รู้จัก Nvidia แห่งเมืองจีน หุ้น 6 เด้ง ใน 1 ปี

รู้จัก Nvidia แห่งเมืองจีน หุ้น 6 เด้ง ใน 1 ปี

รู้จัก Nvidia แห่งเมืองจีน หุ้น 6 เด้ง ใน 1 ปี /โดย ลงทุนแมน
การเปิดตัวแช็ตบอต DeepSeek เมื่อต้นปี 2025 ที่ผ่านมา ได้จุดประกายให้อุตสาหกรรม AI ของประเทศจีน มีการพัฒนาซัปพลายเชนอย่างรวดเร็ว เพื่อแย่งชิงความเป็นผู้นำในเวทีโลกแข่งกับสหรัฐฯ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพึ่งพา “ชิปสำหรับ AI” จากการผลิตภายในประเทศตัวเองให้ได้
ซึ่งทำให้บริษัทชิปสัญชาติจีนได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ
หนึ่งในนั้นคือ “Cambricon Technologies” ที่ถูกคาดหวังให้เป็น Nvidia แห่งเมืองจีน เลยทีเดียว
แล้วเส้นทางของ Cambricon ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนมาสู่ตัวความหวังระดับชาติ เป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Cambricon Technologies เป็นบริษัทชิปจากประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 โดยสองพี่น้องชื่อว่าคุณ Chen Yunji และคุณ Chen Tianshi
ทั้งคู่จบปริญญาเอกด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีน และเข้าทำงานที่สถาบันวิจัยชั้นนำอย่าง Chinese Academy of Sciences หรือ CAS
ต่อมา พวกเขาได้ร่วมโครงการวิจัยและพัฒนาชิปประมวลผล สำหรับรองรับเทคโนโลยี Deep Learning ที่เป็นยุคเริ่มต้นของ AI สมัยใหม่
ซึ่งก็ได้มีการสร้างชิปต้นแบบเรียกว่า Cambricon ตามชื่อยุคแคมเบรียนในประวัติศาสตร์โลก ที่เป็นช่วงเวลาสำคัญของวิวัฒนาการทางชีวภาพ
หลังจากนั้น พอเห็นถึงศักยภาพที่น่าสนใจของโครงการนี้ CAS เลยตัดสินใจแยกออกมาตั้งเป็นบริษัท Cambricon Technologies และให้คุณ Chen Tianshi ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท
โดยโมเดลธุรกิจของ Cambricon จะมีลักษณะคล้ายกับ Nvidia คือ เป็นผู้ออกแบบดิไซน์ชิป และไปจ้างโรงงานอื่นผลิตให้
ซึ่งในช่วงแรก บริษัทได้รับเงินลงทุนจากยักษ์ใหญ่ เช่น Alibaba และ Lenovo รวมไปถึงได้ทำสัญญาผลิตชิปให้กับ Huawei
แต่เส้นทางของ Cambricon กลับต้องเจออุปสรรคมากมาย
ในปี 2018 Huawei ยกเลิกสัญญากับ Cambricon เพราะต้องการหันไปใช้ชิปของเครือตัวเองแทน ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้เป็นอย่างมาก
แต่โดยธรรมชาติของธุรกิจชิป จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่าย R&D สูง เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวทันหรือนำหน้าตลาด จึงทำให้ Cambricon ขาดทุนต่อเนื่องทุกปี
สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่ขึ้นไปอีกในปี 2022 เมื่อ Cambricon เป็นหนึ่งในบริษัทที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำ ไม่ให้มีการทำธุรกรรมหรือเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูงที่สหรัฐฯ มีอิทธิพลอยู่ได้
เช่น ควบคุมไม่ให้ TSMC รับจ้างผลิตชิปให้ ไม่เช่นนั้น สหรัฐฯ จะไม่ขายอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ในกระบวนการผลิตให้
ส่งผลให้ Cambricon ผลิตชิปได้ยากลำบากขึ้น และถูกชะลอความเร็วในการพัฒนาเทคโนโลยีไปโดยปริยาย
อีกทั้ง นักลงทุนสถาบันการเงินบางราย รวมไปถึง Alibaba ยังถอดใจขายหุ้น Cambricon ออกไปทั้งหมดด้วย
หลายคนเห็นแบบนี้ คงคิดว่าธุรกิจของ Cambricon น่าจะเดินมาถึงทางตัน..
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือ เมื่อเดือนมกราคม ปี 2025 ได้ถือกำเนิด DeepSeek แช็ตบอตอัจฉริยะของจีน ที่สามารถโต้ตอบข้อมูลกับผู้ใช้งานได้ และมีต้นทุนต่ำกว่าโมเดลของฝั่งสหรัฐฯ
ทำให้เกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และระบบคลาวด์ ในประเทศจีนอย่างมหาศาล
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนเองก็มีนโยบายในการลดการนำเข้าชิปจากต่างประเทศ และขอให้บริษัทต่าง ๆ หันมาพึ่งพาชิปที่ผลิตในท้องถิ่นแทน
โดยล่าสุด DeepSeek ได้ประกาศว่า กำลังปรับโมเดลใหม่เวอร์ชัน 3.1 ให้รองรับกับคุณภาพชิปสัญชาติจีนด้วย
ส่งผลให้ดีมานด์ชิปสำหรับ AI ที่ผลิตภายในประเทศจีน เพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่ง Cambricon ที่เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว เลยกลายเป็นผู้เล่นที่ตอบโจทย์สถานการณ์ได้ทันที
และที่ผ่านมา บริษัทได้ซุ่มพัฒนาชิปรุ่นใหม่ Siyuan 690 ที่โฆษณาว่า มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับชิปรุ่น H100 ของ Nvidia
ทำให้ Cambricon เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัท ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรมจีนว่า ชิปมีคุณภาพตรงตามสเปกของ DeepSeek
นอกจากนั้น บริษัทยังตั้งงบประมาณไว้ 20,000 ล้านบาท ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ด้วยเหตุนี้ Cambricon จึงถูกหยิบยกไปเปรียบเทียบให้มีโอกาสเป็น “Nvidia แห่งเมืองจีน” ในอนาคต
ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ก็เริ่มสะท้อนไปสู่ผลประกอบการของบริษัท ที่พลิกกลับมาสู่เส้นทางอันสดใสอีกครั้ง
จากในอดีตที่เคยขาดทุนหนักมาตลอด
ปี 2023
รายได้ 3,155 ล้านบาท ขาดทุน 3,773 ล้านบาท
ปี 2024
รายได้ 5,224 ล้านบาท ขาดทุน 2,011 ล้านบาท
แต่แค่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2025
บริษัทมีรายได้ 12,800 ล้านบาท และกำไร 4,628 ล้านบาท
รวมทั้งคาดการณ์ว่าในปี 2027 รายได้จะเติบโตพุ่งขึ้นแตะระดับ 45,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
ทั้งนี้ Cambricon Technologies ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ STAR ของเซี่ยงไฮ้ เมื่อปี 2020
ซึ่งก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นไม่ได้เคลื่อนไหวหวือหวาอะไรมากนัก แต่จากปัจจัยบวกในช่วง 1 ปีหลัง ทำให้นักลงทุนแห่เข้ามาซื้อหุ้น Cambricon กันอย่างร้อนแรง
ปัจจุบันราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 576% หรือเกือบ 6 เด้ง เมื่อเทียบกับช่วงเดือนกันยายนของปีที่แล้ว
โดยบริษัทมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 2,680,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วน P/E Ratio ที่ 556 เท่า
หมายความว่านักลงทุนกำลังคาดหวังในการเติบโตของบริษัทสูงมาก เลยยอมซื้อหุ้นแพงกว่ากำไรหลายเท่า
จากเรื่องราวนี้จะเห็นได้ว่า การที่ Cambricon อดทนฝ่าฟันอุปสรรคและวิจัยพัฒนาชิปมาอย่างต่อเนื่อง แม้ต้องบาดเจ็บหนัก แต่ก็ทำให้มีเทคโนโลยีในมือที่พร้อมแข่งขันเมื่อโอกาสมาถึง
ซึ่งพอรัฐบาลจีนออกนโยบายเร่งพัฒนาระบบนิเวศ AI ในประเทศ จึงผลักดันให้ Cambricon กลายเป็นเสาหลักด้านชิป AI ของจีนนั่นเอง
หาก Cambricon ทำสำเร็จตามที่คาดหวัง
มันอาจเปลี่ยนสมดุลของการแข่งขัน AI ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ไปเลย ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม เราคงต้องติดตามดูกันต่อไปว่า Cambricon จะก้าวขึ้นมาเป็นเหมือน Nvidia ได้
หรือเป็นแค่หุ้นแห่งความหวังที่มูลค่าสูงกว่าพื้นฐานความจริง..

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon