INETREIT x ลงทุนแมน

ทุกวันนี้ เราเห็นเทคโนโลยีอย่าง AI และบริการ Cloud เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลภาพ เสียง ช่วยในการจัดการชีวิตส่วนตัว รวมถึงการนำไปใช้ทำงานของธุรกิจขนาดใหญ่ทั่วโลก

แต่เบื้องหลังความก้าวหน้าทั้งหมดนี้ มีสิ่งหนึ่งที่เป็น “รากฐาน” สำคัญ นั่นคือ “ข้อมูล”

โดยสถานที่ที่ใช้ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลเหล่านี้ก็คือ Data Center

ซึ่งทั้ง AI และ Cloud ต่างก็ต้องพึ่งพาข้อมูลจำนวนมหาศาลในการทำงาน และต้องอาศัยระบบที่เสถียร ปลอดภัย รวมถึงทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับข้อมูลเหล่านั้น

พูดง่าย ๆ ว่า Data Center จึงไม่ใช่แค่โครงสร้างพื้นฐานธรรมดา แต่คือหัวใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตของเทคโนโลยีแห่งอนาคต

แล้ววันนี้ประเทศไทย มีบทบาทอย่างไรในธุรกิจ Data Center ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

รู้หรือไม่ว่า ในภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญของธุรกิจ Data Center

โดยในปี 2567 ตลาดนี้มีมูลค่าประมาณ 56,160 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตแตะระดับ 114,840 ล้านบาท ภายในปี 2573 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ราว 12.66% ต่อปี

เหตุผลที่ทำให้ไทยมีโอกาสที่จะเป็น “Hub” ของ Data Center ในอาเซียน มาจากหลายปัจจัย เช่น

- ทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์
ประเทศไทยอยู่ใจกลางอาเซียน เชื่อมโยงได้ง่ายกับกลุ่ม CLMVT (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย) ซึ่งกลุ่มนี้มีประชากรรวมกันกว่า 246 ล้านคน จึงเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูง ทั้งในด้านการบริโภค และการลงทุน

- โครงสร้างพื้นฐานพร้อมรองรับ
ระบบไฟฟ้ามีความเสถียร รองรับการใช้พลังงานสะอาดได้ดี อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโครงข่าย 5G ที่ครอบคลุมมากที่สุดในภูมิภาค

- นโยบายภาครัฐเอื้อต่อการลงทุน
ทั้ง “Cloud First Policy” และวิสัยทัศน์ “Ignite Thailand” ของรัฐบาล สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี พร้อมสิทธิประโยชน์จาก BOI เช่น การยกเว้นภาษีและการอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าให้บุคลากรทักษะสูง

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจ Data Center ในไทยมีความน่าสนใจ

คำถามที่ตามมาก็คือ ถ้าเราอยากลงทุนในธุรกิจ Data Center จะมีทางเลือกอะไรบ้าง ?

หนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจคือ INETREIT กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองแรกของประเทศไทยที่เน้นลงทุนใน “Pure Data Center” หรือก็คือศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลโดยเฉพาะ ไม่กระจายไปยังกลุ่มอสังหาฯ ประเภทอื่น

จุดเด่นของ INETREIT อยู่ที่การจ่ายปันผลแบบ “รายเดือน” ซึ่งถือเป็นรายแรกของไทย นักลงทุนจึงได้รับกระแสเงินสดสม่ำเสมอทุกเดือน ต่างจาก REIT ทั่วไปที่จ่ายปันผลรายไตรมาส หรือเงินฝากที่มักจ่ายดอกเบี้ยเพียงปีละ 1-2 ครั้ง

แน่นอนว่า การจ่ายปันผลรายเดือนแบบนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มองหา “กระแสเงินสด” มากกว่าการถือสินทรัพย์ เพื่อรอผลตอบแทนระยะยาวเพียงอย่างเดียว

แล้ว INETREIT ลงทุนในอะไร ?

คำตอบคือ “INET-IDC3” ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ของ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) โดยทรัพย์สินหลักใน INET-IDC3 ที่กองทรัสต์ถือครองในปัจจุบัน คือ Phase ที่ 1 และ 2 (บางส่วน)

INET-IDC3 แห่งนี้ให้บริการครบวงจร ทั้ง Co-Location, Cloud Services และ Business Continuity Planning (BCP) รองรับความต้องการขององค์กรยุคใหม่ที่ต้องการความมั่นคงทางระบบไอที และการดำเนินธุรกิจที่ต่อเนื่อง แม้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ที่น่าสนใจคือ INET-IDC3 ถูกออกแบบตามมาตรฐานระดับสากล รองรับการใช้งานทั้งในรูปแบบ Data Center (DC) และ Disaster Recovery (DR)
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งระบบไฟฟ้าสำรอง ระบบรักษาความปลอดภัย และพื้นที่ทำงานสำรอง (BCP Room) ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์สำนักงาน พร้อมใช้งานทันทีเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด

โดยรายได้หลักของ INETREIT มาจากค่าเช่าศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยประมาณ 2% ต่อปี สะท้อนถึงศักยภาพในการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอและยั่งยืนในระยะยาว

แล้วผลประกอบการย้อนหลังของ INETREIT เป็นอย่างไร ?

ปี 2565 รายได้ 397.57 ล้านบาท กำไร 502.39 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 400.43 ล้านบาท กำไร 294.94 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 617.93 ล้านบาท กำไร 772.29 ล้านบาท

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ INETREIT มีกำไรมากกว่ารายได้
เพราะนอกจากรายได้จากค่าเช่า ยังมีส่วนที่เป็น “กำไรจากการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน” เช่น Data Center
โดยเมื่อมีการประเมินใหม่และมูลค่าเพิ่มขึ้น ส่วนต่างดังกล่าวจะถูกบันทึกเป็นกำไรทางบัญชี

นอกจากนี้ โครงสร้างของทรัสต์อย่าง INETREIT ยังมีต้นทุนดำเนินงานต่ำ ไม่มีต้นทุนการผลิตหรือค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสต๊อกสินค้าเหมือนธุรกิจทั่วไป ส่งผลให้กำไรโดยรวมสูงกว่ารายได้ ซึ่งเป็นลักษณะปกติของ REIT และธุรกิจประเภทโฮลดิง

พูดง่าย ๆ คือ กำไรของ INETREIT มาจากทั้งรายได้ค่าเช่า และมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นควบคู่กันไป

ที่น่าสนใจคือ ในปี 2567 บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ซึ่งเป็นผู้จัดตั้ง INETREIT ยังสามารถรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมมากกว่า 2,500 ล้านบาท และมีกำไร 380 ล้านบาท

สาเหตุสำคัญมาจากการขยายบริการด้าน Cloud Computing และ Digital Transformation ควบคู่กับการรุกธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) เพื่อตอบโจทย์องค์กรยุคดิจิทัลที่หันมาใช้บริการ Cloud เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

อ่านมาถึงตรงนี้ เราคงพอเห็นภาพรวมของ INETREIT และธุรกิจที่กองทรัสต์นี้เข้าไปลงทุนได้ชัดเจนมากขึ้น

เพื่อประเมินความคุ้มค่าของ INETREIT ให้ครบถ้วนยิ่งขึ้น ลองมาดูผลตอบแทนของสินทรัพย์ทางเลือกประเภทอื่น ๆ ซึ่งนักลงทุนมักนำมาใช้เปรียบเทียบกันในพอร์ตการลงทุน

- เงินฝากออมทรัพย์
ให้ดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.5-1.5% ต่อปี แม้จะมีความเสี่ยงต่ำ แต่ผลตอบแทนก็ต่ำตามไปด้วย

- กองทุนตลาดเงิน (Money Market Fund)
ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 2-3% ต่อปี เหมาะกับการพักเงินระยะสั้นมากกว่าการลงทุนเพื่อสร้างรายได้ประจำ

- การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โดยตรง
อาจให้ผลตอบแทน 5-7% ต่อปี ขึ้นอยู่กับทำเลและต้นทุนแฝง แต่ผู้ลงทุนต้องรับภาระในการบริหารจัดการทรัพย์สินด้วยตนเอง ทั้งเรื่องผู้เช่า ค่าบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ

ส่วน INETREIT โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุน มีการจ่ายปันผลเฉลี่ยสูงสุด 8% ต่อปี พร้อมกระแสรายได้ที่มั่นคงจากผู้เช่าระยะยาวในศูนย์ข้อมูล (Data Center) อีกทั้งยังไม่มีภาระด้านการบริหารจัดการทรัพย์สิน

อาจเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่มองหาความมั่นคงควบคู่กับโอกาสในการสร้างผลตอบแทน ด้วยระดับความเสี่ยงที่ต่ำกว่าหุ้น แต่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าการฝากเงิน จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการรายได้ประจำในระยะยาว โดยไม่ต้องบริหารจัดการทรัพย์สินด้วยตนเอง

เพราะในโลกที่ “ข้อมูล” คือทรัพยากรแห่งอนาคต การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับข้อมูล ไม่เพียงช่วยสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง แต่ยังเป็นการวางตำแหน่งให้เราอยู่บนเส้นทางของการเติบโตในระยะยาว

และที่สำคัญ INETREIT ยังเป็นกองทรัสต์รายแรกของไทยที่จ่ายปันผลรายเดือน ตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดเต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอน นั่นเอง..

สำหรับใครที่สนใจ INETREIT สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.inetreit.com/en/home

คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

References
-ข่าวประชาสัมพันธ์ INETREIT
-https://www.inetreit.com/en/home
-https://www.bot.or.th/th/statistics/interest-rate.html
-https://www.morningstarthailand.com/th/
-https://www.reuters.com/world/asia-pacific/thailand-pursue-new-policies-boost-protect-digital-economy-2024-11-08/?
-https://www.dga.or.th/document-sharing/dga-news/113585/
-https://www.globenewswire.com/news-release/2025/02/13/3025955/28124/en/Thailand-Data-Center-Market-Investment-Analysis-Growth-Opportunities-Databook-2025-2030-Covering-31-Existing-and-10-Upcoming-Third-Party-Data-Center-Facilities-Across-4-Cities-in-T.html
-https://www.inet.co.th/en/services/inet-idc?
-https://www.ignitethailand.org/