7 วันหลังแผ่นดินไหว... ทุกโครงการของ AP Thailand ผ่านการตรวจสอบด้านวิศวกรรมโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางระดับอาจารย์ พร้อมการรับรองอย่างครบถ้วนจากหน่วยงานภาครัฐ

7 วันหลังแผ่นดินไหว... ทุกโครงการของ AP Thailand ผ่านการตรวจสอบด้านวิศวกรรมโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางระดับอาจารย์ พร้อมการรับรองอย่างครบถ้วนจากหน่วยงานภาครัฐ

AP Thailand x ลงทุนแมน
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ริกเตอร์ในประเทศพม่า
โดยแรงสั่นสะเทือนจากจุดศูนย์กลางส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ครอบคลุมหลายพื้นที่ของประเทศไทย รวมถึงกรุงเทพมหานคร
แม้เหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อโครงสร้างหลักของประเทศ
แต่ก็สร้างแรงกระเพื่อมในแง่ของ “ความเชื่อมั่น” ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมกระจายอยู่ในเขตต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ AP Thailand หนึ่งในผู้นำตลาดที่มีโครงการกระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ที่สำคัญคือ AP Thailand ได้จัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 7 ทีม เพื่อเข้าตรวจสอบโครงการในทุกจุดอย่างละเอียด พร้อมออกใบรับรองรับประกันความปลอดภัยโดยวิศวกรผู้ทรงคุณวุฒิ นำทีมโดยบุคลากรระดับแนวหน้าทางด้านวิศวกรรมโครงสร้างของประเทศ เช่น
- ผศ. ดร.อาทิตย์ เพชรศศิธร ผู้ช่วยอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
- รศ. ว่าที่ ร.ต. ดร.ศุภชัย สินถาวร ภาควิชาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- คุณชาย แสงไสว วุฒิวิศวกร สาขาวิศวกรรมโยธา (วย.2190) ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท ซี เอส 2190 จำกัด
- คุณกิตติภพ พฤกษากิจขจี วุฒิวิศวกร (วย.1571) ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท โบลดอร์ สจ๊วต จำกัด
จะเห็นได้ว่า ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ไม่เพียงมีคุณวุฒิและตำแหน่งในระดับสูง แต่ยังมีประสบการณ์ตรงทั้งจากภาควิชาการและภาคปฏิบัติ โดยเฉพาะในด้านโครงสร้างอาคารและการรับมือกับแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่พบได้น้อยในระดับโครงการทั่วไป
การที่ AP Thailand เลือกผู้ทรงคุณวุฒิในระดับนี้เข้ามาร่วมตรวจสอบ จึงสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานของโครงการที่ไม่ได้ตั้งอยู่เพียงแค่การผ่านเกณฑ์เท่านั้น แต่คือการมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยให้ถึงที่สุด ซึ่งการมีใบรับรองจากผู้ตรวจสอบภายนอก นอกจากจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงความโปร่งใส และมาตรฐานของโครงการในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญไม่แพ้มาตรฐาน ก็คือ “ความห่วงใย” ที่ AP Thailand มีต่อผู้อยู่อาศัย
เพราะ AP Thailand ไม่เคยมองว่าการตรวจสอบเป็นเพียงขั้นตอนที่ต้องทำให้ครบ แต่คือการลงมือทำอย่างจริงจัง เพื่อให้ลูกบ้านมั่นใจได้ว่า บ้านของเขาได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ทั้งในด้านคุณภาพ ความแข็งแรง และความปลอดภัยในทุกมิติ
แล้วตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา AP Thailand เร่งเครื่องตรวจสอบโครงการเคียงข้างลูกบ้านอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
แผ่นดินไหวถือเป็นเหตุสุดวิสัยทางธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่า “Act of God”
เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการสามารถทำได้คือ “สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค”
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่หลายแบรนด์เลือกใช้ คือการตั้ง War Room หรือศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ
เพื่อให้ทีมหลัก เช่น ฝ่ายบริหาร วิศวกร ฝ่ายสื่อสารองค์กร และทีมลูกค้าสัมพันธ์ ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อรับมือสถานการณ์ได้แบบเรียลไทม์
เพราะในสถานการณ์เช่นนี้ “ความเร็ว” ในการสื่อสาร สำคัญไม่แพ้ “ความถูกต้อง”
ทุกนาทีที่ลูกบ้านรู้สึกไม่มั่นใจ คือความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อทั้งความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในระยะยาว
โดยขั้นตอนการตรวจสอบทั้งหมดแบ่งออกเป็น 2 ระยะสำคัญ คือ
- ระยะที่ 1 คือการตรวจสอบเบื้องต้นทันทีหลังเกิดเหตุ ทีมงานของ AP Thailand ได้เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจประเมินความเสียหายอย่างเร่งด่วน
- ระยะที่ 2 คือขั้นตอนการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเชิงลึก โดยทีมวิศวกรโยธาที่มากด้วยประสบการณ์ ซึ่งแต่ละท่านล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโครงสร้างและความปลอดภัยของอาคาร
หลายท่านเคยดำรงตำแหน่งอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ บางท่านเคยเป็นถึงผู้ช่วยอธิการบดี หรือที่ปรึกษาอาวุโสให้แก่หน่วยงานด้านโครงสร้างระดับประเทศ แน่นอนว่า ทุกคนได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุด
ขั้นตอนนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของทีมวิศวกรจะช่วยประเมินความเสียหายได้อย่างแม่นยำ ตรงจุด และเชื่อถือได้ ยิ่งสามารถตรวจสอบได้เร็วเท่าไร ลูกบ้านก็สามารถกลับเข้าพักอาศัยได้เร็วขึ้นเท่านั้น ลดความกังวล และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้อยู่อาศัย
เพื่อยกระดับความโปร่งใสและความถูกต้อง AP Thailand จึงเลือกใช้บริการผู้ตรวจสอบอิสระ (Third Party Inspection) ที่มีมาตรฐานวิชาชีพสูง ทำหน้าที่ตรวจสอบสภาพอาคารอย่างเป็นกลาง และปราศจากผลประโยชน์ทับซ้อน
ซึ่งข้อดีของการมี Third Party คือช่วยให้การประเมินเป็นไปอย่างแม่นยำ น่าเชื่อถือ และลดความเสี่ยงจากความลำเอียง พร้อมสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและยุติธรรมในทุกขั้นตอน
จะเห็นว่าทุกกระบวนการถูกออกแบบภายใต้หลักคิด “ความปลอดภัย ความถูกต้อง และความสบายใจ” ของลูกบ้านเป็นสำคัญ เพื่อให้ทุกครอบครัวสามารถกลับเข้าพักได้อย่างมั่นใจว่าทุกการดูแลจาก AP Thailand ได้ผ่านการตรวจสอบอย่างรอบคอบและใส่ใจในทุกรายละเอียด
จนถึงขณะนี้ ได้ดำเนินการตรวจสอบโครงการคอนโดมิเนียมแล้วเสร็จครบทั้ง 79 โครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถตรวจสอบครบทั้ง 82 โครงการได้ ภายในวันที่ 4 เมษายน 2568
สามารถอัปเดตการตรวจสอบรายโครงการได้ที่ https://www.facebook.com/APthai/posts/pfbid02xhryRpYyoW8Eg77t87ejTE5oYsQ4PDUE4ge7cXPpKp8zuoYDGgSVc1aKhFA5skmtl?_rdc=2&_rdr#
หรือสามารถตรวจสอบอาคารที่ได้รับการรับรองแล้วโดยกรุงเทพมหานครได้ที่
https://openpolicy.bangkok.go.th/bkkbuilding.html
และสำหรับโครงการที่ได้รับผลกระทบด้านโครงสร้าง เช่น “เสาคอนกรีต” ที่มีร่องรอยหรือความเสียหาย AP Thailand ได้ดำเนินการซ่อมแซมด้วยวิธี Jacketing Column และหล่อเสาใหม่โอบล้อมเสาเดิม
แล้ว Jacketing Column มีข้อดีอย่างไร ?
Jacketing Column คือเทคนิคการเสริมความแข็งแรงให้เสาคอนกรีตเดิม ด้วยการหุ้มเสาด้วยวัสดุใหม่ เช่น แผ่นเหล็ก หรือคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อเพิ่มขนาดหน้าตัดของเสา ช่วยให้สามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น และทนต่อแรงต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากช่วยฟื้นฟูโครงสร้างเดิมที่เริ่มเสื่อมสภาพ Jacketing ยังทำให้เสาแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะในกรณีที่อาคารต้องรองรับน้ำหนักเพิ่มขึ้น หรือมีแผนปรับปรุงเพื่อใช้งานในระยะยาว จึงถือเป็นทั้งวิธีการซ่อมแซมเชิงวิศวกรรม และการยกระดับความปลอดภัยของอาคารในคราวเดียวกัน
ซึ่งข้อดีของการทำ Jacketing Column ได้แก่
- เพิ่มความแข็งแรงของเสาเดิม เหมาะกับอาคารที่มีรอยร้าว หรือได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว
- ยืดอายุการใช้งานของโครงสร้าง ช่วยให้รองรับน้ำหนักได้ดีขึ้น และปลอดภัยในระยะยาว
- ลดความเสี่ยงจากการทรุดตัวหรือพังถล่ม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีแรงสั่นสะเทือน หรือใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน
โดย AP Thailand ดำเนินงานร่วมกับวิศวกรโครงสร้างระดับวุฒิวิศวกรจากบริษัท โพสท์ จำกัด ภายใต้การดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิดจากฝ่ายโยธา เขตจตุจักร, สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และวิศวกรผู้เชี่ยวชาญจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ AP Thailand ยังมั่นใจอย่างมากด้วยว่าตนเองเป็นหนึ่งในไม่กี่แบรนด์อสังหาฯที่สามารถดำเนินการตรวจสอบได้ตามหลักเกณฑ์ของกรุงเทพมหานครอย่างถูกต้อง และยังตั้งใจที่จะเป็นแบรนด์แรกที่ผ่านกระบวนการตรวจสอบอย่างสมบูรณ์ในทุกขั้นตอน
โดยกระบวนการตรวจสอบและซ่อมแซมเสาคอนกรีตประกอบด้วย 5 ขั้นตอนหลัก ดังนี้
- ขั้นตอนที่ 1
อุดรอยร้าวด้วยปูนซีเมนต์ผสมไฟเบอร์ เพื่อปิดช่องว่างเล็ก ๆ บนผิวเสา ป้องกันไม่ให้ยา Epoxy ไหลออก เป็นการเตรียมพื้นผิวก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการซ่อมเชิงลึก
- ขั้นตอนที่ 2
เข้าแบบหล่อ และเทปูน Non-Shrink Cement ใช้วัสดุพิเศษที่ไม่หดตัวเมื่อแห้ง เพื่อปรับผิวเสาให้เรียบ ช่วยให้ยา Epoxy ยึดติดได้ดีในขั้นตอนต่อไป
- ขั้นตอนที่ 3
หุ้มเสาด้วยแผ่นเหล็กหนา 25 มิลลิเมตร (Jacketing Column) หุ้มเสารอบด้าน สูงประมาณ 3.60 เมตร เป็นขั้นตอนหลักที่ช่วยเสริมกำลังโครงสร้างอย่างชัดเจน
- ขั้นตอนที่ 4
ฉีดยา Epoxy Pressure Grout เข้าไปในช่องว่างระหว่างแผ่นเหล็กกับเสาคอนกรีตเดิม เพื่อเชื่อมผิววัสดุทั้งสองให้เป็นเนื้อเดียวกัน
- ขั้นตอนที่ 5
เพิ่มขนาดหน้าตัดของเสาด้วยการเทคอนกรีตเสริมเหล็กรอบเสาเดิม ให้มีความหนาเพิ่มขึ้นประมาณ 15 เซนติเมตร โดยเสริมเหล็กแนวตั้งชนิด DB20 และ DB12 ควบคู่กับเหล็กปลอกที่จัดวางถี่ทุกระยะ 15 เซนติเมตร
และหากโครงสร้างต้องการความแข็งแรงเป็นพิเศษ จะมีการเชื่อมต่อเสาใหม่เข้ากับฐานราก (Footing) เพื่อเสริมความมั่นคงในระยะยาว นั่นเอง
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็คงเห็นถึงความพยายามของ AP Thailand ในการสื่อสารและเร่งแก้ปัญหาอย่างโปร่งใส รอบคอบ ตรวจสอบได้ ด้วยความจริงใจและใส่ใจต่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
แต่คำถามสำคัญก็คือ หลังจากนี้ ลูกบ้านควรเตรียมตัวอย่างไร หากต้องการซ่อมบำรุงห้องของตนเอง ?
สำหรับลูกบ้าน AP Thailand ที่ต้องการซ่อมบำรุงห้องของตัวเอง สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่าน 3 ขั้นตอน
1. ประเมินความเสียหายเบื้องต้น
- ลูกบ้านถ่ายภาพความเสียหายภายในห้องเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
- เตรียมเอกสารประกอบการเคลม เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาบัตรประชาชน, รูปภาพ/วิดีโอ, รายละเอียดเหตุการณ์
- ส่งเอกสารให้บริษัทประกันหรือนิติบุคคลอาคารชุด
2. ติดต่อแจ้งเคลมประกัน
- กรณีที่ 1 : เคลมกับบริษัทประกันของลูกบ้านโดยตรง
- กรณีที่ 2 : เคลมกับบริษัทประกันของโครงการ (ผ่านนิติบุคคล) โดยเตรียม List รายชื่อห้องชุด พร้อมเอกสารตามที่กำหนด
3. นัดหมายช่างเข้าซ่อมบำรุง
- มีผู้ประสานงานติดต่อวันเข้าซ่อมกับลูกบ้าน
- ช่างเข้าซ่อมตามวันที่นัดหมาย
- หลังงานซ่อมเสร็จ ลูกบ้านตรวจรับความเรียบร้อยก่อนเซ็นรับงาน
ที่น่าสนใจก็คือ ลูกบ้านของ AP Thailand ยังสามารถตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการเคลมประกันได้อย่างสะดวก ผ่านแอปพลิเคชัน AP Easy
ซึ่งช่วยลดขั้นตอนยุ่งยาก และทำให้การสื่อสารระหว่างลูกบ้านกับผู้ดูแลโครงการเป็นไปอย่างราบรื่น
สุดท้ายแล้ว แม้จะไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการฟื้นความเชื่อมั่น และยืนหยัดดูแลผู้บริโภคอย่างจริงใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ AP Thailand ยึดมั่นและปฏิบัติมาตลอด 41 ปี
แม้ในบางโครงการจะพ้นระยะเวลารับประกัน หรือไม่ได้อยู่ในการดูแลของผู้พัฒนาเดิมแล้ว AP Thailand ก็ยังคงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยจัดหาผู้รับเหมาที่มีมาตรฐาน พร้อมให้นิติบุคคลของแต่ละโครงการเป็นผู้ตัดสินใจเลือกใช้งานได้อย่างอิสระ
เพราะในช่วงเวลาแบบนี้ การไม่ละทิ้งกัน คือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับลูกบ้านของ AP Thailand นั่นเอง..
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานนิติบุคคลอาคารชุดของท่าน
หรือ AP Call Center โทร. 1623 และ SMART Call Center โทร. 02-079-7777 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
หรือติดตามความคืบหน้าได้ที่ Facebook : AP Thai
หมายเหตุ : การตรวจสอบโครงการคอนโดมิเนียมแล้วเสร็จครบทั้ง 79 โครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา และคาดว่าจะสามารถตรวจสอบครบทั้ง 82 โครงการได้ ภายในวันที่ 4 เมษายน 2568
Tag: AP

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon