“กลิ่น รากฟัน ยาแนว” รู้จัก 3 บริษัทเฉพาะทางระดับโลก ของสวิตเซอร์แลนด์

“กลิ่น รากฟัน ยาแนว” รู้จัก 3 บริษัทเฉพาะทางระดับโลก ของสวิตเซอร์แลนด์

9 ต.ค. 2021
“กลิ่น รากฟัน ยาแนว” รู้จัก 3 บริษัทเฉพาะทางระดับโลก ของสวิตเซอร์แลนด์ /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ประเทศร่ำรวยแห่งนี้ มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของบริการทางการเงิน อุตสาหกรรมนาฬิกา
อุตสาหกรรมอาหาร และยารักษาโรค
ซึ่งทั้ง 4 อุตสาหกรรมนี้ ล้วนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ผลักดันให้ประเทศที่มีประชากรเพียง 8.5 ล้านคนแห่งนี้ มี GDP ต่อหัวสูงถึง 2,900,000 บาทต่อปี
และติดอันดับ Top 10 ประเทศร่ำรวยของโลกมานานนับศตวรรษ
แต่นอกจากบริษัทในอุตสาหกรรมทั้ง 4 แล้ว
สวิตเซอร์แลนด์ยังมีบริษัทเฉพาะทาง ที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่บริการทางการเงิน นาฬิกา ยา หรืออาหาร
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ บริษัทเฉพาะทางเหล่านี้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น
และล้วนมีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 ล้านล้านบาท..
มีบริษัทเฉพาะทางอะไรบ้าง ? ที่มีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านบาท
และบริษัทเหล่านี้ทำธุรกิจอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ในแง่ภูมิศาสตร์ สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทะเล ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงที่ยากลำบากต่อการขนส่ง และกว่า 70% ของพื้นที่ก็เป็นภูเขา แทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้เพาะปลูก ในขณะที่ทรัพยากรธรรมชาติก็มีน้อยมาก
ความขาดแคลนเหล่านี้ ล้วนหล่อหลอมให้ชาวสวิสเป็นคนประหยัด ขยันขันแข็ง และต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้อยู่รอด ทั้งการไปเป็นทหารรับจ้างให้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วยุโรป ไปจนถึงการประดิษฐ์คิดค้นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มเพื่อนำมาค้าขาย
ด้วยข้อจำกัดในหลายด้าน ชาวสวิสจำเป็นต้องผลิตสินค้าที่ขนส่งง่าย มีกรรมวิธีการผลิตที่ซับซ้อน มีนวัตกรรมเฉพาะตัว และมีราคาสูงพอที่จะคุ้มทุน ตัวอย่างที่ดีที่สุดของสินค้าสวิสก็คือ “นาฬิกา”
และด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป ล้อมรอบไปด้วยประเทศมหาอำนาจ ทั้งฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี เมื่อถึงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ประเทศเหล่านี้ก็ล้วนมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมหนัก ทั้งเหล็ก ยานยนต์ และเครื่องจักรต่าง ๆ
สวิตเซอร์แลนด์จึงต้องต่อยอดและพัฒนาโครงสร้างธุรกิจของตัวเอง
ให้เป็นการผลิตสินค้าที่มีกำไรสูง แม้จะขายได้น้อยชิ้น
ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับสินค้าเหล่านี้ก็คือ “ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง”
ด้วยความเป็นนักประดิษฐ์ที่อยู่ในสายเลือด บวกกับระบบการศึกษา
ที่พัฒนาต่อยอดมาจากเยอรมนีและฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์จึงสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมเฉพาะทางมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเภสัชกรรม ไบโอเทคโนโลยี อาหาร
ไปจนถึงบริการที่มีมูลค่าสูง อย่างบริการทางการเงิน และโลจิสติกส์
อย่างไรก็ตาม ประเทศแห่งนี้ก็ยังมีอีก 3 บริษัท
ที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมหรือบริการตามที่กล่าวมาข้างต้น
แต่มีความ “เฉพาะทาง” และโดดเด่น จนอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ได้
ความโดดเด่นและความสำเร็จ ก็สะท้อนออกมาผ่านมูลค่าบริษัท ที่สูงกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ ใหญ่กว่าทุกบริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย
เริ่มจากบริษัทแรก คือ บริษัทผลิตรากฟันเทียม..
หากเราต้องสูญเสียฟันไปอย่างน้อย 1 ซี่ จะก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย
ทั้งฟันข้างเคียงที่อาจล้ม หรือฟันที่เหลืออยู่ต้องรับแรงบดเคี้ยวมากขึ้นจนทำให้ฟันแตก
ทางแก้ไขสำหรับปัญหานี้ก็คือการทำฟันปลอม แต่สำหรับหลาย ๆ คน การถอดและใส่ฟันปลอมบ่อย ๆ เป็นเรื่องที่ทั้งวุ่นวายและเสียเวลา จึงนำมาสู่นวัตกรรมที่เรียกว่า “รากฟันเทียม”
รากฟันเทียม หรือ Dental Implant คือสิ่งที่มาใส่แทนรากฟันจริง ช่วยให้ฟันเทียมสามารถยึดติดกับกระดูกขากรรไกร ทำให้ไม่ต้องถอดฟันเข้าออกบ่อย ๆ
ซึ่งหนึ่งในแบรนด์รากฟันเทียมที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก ก็คือ Straumann (สตรอแมนน์)
Straumann ก่อตั้งขึ้นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี 1954
โดยคุณหมอ Ing. R. Straumann ได้ก่อตั้งสถาบันวิจัยเล็ก ๆ ในเมือง Waldenburg เมืองเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อวิจัยนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทันตกรรม ภายใต้ความสนับสนุนของ University of Bern
จุดเปลี่ยนสำคัญคือในปี 1974 Straumann ได้นำไทเทเนียมมาใช้เป็นวัสดุในการทำรากฟันเทียม ทำให้ได้รากฟันที่เข้ากับร่างกายมนุษย์ได้ดี โดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย สิ่งนี้เองที่ทำให้รากฟันเทียมของ Straumann มีชื่อเสียง และเริ่มส่งออกรากฟันเทียมไปทั่วโลก
ปัจจุบัน Straumann เป็นบริษัทรากฟันเทียมที่มียอดขายอันดับ 1 ของโลก
มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 ล้านล้านบาท ยังคงเป็นผู้นำในนวัตกรรมรากฟันเทียม ทั้งการพัฒนาให้แข็งแรงขึ้น ยึดติดได้ดีขึ้น ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ปลูกได้กับฟันทุกตำแหน่ง และเรียกได้ว่าทันตแพทย์ทั่วโลกรู้จักกับรากฟันเทียมแบรนด์นี้เป็นอย่างดี
บริษัทที่ 2 บริษัทผลิตกลิ่นและน้ำหอม
ความชื่นชอบในกลิ่นหอมและน้ำหอม มีร่องรอยอยู่ในอารยธรรมมนุษย์มาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ และถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ ในยุโรป โดยมีฝรั่งเศส เป็นดินแดนผู้นำองค์ความรู้ด้านการทำน้ำหอม
จนถึงปี 2020 อุตสาหกรรมกลิ่นและน้ำหอมของโลก มีมูลค่ามากกว่า 1.3 ล้านล้านบาท
ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ในขวดน้ำหอมแบรนด์ดังเท่านั้น แต่ยังอบอวลอยู่ในทุกผลิตภัณฑ์ที่เราอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็นสบู่ แชมพู น้ำยาปรับผ้านุ่ม เครื่องสำอาง เครื่องดื่ม ไปจนถึงขนมนมเนย
ซึ่งบริษัทที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในอุตสาหกรรมกลิ่นและน้ำหอมของโลก
ที่มีสัดส่วนถึง 16.5% เป็นบริษัทสัญชาติสวิส ที่มีชื่อว่า “Givaudan” (จีวอฎัน)
จากจุดเริ่มต้นในปี 1895 เมื่อสองพี่น้อง Léon และ Xavier Givaudan ได้นำความรู้ด้านการทำน้ำหอมจากฝรั่งเศส ย้ายจากเมืองลียงในฝรั่งเศส มาตั้งโรงงานสารเคมีอยู่ที่เมืองซูริกในสวิตเซอร์แลนด์ จุดเริ่มต้นคือเพื่อพัฒนาสารเคมีสำหรับกลบกลิ่นการฟอกหนังในการผลิตถุงมือ
เมื่อผสมผสานกับองค์ความรู้ด้านเคมีจากเยอรมนี ทำให้ Givaudan สามารถสังเคราะห์สารแต่งกลิ่นด้วยกระบวนการทางเคมี ก่อนจะพัฒนาเป็นการสังเคราะห์กลิ่นสำหรับใช้เป็นน้ำหอม และสารแต่งกลิ่นในอาหาร
ปัจจุบัน Givaudan มีศูนย์วิจัยกว่า 69 แห่งทั่วโลก และนักวิจัยมากกว่า 500 คน
มีลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมแบรนด์หรู Saint Laurent, เครื่องสำอางในเครือ L'Oréal หรือผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารโลกอย่าง Nestlé
ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่มากที่สุดในโลก ทำให้ Givaudan เป็นบริษัทด้านกลิ่นและน้ำหอม
ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ถึง 1.4 ล้านล้านบาท..
บริษัทที่ 3 ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในทั้ง 3 บริษัท
คือ บริษัทผลิตเคมีภัณฑ์สำหรับใช้ก่อสร้างที่มีชื่อว่า Sika (ซิก้า)
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เมื่อหลายประเทศในยุโรปตะวันตกทำการปฏิวัติอุตสาหกรรม จนผลิตสินค้าออกมามากมาย มีการสร้างทางรถไฟหลายเส้นทางเพื่อเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าและผู้คนระหว่างประเทศต่าง ๆ
สวิตเซอร์แลนด์ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางยุโรป จึงเป็นทางผ่านที่สำคัญ เพื่อเชื่อมระหว่างภูมิภาคยุโรปเหนือกับยุโรปใต้
แต่ด้วยภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาสูง ทำให้ทางรถไฟในสวิตเซอร์แลนด์จำเป็นต้องมีการสร้างอุโมงค์เพื่อเจาะผ่านภูเขา โดยเฉพาะการสร้างอุโมงค์ Gotthard ซึ่งเป็นอุโมงค์สำคัญเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟไปยังประเทศอิตาลี
อุโมงค์ Gotthard มีความยาวกว่า 15 กิโลเมตร การก่อสร้างต้องใช้เทคนิควิศวกรรมมากมาย
รวมไปถึงวัสดุก่อสร้างที่ใช้ก็ต้องมีความทนทานเป็นพิเศษ
Kaspar Winkler นักธุรกิจเจ้าของบริษัท Sika ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1910
ได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ Sika-1 น้ำยาผสมคอนกรีตที่มีคุณสมบัติแห้งตัวเร็วและกันซึมสำหรับคอนกรีต เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างอุโมงค์แห่งนี้ จนแล้วเสร็จในปี 1920
ความสำเร็จจากการก่อสร้างอุโมงค์ Gotthard ทำให้ Sika-1 กลายเป็นส่วนประกอบที่สำคัญสำหรับงานสร้างทางรถไฟระบบไฟฟ้า ในปีต่อ ๆ มา การรถไฟสวิสได้ก่อสร้างอุโมงค์รถไฟอีก 67 แห่ง โดยใช้น้ำยากันซึมของบริษัท Sika
ปัจจุบัน Sika ต่อยอดนวัตกรรมจากน้ำยากันซึม จนเป็นผู้นำระดับโลกด้านเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง
มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ทั้งน้ำยาผสมคอนกรีต ปูนมอร์ตาร์ชนิดพิเศษสำหรับงานซ่อมแซมและป้องกันคอนกรีต กาวอีพ็อกซี่ผลิตภัณฑ์สำหรับพื้นโรงงานอุตสาหกรรม กาวยาแนวและติดยึด วัสดุลดเสียงรบกวน และวัสดุเสริมความแข็งแรง
ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางนี้เอง ทำให้ Sika มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท
เป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ด้านการก่อสร้างอันดับ 1 ของโลก..
ตัวอย่างจากบริษัทสัญชาติสวิสทั้ง 3 แห่ง คือ Straumann, Givaudan และ Sika
ซึ่งต่างก็เป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลก ในอุตสาหกรรมด้านนั้น ๆ
คือตัวแทนของการสร้างธุรกิจที่มีความ “เฉพาะทาง” ซึ่งเป็นปราการสำคัญ
ที่ป้องกันการเข้ามาของบริษัทคู่แข่งอื่น ๆ
แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ การต่อยอด “นวัตกรรม” จากความเชี่ยวชาญของตัวเอง
สวิตเซอร์แลนด์ครองอันดับ 1 ของโลก
จากการจัดอันดับประเทศที่มีนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมากที่สุดในปี 2021
โดย World Intellectual Property Organization หรือ WIPO
โดยมีความโดดเด่น ทั้งงบประมาณวิจัยและพัฒนาที่สูงราว 3% ของ GDP
สัดส่วนนักวิจัยที่สูงถึง 5 คน ต่อประชากร 1,000 คน
และการร่วมมืออย่างเหนียวแน่นของภาคธุรกิจเอกชนกับสถาบันการศึกษา
บริษัททั้ง 3 แห่งของสวิตเซอร์แลนด์ จึงนับเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
การก้าวขึ้นเป็นบริษัทระดับโลก อาจไม่ใช่บริษัทที่ต้องคอยผลิตสินค้า
และปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการของลูกค้าและตลาดเพียงเท่านั้น
แต่ก็สามารถก้าวนำลูกค้าได้ ด้วยสินค้าเฉพาะทางที่มีคุณภาพสูง และนวัตกรรมที่เหนือใคร
เพื่อสร้าง “คุณค่า” ที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้
ซึ่งมูลค่าของบริษัทเหล่านี้ที่มากกว่า 1 ล้านล้านบาท และเป็นเบอร์ 1 ของโลกในอุตสาหกรรมของตัวเอง ก็นับว่าเป็นข้อพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://companiesmarketcap.com/switzerland/largest-companies-in-switzerland-by-market-cap/
-https://www.wipo.int/pressroom/en/articles/2021/article_0008.html?fbclid=IwAR1NKHZDlyjbbyYm2CTMuUSofs4bdqGoc6HXFK8pGls8MwHyc7ToqNEb96o
-https://www.eda.admin.ch/aboutswitzerland/en/home/bildung-wissenschaft/wissenschaft-forschung/wissenschaft-und-forschung-in-der-schweiz.html
-https://www.givaudan.com/our-company/rich-heritage/odyssey-flavours-and-fragrances/history
-https://www.sika.com/en/about-us/who-we-are/history.html#Anchor1
-https://www.straumann.com/group/en/home/about/global-straumann-group/our-history.html
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.