Oklo หุ้นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ รายได้ 0 บาท แต่มีมูลค่า 370,000 ล้าน ปีเดียวโต 10 เด้ง

Oklo หุ้นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ รายได้ 0 บาท แต่มีมูลค่า 370,000 ล้าน ปีเดียวโต 10 เด้ง

Oklo หุ้นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ รายได้ 0 บาท แต่มีมูลค่า 370,000 ล้าน ปีเดียวโต 10 เด้ง /โดย ลงทุนแมน
ในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี เราน่าจะเห็นหลายบริษัทที่ผลประกอบการขาดทุนหลายปี แต่มูลค่าบริษัทก็ยังเพิ่มต่อเนื่อง
เพราะนักลงทุน มักมองและคาดหวังตัวเลขในอนาคต
ไม่ว่าจะรายได้ ยอดผู้ใช้งาน หรือแนวโน้มการพลิกจากขาดทุนเป็นกำไร และตีมูลค่าบริษัทออกมา
เช่น ROBLOX แพลตฟอร์มเกมขวัญใจชาว Gen Z ที่ราคาหุ้นพุ่ง 10% หลังประกาศงบไตรมาสล่าสุด ที่แม้จะขาดทุน แต่รายได้รวมและจำนวนผู้ใช้งาน ยังเพิ่มขึ้น
แต่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีบริษัทหนึ่งที่ชื่อว่า Oklo ที่นอกจากจะขาดทุนแล้ว ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ยังไม่มีรายได้แม้แต่บาทเดียว แม้จะก่อตั้งบริษัทมานานกว่า 12 ปีแล้ว..
แถมในรายงานประจำปีของบริษัท ก็ไม่มีระบุรายได้ในงบกำไรขาดทุนอีกด้วย ทว่าบริษัทนี้กลับมีมูลค่าบริษัทกว่า 374,000 ล้านบาท
โดย Oklo คือผู้พัฒนาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ที่เกาะกระแสไปกับการมาของ AI และ Data Center

รวมถึงบริษัทนี้ เคยมี Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI มานั่งเป็นประธานกรรมการอีกด้วย
Oklo น่าสนใจอย่างไร
ทำไมนักลงทุนถึงให้มูลค่าบริษัทกว่า 374,000 ล้านบาท แม้จะยังไม่มีรายได้ หรือขายสินค้าได้สักชิ้นเลยก็ตาม ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Oklo คือบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านพลังงานนิวเคลียร์
ก่อตั้งในปี 2013 โดย Jacob DeWitte และ Caroline Cochran ทั้งคู่เรียนจบด้านวิศวกรรมนิวเคลียร์จาก MIT และมีประสบการณ์ทำงานด้านนิวเคลียร์โดยเฉพาะ
จุดที่ทำให้ Oklo โดดเด่นเป็นที่จับตามองก็เพราะ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เป็นผู้สนับสนุน Oklo ผ่านกองทุน Y Combinator ที่เขาเคยนั่งเป็นประธาน
รวมถึงในช่วงหนึ่ง Sam Altman ก็เคยไปนั่งเป็นหนึ่งในกรรมการของ Oklo ก่อนที่จะลาออกในเวลาต่อมา เพราะป้องกันความเสี่ยงเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
แต่อาวุธเด็ดของ Oklo ที่ทำให้นักลงทุนคาดหวังอย่างมาก แม้จะยังพัฒนาไม่เสร็จก็คือ เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก หรือ SMRs (Small Modular Reactors) ที่ชื่อว่า Aurora
นอกจากจะมีจุดเด่นคือ มีขนาดเล็กลงจึงมีต้นทุนในการพัฒนาต่ำและมีเทคโนโลยีที่ปลอดภัยมากขึ้น
Aurora ยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 15-75 เมกะวัตต์ ซึ่งมากพอที่จะทำให้นิคมอุตสาหกรรมหรือ Data Center ใหญ่ ๆ สามารถมีโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของตัวเองได้
อีกจุดที่เป็นข้อได้เปรียบ และทำให้ Oklo น่าสนใจคือ การใช้เชื้อเพลิงรีไซเคิล มาผลิตพลังงาน
เพราะกากนิวเคลียร์ที่เหลือจากเตาปฏิกรณ์แบบเดิม ยังมีพลังงานเหลือมหาศาล สามารถนำมาผลิตพลังงานได้โดยที่ประสิทธิภาพแทบไม่ต่างจากเดิม
รวมถึงในสหรัฐฯ ก็มีกากนิวเคลียร์ที่ถูกฝังกลบสามารถนำกลับมาใช้ผลิตไฟฟ้าและจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้ทั้งประเทศได้นานกว่า 150 ปี
ซึ่งจริง ๆ แล้วการรีไซเคิลกากนิวเคลียร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเทคโนโลยีนี้ ก็มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทดลองใช้แล้ว
แต่ประเด็นคือ การรีไซเคิลสำหรับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบเดิมนั้นมีความเสี่ยงด้านความมั่นคง
เพราะกากนิวเคลียร์ที่ใช้แล้ว จะปนเปื้อนระหว่างยูเรเนียมที่ใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้า และพลูโทเนียมที่ใช้ทำอาวุธนิวเคลียร์
หากรีไซเคิลแยกเฉพาะยูเรเนียมออกมา เพื่อนำมาใช้ในเตาปฏิกรณ์ ทำให้พลูโทเนียมบริสุทธิ์ที่เหลือ สามารถนำไปทำอาวุธนิวเคลียร์ได้ ซึ่งมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงอย่างมาก
รัฐบาลหลายประเทศ เลยแบนการรีไซเคิลเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ และกากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ปนเปื้อน จึงต้องถูกฝังกลบใต้ดินหรือฝังลึกในภูเขา
แต่สิ่งที่ Oklo กำลังทำคือ การคิดค้นเตาปฏิกรณ์ ที่มีกระบวนการรีไซเคิลแบบใหม่
อธิบายง่าย ๆ คือ Aurora เตาปฏิกรณ์แบบใหม่ที่ Oklo พัฒนา สามารถใช้กากนิวเคลียร์ที่รีไซเคิลแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องแยกพลูโทเนียมออกมา จึงปลอดภัยกว่าและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคง
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ทำให้ปลอดภัยมากขึ้น เช่น ระบบการทำงานที่ปิดตัวได้เองหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
หรือการใช้โลหะเหลวเป็นตัวทำความเย็น แทนน้ำแรงดันสูง ที่ทำให้เสี่ยงต่อการระเบิดได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นในเตาปฏิกรณ์แบบเดิม
อีกประเด็นที่ดึงดูดความสนใจในหมู่นักลงทุนคือ “โมเดลธุรกิจ”
Oklo ไม่ได้ขายเตาปฏิกรณ์ แต่จะขายพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบ Subscription โดยเป็นสัญญาระยะยาว และเก็บค่าไฟฟ้าจากปริมาณการใช้งานจริง
ข้อดีคือ ลูกค้าไม่ต้องลงทุนด้านโครงสร้างสำหรับโรงไฟฟ้าทุกอย่าง เพราะ Oklo จะเป็นผู้ดำเนินการ
ในขณะที่ Oklo ก็จะมีรายได้ในรูปแบบรายได้ประจำเข้าบริษัทอย่างต่อเนื่องตลอดอายุสัญญา
เทียบง่าย ๆ Oklo ก็เหมือน การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ที่รับผิดชอบดูแลการผลิตไฟฟ้า
พ่วงไปกับการเป็น การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ที่คอยรับผิดชอบเดินเสาไฟตามท้องถนน และจ่ายไฟให้ตามอาคารบ้านเรือนทั่วกรุงเทพฯ
ในขณะที่ผู้ใช้งานก็มีหน้าที่คือใช้ไฟฟ้า และจ่ายค่าไฟฟ้าตามปริมาณการใช้งาน
ซึ่งกลุ่มลูกค้าของ Oklo ก็คือ นิคมอุตสาหกรรม, กองทัพ หรือหน่วยงานที่มีการใช้พลังงานจำนวนมาก โดยเฉพาะศูนย์ Data Center ที่กำลังเติบโตไปกับเทรนด์ AI
ด้วยข้อดีทั้งหมดนี้ ทำให้ในสายตานักลงทุน หรือแม้แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ก็เริ่มหันมาสนใจและให้การสนับสนุน Oklo
ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่อนุญาตให้ใช้สถานที่และเชื้อเพลิงนิวเคลียร์สำหรับใช้ในการพัฒนา
หรือเอกชนหลายราย ที่ต้องการพลังงานมหาศาล โดยเฉพาะกลุ่ม Data Center ที่มีการทำสัญญาซื้อพลังงานล่วงหน้า หาก Oklo สามารถพัฒนา Aurora ได้สำเร็จ
อย่างเช่น Microsoft ก็ได้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง กับ Oklo เพื่อซื้อพลังงานสำหรับใช้ใน Data Center
หรือ Switch ผู้ให้บริการ Data Center รายใหญ่ ก็ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อจัดหาพลังงานจาก Oklo มากถึง 12 กิกะวัตต์ ภายในปี 2044 ถือเป็นหนึ่งในข้อตกลงพลังงานสะอาดที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของภาคเอกชน
รวมถึง OpenAI เองที่มี Sam Altman เป็นหัวเรือใหญ่ ก็ถูกคาดว่าจะกลายมาเป็นลูกค้าของ Oklo เช่นกัน..
แม้ทุกอย่างจะไปได้ดี แต่เนื่องจาก Aurora ยังพัฒนาไม่เสร็จ บริษัทจึงยังไม่มีรายได้เลยแม้แต่บาทเดียวตั้งแต่ก่อตั้งมา และทุกวันนี้ Oklo ก็ยังดำเนินการพัฒนาต่อไปได้ ด้วยเงินจากการระดมทุนในอดีต
โดยหากลองไปดูผลประกอบการย้อนหลังจะพบว่า
ปี 2022 รายได้ 0 บาท ขาดทุน 323 ล้านบาท
ปี 2023 รายได้ 0 บาท ขาดทุน 1,033 ล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 0 บาท ขาดทุน 2,375 ล้านบาท
นอกจากจะยังไม่มีรายได้ ผลขาดทุนของบริษัทก็ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
แต่บริษัทก็สามารถนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 2024 ด้วยวิธีการ SPAC หรือ Special Purpose Acquisition Companies
ก็คือ จะมีบริษัทเปลือกที่ก่อตั้งขึ้น แล้วระดมทุนผ่านการ IPO จากนั้นจึงนำเงินที่ระดมทุนได้ ไปซื้อกิจการของบริษัทอื่นที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในที่นี้ก็คือ Oklo
จากนั้นจึงมีการปรับโครงสร้างและทำให้ Oklo กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ด้วยมูลค่าประมาณ 27,400 ล้านบาท
ซึ่งปัจจุบัน นักลงทุนก็คาดหวังกับความสำเร็จไว้มาก
และให้มูลค่าบริษัท ไว้สูงถึง 374,000 ล้านบาท เติบโตถึง 10 เท่า ในเวลาแค่ 1 ปี
ทั้ง ๆ ที่ Oklo ก็ยังไม่เคยมีรายได้เลยแม้แต่บาทเดียว..

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon