
วิกฤติ Google เมื่อคนทั่วโลกกำลัง Search Google น้อยลง
วิกฤติ Google เมื่อคนทั่วโลกกำลัง Search Google น้อยลง /โดย ลงทุนแมน
ล่าสุดผู้บริหาร Apple ออกมายอมรับว่าคนกำลัง Search น้อยลงในเว็บเบราว์เซอร์ของ Apple
ล่าสุดผู้บริหาร Apple ออกมายอมรับว่าคนกำลัง Search น้อยลงในเว็บเบราว์เซอร์ของ Apple
และล่าสุด Google Search สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดต่ำกว่า 90% เป็นครั้งแรก ในรอบ 10 ปี ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีรายนี้
เพราะอะไรคนถึง Search Google น้อยลง ?
ทำไมเรื่องนี้กำลังเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างพฤติกรรมของมนุษย์ครั้งใหญ่ในรอบ 27 ปี
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ในวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา คุณ Eddy Cue ออกมายอมรับว่ายอดค้นหาในเว็บเบราว์เซอร์ของ Apple กำลังลดลง ซึ่ง Apple จะไม่ยอมรับกับสิ่งนี้ และกำลังพิจารณาเพิ่มระบบค้นหา AI ลงในเว็บเบราว์เซอร์ของ Apple
หลังจากมีข่าวนี้ หุ้น Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google ร่วงในวันนั้นทันที 7% คิดเป็นมูลค่าที่หายไป 4.5 ล้านล้านบาท
เกิดอะไรขึ้นกับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ?
เหตุผลหลักก็คือ การมาของ Generative AI
จากเมื่อก่อนที่เราค้นหาข้อมูลผ่าน “Search Google”
แต่ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกกำลังเลือกการถาม ChatGPT หรือแพลตฟอร์ม AI อื่น ๆ ทั้ง Perplexity, Claude, Gemini (ของ Google เอง) และล่าสุดกับ DeepSeek ของจีน เพราะว่าให้ข้อมูลสรุปที่รวดเร็ว ไม่ต้องมานั่งคอยคลิกลิงก์อีกรอบเหมือน Google
แต่ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกกำลังเลือกการถาม ChatGPT หรือแพลตฟอร์ม AI อื่น ๆ ทั้ง Perplexity, Claude, Gemini (ของ Google เอง) และล่าสุดกับ DeepSeek ของจีน เพราะว่าให้ข้อมูลสรุปที่รวดเร็ว ไม่ต้องมานั่งคอยคลิกลิงก์อีกรอบเหมือน Google
ถึงแม้ว่า Google จะมี Gemini แต่ก็ต้องยอมรับว่าเกมนี้มันไม่ใช่เหมือนเก่า ที่ Google ผูกขาดการค้นหาอยู่รายเดียว
เกมนี้ส่วนแบ่งตลาดจะกระจัดกระจายกันไป ซึ่งนำโดย ChatGPT และตามมาด้วย AI รายอื่น ๆ
ดังนั้นเมื่อคนค้นหา Google น้อยลง รายได้โฆษณาซึ่งเป็นรายได้หลักของ Google ก็จะลดลงตาม
ซึ่งในปีที่แล้ว Google มีรายได้จาก Google Search มากถึง 6.5 ล้านล้านบาท
โครงสร้างรายได้ของ Google (Alphabet) ปี 2024
? Google Search และอื่น ๆ 56.6%
? YouTube Ads 10.3%
? Google Network 8.7%
? Subscriptions, Platforms & Devices 11.5%
☁️ Google Cloud 12.4%
? Other Bets (Waymo, Verily) 0.5%
? YouTube Ads 10.3%
? Google Network 8.7%
? Subscriptions, Platforms & Devices 11.5%
☁️ Google Cloud 12.4%
? Other Bets (Waymo, Verily) 0.5%
จะเห็นได้ว่า ถ้ายอดรายได้จาก Search ของ Google ลดลง Google จะเสียหายหนัก เพราะรายได้มีสัดส่วนเกินกว่าครึ่ง
นอกจากเรื่อง AI แล้ว ก็ยังมีพฤติกรรมอื่นของผู้ใช้งานที่ทำให้คนนึกถึง Google น้อยลง เช่น การ Search ลดลงในกลุ่มวัยรุ่น
Gen Z เริ่มค้นหาข้อมูลจาก TikTok หรือ Instagram แทนที่ Google โดยเฉพาะเรื่องแฟชั่น ร้านอาหาร หรือการท่องเที่ยว Google เองยังเคยยอมรับว่า “เกือบ 40% ของวัยรุ่นอเมริกันค้นหาสิ่งเหล่านี้จาก TikTok”
นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องของตัว Google เอง ที่บางคนอาจคิดว่าคุณภาพของ Search ที่ไม่เหมือนเดิม
ผู้ใช้งานหลายคนบ่นว่าผลลัพธ์บน Google วันนี้เต็มไปด้วยโฆษณา และเว็บไซต์คุณภาพต่ำที่ทำเพื่อติด SEO มากกว่าข้อมูลจริงที่ต้องการ
ดังนั้นการเกิดขึ้นของ AI ก็ทำให้คนยิ่งเห็นความแตกต่างของผลลัพธ์ว่ามันตอบโจทย์กว่า Google
เรื่องนี้จะกระทบอะไร ?
เรื่องแรก Google อาจไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ทางเทคโนโลยีที่ผูกขาดเรื่องการค้นหาอีกต่อไป ซึ่งมันได้เกิดขึ้นแล้ว และแนวโน้มนี้ยากที่จะต้านทาน
ดังนั้นพอคนไม่ได้คิดถึงเรื่อง Search โดย Google แล้วเข้าแพลตฟอร์ม AI โดยตรง Google ก็จะสูญเสียความเป็น Portal หรือประตูหลักของโลกอินเทอร์เน็ตไป
ลองคิดดูว่าถ้า ChatGPT พัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ขึ้นมา มันก็จะกลายเป็นคู่แข่งหลักของ Chrome ในทันที
ดังนั้นก็มีโอกาสที่ระบบนิเวศที่ Google สร้างมา จะถูกสั่นคลอน เป็นโดมิโนลามไปยังเรื่องต่าง ๆ ที่ใหญ่ขึ้น
Google จะรับมืออย่างไรกับเรื่องนี้ ?
ตอนนี้จริง ๆ Google ก็รู้ตัวเอง และพยายามใส่ AI เข้าไปในผลลัพธ์การ Search เช่น มีผลลัพธ์จาก Gemini อยู่บรรทัดบนสุด
แต่โลกนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เกม AI ไม่ได้ผูกขาดโดย Google เพียงรายเดียว ทำให้ Google ก็ต้องพยายามมากขึ้นอีกในการต่อสู้ในสงครามครั้งใหม่
นอกจากนั้นการพัฒนา AI ย่อมต้องใช้เงินทุน กลายเป็นว่า Google ต้องสูญเสียรายได้จากโฆษณาของระบบค้นหาเดิม และต้องทุ่มทุนมหาศาลเพื่อพัฒนา AI เพื่อมาสู้กับคนอื่น
ดังนั้นในอนาคต ทุกคนคงมองว่า Google คงไม่ได้ผลิตเงินสดได้ง่าย ๆ เหมือนในยุคก่อนแล้ว และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้น Google ปรับตัวลงแรงทันทีที่ได้ยินข่าว Apple จะพยายามหา AI มาทดแทน Google
แต่เรื่องที่น่าสนใจคือ Google จ่ายเงินให้ Apple ปีละประมาณ 6 แสนล้านบาท เพื่อเป็น Default Search ในเว็บเบราว์เซอร์ของ Apple
ถ้า Apple ถอด Google ออก ก็แปลว่า Google ไม่ต้องจ่ายเงินนั้นและนำมาพัฒนาเรื่องอื่นได้เช่นกัน
ถ้าถามว่าเงินจำนวนนี้มากขนาดไหน ก็จะมากเป็นถึง 10% ของรายได้ Search ของ Google เลยทีเดียว
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า วิกฤติของ Google ในวันที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จะถูกแก้ไขได้หรือไม่
วิกฤติครั้งนี้คงเป็นเรื่องใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ 27 ปี ตั้งแต่ Google ก่อตั้งบริษัทมา
และวิกฤติในครั้งนี้ก็เกิดขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมมนุษย์ในการค้นหาข้อมูลครั้งใหญ่สุดในรอบ 27 ปีเช่นกัน
ถ้าให้นึกถึงสมุดหน้าเหลืองที่คนยุคก่อนใช้ในการหาเบอร์โทรศัพท์ ที่บางคนอาจจะไม่รู้จักคำนี้แล้ว
ก็คงไม่แปลกใจ จากเหตุการณ์ในวันนี้
จะทำให้เด็กรุ่นต่อไป
ไม่เข้าใจคำว่าการ Search Google แปลว่าอะไร..
จะทำให้เด็กรุ่นต่อไป
ไม่เข้าใจคำว่าการ Search Google แปลว่าอะไร..
Tag: วิกฤติ Google