ทำไม Epson ถึงเป็น เครื่องพิมพ์ยุคใหม่ ทั้งรักษ์โลกและลดต้นทุน ที่ทุกคนต้องมี ?

ทำไม Epson ถึงเป็น เครื่องพิมพ์ยุคใหม่ ทั้งรักษ์โลกและลดต้นทุน ที่ทุกคนต้องมี ?

24 มี.ค. 2023
ทำไม Epson ถึงเป็น เครื่องพิมพ์ยุคใหม่ ทั้งรักษ์โลกและลดต้นทุน ที่ทุกคนต้องมี ?
Epson x ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่า เพียงแค่เราใช้ไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก เช่น ใช้งานอุปกรณ์ในออฟฟิศหลาย ๆ อย่าง โลกของเราก็ถูกทำลาย และมีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนแล้ว
นั่นก็เพราะ การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ
เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุด
เมื่อเป็นแบบนี้ Epson ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีการพิมพ์ระดับโลก
จึงได้พัฒนา “Heat-Free Technology” เทคโนโลยีการพิมพ์ที่มีส่วนช่วยในการลดโลกร้อนแถมยังช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ลดต้นทุนได้อีกด้วย
แล้วเทคโนโลยี Heat-Free จาก Epson น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ก่อนหน้านี้ หลายคน หรือหลายบริษัท มักจะเลือกใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์
เพราะเชื่อว่า ช่วยประหยัด ใช้งานได้หลากหลาย
ที่สำคัญเลยก็คือใช้แล้วผลงานที่ได้ดูเป็นมืออาชีพ ภาพสวย คมชัด
แต่รู้หรือไม่ว่า เครื่องพิมพ์เลเซอร์มีขั้นตอนการวอร์มเครื่องก่อนพิมพ์ และมีการใช้ความร้อน เพื่อทำให้ผงหมึกละลายบนกระดาษ นำมาซึ่งการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มากขึ้น
ทำให้Epson ตั้งเป้าว่าจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นลบ ภายในปี 2050
มีการประกาศยุติการจำหน่าย และกระจายสินค้าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ทั่วอาเซียน ภายในสิ้นปี 2023 นี้
ในขณะเดียวกันก็หันมาพัฒนา “เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท” ที่มาพร้อมกับ Heat-Free Technology
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ใช้ความร้อนในการพิมพ์ แต่จะใช้แรงดันไฟฟ้าในการเหนี่ยวนำ และพ่นหมึกออกมาแทน
โดยข้อดีหลัก ๆ ของเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่มาพร้อมเทคโนโลยี Heat-Free จาก Epson ได้แก่
1. เป็นเครื่องพิมพ์รักษ์โลก
เพราะใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ที่ต้องใช้ความร้อนในการวอร์มเครื่อง
เมื่อใช้พลังงานน้อยกว่า ก็หมายความว่า ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า
ทำให้ผู้ใช้งาน หรือบริษัทต่าง ๆ มีต้นทุนค่าใช้จ่ายลดลงนั่นเอง
โดย Epson ระบุว่า เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตที่มาพร้อมเทคโนโลยี Heat-Free จะช่วยประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากกว่า 85%* เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ทั่ว ๆ ไปเลยทีเดียว
2. ประหยัดเวลา แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ
เมื่อเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของ Epson ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Heat-Free ไม่จำเป็นต้องรอวอร์มเครื่อง แต่สามารถเริ่มพิมพ์งานได้ทันทีภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
จึงช่วยผู้ใช้งานประหยัดเวลา แม้กระทั่งช่วงเวลารีบ ๆ ก็สั่งพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญ หลาย ๆ คนอาจมองว่า งานพิมพ์จากเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทอาจให้คุณภาพสี และความคมชัดน้อยกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์
แต่ในปัจจุบันต้องบอกว่า เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของ Epson ได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพการพิมพ์เหนือกว่าในอดีตอย่างก้าวกระโดด
งานพิมพ์สามารถทนรอยขีดข่วน สีสันงานพิมพ์คมชัด
ทำให้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทจาก Epson สามารถใช้กับงานสำคัญ ๆ ได้ โดยที่ยังคงความเป็นมืออาชีพไว้นั่นเอง
3. ลดการใช้วัสดุสิ้นเปลือง
เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของ Epson ถูกออกแบบให้มีชิ้นส่วนประกอบน้อยลง
โดยมีการลดชิ้นส่วนและวัสดุสิ้นเปลืองกว่า 59%* เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์
เรื่องนี้จึงทำให้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทของ Epson มีความผิดพลาดในการทำงานน้อยกว่า ทำให้เครื่องพิมพ์ใช้งานและดูแลรักษาง่ายกว่า
จึงช่วยให้ผู้ใช้งาน หรือบริษัทต่าง ๆ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้เป็นอย่างดี
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเห็นแล้วว่า นอกจากจะรักษ์โลกแล้ว ยังช่วยประหยัดต้นทุนต่าง ๆ ได้มากขนาดไหน
ซึ่งถ้าพูดถึงการเลือกใช้งานแล้ว เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทจาก Epson ก็มีให้เลือกหลากหลายรุ่น
ตั้งแต่ขนาดเล็ก ที่รองรับการพิมพ์ 1,500 - 10,000 หน้าต่อเดือน ไปจนถึงขนาดใหญ่ที่รองรับการพิมพ์ 30,000 - 50,000 หน้าต่อเดือน
พร้อมรองรับผู้ใช้งานทุก ๆ กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ โรงเรียน ร้านถ่ายเอกสาร หรือองค์กรขนาดใหญ่ได้เช่นเดียวกัน
จากทั้งหมดนี้ คงเห็นแล้วว่า เครื่องพิมพ์ยุคใหม่ของ Epson มีข้อดีมากมาย
ทั้งรักษ์โลก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยประหยัดต้นทุน ที่สำคัญยังมีหลากหลายรุ่นให้เลือกซื้อ
จึงสรุปได้สั้น ๆ ว่า เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทที่มาพร้อมเทคโนโลยี Heat-Free ของ Epson เป็นเครื่องพิมพ์ที่ทุกคน ทุกบริษัท หรือทุกสำนักงาน ไม่ควรพลาดนั่นเอง..
Reference
*อ้างอิงจาก epson.co.th/be-cool-bij
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.