
สรุปประเด็นสำคัญ K SME SIERRA Legacy Forward เพื่อส่งต่อธุรกิจครอบครัวสู่การ IPO
K SME SIERRA x ลงทุนแมน
หนึ่งในความท้าทายของธุรกิจครอบครัวคือ การส่งต่อรุ่นสู่อีกรุ่น
รู้หรือไม่ว่า ธุรกิจครอบครัวรุ่นบุกเบิกหรือ Gen 1 ในจำนวน 100 ธุรกิจที่ส่งต่อให้รุ่นถัดไปจะเหลือโอกาสรอดลดลงเรื่อย ๆ
- รุ่นลูกหรือ Gen 2 เหลือเพียง 30 ธุรกิจ
- รุ่นหลานหรือ Gen 3 เหลือเพียง 12 ธุรกิจ
- รุ่นเหลนหรือ Gen 4 เหลือเพียง 3 ธุรกิจ
- รุ่นหลานหรือ Gen 3 เหลือเพียง 12 ธุรกิจ
- รุ่นเหลนหรือ Gen 4 เหลือเพียง 3 ธุรกิจ
หลายธุรกิจดั่งเดิมที่มีอายุยาวนานเลยมองหาทางออกที่จะช่วยให้ธุรกิจอยู่ต่อไปได้ ถ้าสังเกตบริษัทมหาชนส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจครอบครัวถึง 67%
แล้วอะไรคือสิ่งที่คนทำธุรกิจครอบครัวควรรู้อีกบ้าง ?
ธนาคารกสิกรไทยจัดสัมมนาพิเศษให้กลุ่มลูกค้า K SME SIERRA ภายในงาน Legacy Forward : Strategic Growth & Succession Plan
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
ธนาคารกสิกรไทยจัดสัมมนาพิเศษให้กลุ่มลูกค้า K SME SIERRA ภายในงาน Legacy Forward : Strategic Growth & Succession Plan
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
ผศ.ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล ผู้อำนวยการศูนย์ที่ปรึกษาและสร้างการเติบโตทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ฉายภาพรวมว่า..
ปัจจุบันนี้ ถ้ามองไปถึงตัวอย่างปัญหาส่วนใหญ่ที่หลายธุรกิจครอบครัวพบเจอ เช่น
- รุ่นลูกควรหาประสบการณ์นอกบ้าน VS กลับมาทำงานธุรกิจครอบครัวเลย
- รุ่นลูกควรหาประสบการณ์นอกบ้าน VS กลับมาทำงานธุรกิจครอบครัวเลย
จริง ๆ แล้วหัวใจสำคัญของเรื่องนี้คือ การทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน และอย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจไปเอง
โดยเหตุผลที่รุ่นพ่อแม่อยากให้รุ่นลูกกลับมาทำงานที่บ้านเลย
เพราะมองว่าไม่มีใครรู้ดีเท่าเราคนกันเอง จึงไม่อยากให้ลูกไปเสียเวลานอกบ้าน
เพราะมองว่าไม่มีใครรู้ดีเท่าเราคนกันเอง จึงไม่อยากให้ลูกไปเสียเวลานอกบ้าน
แต่ต้องยอมรับว่าเด็กแต่ละคนมีความฝันต่างกัน
การบังคับอาจกลายเป็น Pain Point เก็บไว้ในใจ และกลายเป็นเหตุผลทำให้ไม่อยากกลับมาทำงานที่บ้าน จึงต้องการพิสูจน์ตนเองจากการทำงานข้างนอกก่อน
การบังคับอาจกลายเป็น Pain Point เก็บไว้ในใจ และกลายเป็นเหตุผลทำให้ไม่อยากกลับมาทำงานที่บ้าน จึงต้องการพิสูจน์ตนเองจากการทำงานข้างนอกก่อน
ดังนั้น ในกรณีนี้เลยแนะนำให้ลูกลองทำงานข้างนอกก่อน
อย่างการส่งลูกไปทำงานในบริษัทใหญ่ ๆ ในอุตสาหกรรมตนเอง เพื่อให้เขาได้เห็นโลกภายนอก แล้วค่อยนำประสบการณ์กลับมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจครอบครัวต่อไป
อย่างการส่งลูกไปทำงานในบริษัทใหญ่ ๆ ในอุตสาหกรรมตนเอง เพื่อให้เขาได้เห็นโลกภายนอก แล้วค่อยนำประสบการณ์กลับมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจครอบครัวต่อไป
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนว่าจะกลับมาทำงานที่บ้านภายในกี่ปี เช่น 3 ปี, 5 ปี เป็นต้น
- ธุรกิจมีหุ้นส่วน และถือสัดส่วนธุรกิจ 50:50 เท่ากัน
ประเด็นนี้จะกลายเป็นปัญหาทันที ถ้ารุ่นลูกไม่สนิทกัน ทำให้การเดินหน้าธุรกิจเป็นไปได้ยาก
ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ควรเป็นสัดส่วน 51:49 ตั้งแต่รุ่นบุกเบิก
ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ควรเป็นสัดส่วน 51:49 ตั้งแต่รุ่นบุกเบิก
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้แล้ว
ทางออกที่เป็นไปได้ที่ดีที่สุดคือ การเปลี่ยนวิธีการทำงานจาก “Partner” เป็น “Professional”
ทางออกที่เป็นไปได้ที่ดีที่สุดคือ การเปลี่ยนวิธีการทำงานจาก “Partner” เป็น “Professional”
โดยกำหนดลักษณะบุคคลที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำธุรกิจรุ่นต่อไปอย่างชัดเจน และทำ Roadmap เพื่อพัฒนาลูกหลานที่มีศักยภาพและเหมาะสมจริง ๆ ที่จะรับช่วงธุรกิจครอบครัวต่อไป
ขณะเดียวกัน ถ้าไม่พบเจอลูกหลานที่เหมาะสมจริง ๆ ก็อาศัยการจ้างบุคลากรมืออาชีพภายนอกครอบครัว มาทำหน้าที่แทนได้เช่นกัน
จากตัวอย่างข้างต้นคงเห็นแล้วว่า หลายปัญหาใหญ่ ๆ ของธุรกิจครอบครัว ถ้าเข้าใจและไม่ตัดสินใจกันเอง ก็สามารถหาทางออกได้เสมอ
ที่น่าสนใจก็คือ ภายใต้สัมมนาครั้งนี้ ยังมีโอกาสได้รับฟังมุมมอง ผู้ประกอบการตัวจริง ที่มาบอกเล่าผ่านประสบการณ์จากรุ่นพ่อผู้บุกเบิก มาสู่รุ่นลูกผู้นำพาธุรกิจเข้าสู่ IPO
โดยคุณการุณย์ สุจิวโรดม ประธานกรรมการบริหาร และคุณเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) (KJL) เปิดเผยมุมมองที่น่าสนใจว่า
ปฏิเสธไม่ได้ว่า รุ่นพ่อผู้บุกเบิกธุรกิจ มักจะทำงานด้วยสัญชาตญาณ มีข้อมูลทุกอย่างอยู่ในหัว ทำให้ทำงานและตัดสินใจได้ไว
แต่เมื่อธุรกิจเติบโตมีลูกน้องมากขึ้น การเก็บข้อมูลที่เป็นระบบและทำให้ทุกคนสามารถรับรู้ข้อมูลไปพร้อมกันเลยเป็นจุดที่สำคัญ
ดังนั้นเมื่อรุ่นลูกเข้ามาทำงาน การมองหาเครื่องมือหรือเทคโนโลยีจึงเป็นจุดแรก ๆ ที่ทำได้ทันที เช่น ระบบบัญชี, ระบบบริหารคลังสินค้า ฯลฯ
สิ่งที่ตามมาหลังจากทำเรื่องตัวเลขให้เป็นระบบถูกต้องแล้ว โอกาสการเข้าสู่การ IPO ก็มีความเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสด้านเงินทุน และด้านการเติบโตของธุรกิจด้วย
นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่น่าสนใจของการนำพาธุรกิจครอบครัวปูทางไปสู่การ IPO นั่นเอง
ทีนี้ ลองมาดูเทคนิคต่าง ๆ สำหรับธุรกิจครอบครัวที่น่าสนใจกันบ้าง..
หนึ่งในเทคนิคที่น่าสนใจเลยก็คือ “หมวก 3 ใบ”
โดยแบ่งหน้าที่ออกเป็น 3 ส่วนหลัก ซึ่งคนหนึ่งอาจจะสวมหมวกกี่ใบก็ได้ ตามแต่ภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เช่น
โดยแบ่งหน้าที่ออกเป็น 3 ส่วนหลัก ซึ่งคนหนึ่งอาจจะสวมหมวกกี่ใบก็ได้ ตามแต่ภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เช่น
- Ownership สร้างความมั่งคั่ง หรือ Family Wealth
ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันผลประโยชน์, การจัดการทรัพย์สิน และการส่งผ่านความมั่งคั่ง
เช่น การมีลูกหลานหลายคน ควรแบ่งอย่างไรให้เกิดความยุติธรรม
ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันผลประโยชน์, การจัดการทรัพย์สิน และการส่งผ่านความมั่งคั่ง
เช่น การมีลูกหลานหลายคน ควรแบ่งอย่างไรให้เกิดความยุติธรรม
- Business สร้างความแข็งแกร่งและมั่นคง หรือ Family Strategy
ไม่ว่าจะเป็นการบริหารธุรกิจ, การขยายธุรกิจเดิม หรือการลงทุนใหม่
เช่น เมื่อธุรกิจครอบครัวมีลูกหลานมากขึ้น ควรทำอย่างไรให้ธุรกิจยังเติบโต
ไม่ว่าจะเป็นการบริหารธุรกิจ, การขยายธุรกิจเดิม หรือการลงทุนใหม่
เช่น เมื่อธุรกิจครอบครัวมีลูกหลานมากขึ้น ควรทำอย่างไรให้ธุรกิจยังเติบโต
- Family สร้างความเป็นเอกภาพ หรือ Family Constitution
ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดบทบาทของสมาชิกครอบครัว, ผู้นำครอบครัว, การสืบทอดธุรกิจ และสวัสดิการของสมาชิกครอบครัว
เช่น ปัญหาหลักใน Gen 3 เมื่อรุ่นลูกมีจำนวนหลานไม่เท่ากัน ควรจัดสวัสดิการอย่างไรให้เท่าเทียมกัน
ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดบทบาทของสมาชิกครอบครัว, ผู้นำครอบครัว, การสืบทอดธุรกิจ และสวัสดิการของสมาชิกครอบครัว
เช่น ปัญหาหลักใน Gen 3 เมื่อรุ่นลูกมีจำนวนหลานไม่เท่ากัน ควรจัดสวัสดิการอย่างไรให้เท่าเทียมกัน
นอกจากนี้ ยังมีอีก 4 เครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้การบริหารธุรกิจครอบครัวเป็นไปได้ง่ายขึ้น ลองมาดูกันว่าคืออะไรกันบ้าง..
1. ข้อบังคับบริษัท
เพื่อสร้างความชัดเจนในการบริหารจัดการธุรกิจของสมาชิกครอบครัว
เช่น ประเภทหุ้นที่ถือ, องค์ประชุมมีใครบ้าง, มติที่ประชุมต้องเป็นอย่างไร, โครงสร้างและคณะกรรมการเป็นใครบ้าง, ข้อจำกัดในการโอนหุ้น, การซื้อขายเมื่อเกิดข้อพิพาท รวมทั้งนโยบายการจ่ายปันผล
เช่น ประเภทหุ้นที่ถือ, องค์ประชุมมีใครบ้าง, มติที่ประชุมต้องเป็นอย่างไร, โครงสร้างและคณะกรรมการเป็นใครบ้าง, ข้อจำกัดในการโอนหุ้น, การซื้อขายเมื่อเกิดข้อพิพาท รวมทั้งนโยบายการจ่ายปันผล
2. สัญญาผู้ถือหุ้น
เพื่อสร้างความโปร่งใสในการถือครองหุ้นของสมาชิกครอบครัว
ทั้งในด้านข้อจำกัดในการโอนหุ้น เช่น การโอนหุ้นเฉพาะผู้สืบสันดาน, สิทธิในการซื้อหุ้น, กำหนดการขายหุ้นกับบุคคลภายนอก และเกณฑ์การประเมินราคาหุ้น
ทั้งในด้านข้อจำกัดในการโอนหุ้น เช่น การโอนหุ้นเฉพาะผู้สืบสันดาน, สิทธิในการซื้อหุ้น, กำหนดการขายหุ้นกับบุคคลภายนอก และเกณฑ์การประเมินราคาหุ้น
รวมทั้งรายละเอียดข้อตกลงภายในต่าง ๆ
เช่น การห้ามสมาชิกทำธุรกิจแข่ง, เงินทุนเพื่อการลงทุนของสมาชิก, ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาและค่ารักษาพยาบาล และการระงับข้อพิพาท
เช่น การห้ามสมาชิกทำธุรกิจแข่ง, เงินทุนเพื่อการลงทุนของสมาชิก, ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาและค่ารักษาพยาบาล และการระงับข้อพิพาท
3. พินัยกรรม
ซึ่งควรจะระบุประเด็นสำคัญด้านทรัพย์สินต่าง ๆ ทั้งในเรื่องการป้องกันปัญหาทางกฎหมาย, การแบ่งทรัพย์สินอย่างเป็นธรรม, การส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น, ผู้รับสืบทอดที่ชัดเจน, ทิศทางธุรกิจตามเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้ง และการรักษาความมั่นคงทางการเงิน
4. ธรรมนูญครอบครัว
ถือเป็นข้อตกลงร่วมกันของสมาชิกครอบครัว ที่แม้จะไม่ได้มีผลตามกฎหมาย แต่ก็สำคัญในด้านการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เช่น สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกครอบครัว, เงินกงสีหรือเงินกองทุนครอบครัว, การจ้างและการทำงานของสมาชิกครอบครัว เป็นต้น
รู้หรือไม่ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้เครื่องมือทั้ง 4 ข้อนี้คือ ความโปร่งใส หรือ Transparency แม้จะเป็นสัญญาที่อยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองหรือไม่ก็ตาม
เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจครอบครัวสามารถส่งต่อไปได้จากรุ่นสู่อีกรุ่นนั่นเอง
เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจครอบครัวสามารถส่งต่อไปได้จากรุ่นสู่อีกรุ่นนั่นเอง
ทั้งหมดนี้ ถือเป็นเรื่องใหม่ที่สำคัญอย่างมากเลยทีเดียว สำหรับใครก็ตามที่กำลังทำธุรกิจครอบครัว
ข้อมูลเหล่านี้ ปกติแล้วต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้สูงถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว
ข้อมูลเหล่านี้ ปกติแล้วต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้สูงถึงหลักล้านบาทเลยทีเดียว
แต่หากใครเป็นลูกค้า K SME SIERRA ของธนาคารกสิกรไทยก็จะมีโอกาสได้รับองค์ความรู้ธุรกิจจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงได้แบบเอกซ์คลูซิฟกว่าใคร ผ่านการดูแลด้วยโปรแกรม E.D.G.E. หรือก็คือ Engagement, Digital Transformation, Growth และ Expansion ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
แล้วมาติดตามกันว่าครั้งหน้า K SME SIERRA จะพาเราไปพบความรู้ด้านธุรกิจอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง..
Reference
- สรุปสัมมนา K SME SIERRA Legacy Forward : Strategic Growth & Succession Plan ตอนกลยุทธ์ปั้นธุรกิจครอบครัวให้พร้อมสู่ IPO จากผู้เชี่ยวชาญ และประสบการณ์ตรงจากผู้สำเร็จจริง โดยลงทุนแมน
- สรุปสัมมนา K SME SIERRA Legacy Forward : Strategic Growth & Succession Plan ตอนกลยุทธ์ปั้นธุรกิจครอบครัวให้พร้อมสู่ IPO จากผู้เชี่ยวชาญ และประสบการณ์ตรงจากผู้สำเร็จจริง โดยลงทุนแมน