนี้ Among Us ได้กลายมาเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกและมีผู้เล่น 500 ล้านคน ต่อเดือน
ซึ่งมากกว่าประชากรทั้งประเทศสหรัฐอเมริกาไปแล้ว ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือน..
ซึ่ง Gymshark ก็ได้นำไอเดียเหล่านี้ มาประยุกต์ใช้
โดยบริษัทเลือกที่จะเข้าไปเป็นสปอนเซอร์ให้กับเจ้าของบัญชี Instagram และ YouTube
ที่เป็นนักออกกำลังกายชื่อดัง และมีฐานผู้ติดตามมากในระดับหนึ่ง
เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้นำเสนอแบรนด์ของพวกเขา
โดยในปีนี้ Gymshark ได้เป็นสปอนเซอร์ให้กับอินฟลูเอนเซอร์ 125 คน
ในขณะเดียวกัน บัญชี Instagram ของบริษัทก็มีผู้ติดตามมากถึง 5 ล้านคน
กลยุทธ์ดังกล่าว เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Gymshark โตระเบิด
โดยในปี 2019 บริษัทมีรายได้ 7,136 ล้านบาท กำไร 758 ล้านบาท
โดยรายได้เติบโตเป็น 20 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2015
ซึ่งเรื่องราวของ Gymshark ก็ได้ดึงดูดกลุ่มนักลงทุนให้เข้าไปลงทุนกับบริษัท
ซึ่งล่าสุด General Atlantic ก็ได้เข้าไปลงทุนใน Gymshark เป็นมูลค่า 273 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือราว 8,176 ล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้นของบริษัท 21%
นั่นเท่ากับว่าตอนนี้ มูลค่าการประเมินของ Gymshark จะอยู่ที่ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือ 39,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่าในระดับสตาร์ตอัปยูนิคอร์น..
ถึงตรงนี้ เราก็น่าจะสรุปได้ว่าเรื่องราวของ Gymshark ก็เป็นอีกกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
น่าสนใจแรกก็คือ Francis เริ่มต้นหาไอเดียทางธุรกิจตั้งแต่ยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย
และพอพบเข้ากับธุรกิจที่ตัวเองอยากทำ เขาก็ได้ตัดสินใจทำอย่างทุ่มเท
ถึงขนาดตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัย
ตรงนี้จะเห็นได้ว่าไม่ว่าเราจะอายุเท่าไร มีต้นทุนทางการศึกษาขนาดไหน
เราก็สามารถสร้างธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ
อีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ แม้กลุ่มธุรกิจที่เราก่อตั้งขึ้นมา
จะมีเจ้าตลาดอยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีทางเติบโต
ซึ่งตรงนี้ Gymshark ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า
เขาสามารถก่อตั้งแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาที่เติบโตเป็น 20 เท่าใน 4 ปี
และตอนนี้ก็มีมูลค่าบริษัทระดับ 39,000 ล้านบาท ไปแล้วนั่นเอง..
----------------------
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.