SAP x ลงทุนแมน

หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่เรื่องยอดขาย เงินสด กำไร ขาดทุน
แต่คือการเชื่อมต่อระบบหน้าบ้านกับหลังบ้านให้เข้าหากัน

ลองนึกภาพตามง่าย ๆ ว่า ถ้าเราขายของ 1 ชิ้นให้ลูกค้า เรื่องไม่ได้จบลงเมื่อลูกค้าได้รับของและเราได้รับเงินจากลูกค้าเท่านั้น
แต่เรายังต้องวุ่นวายกับการเช็กของในคลังสินค้า และต้องวางแผนการผลิตสินค้าชิ้นนั้นใหม่ เพื่อทดแทนสินค้าเดิมที่ถูกขายไปแล้ว

แค่ของชิ้นเดียวคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเราเป็นธุรกิจที่มีสินค้าหลายพัน หลายหมื่นชิ้น
การทำแบบนี้ก็คงเป็นเรื่องน่าปวดหัวอยู่ไม่น้อย จึงกลายเป็นที่มาของผู้ช่วยธุรกิจจากเยอรมนีอย่าง SAP ที่ขออยู่เบื้องหลังของธุรกิจ เพื่อให้การเชื่อมต่อระหว่างหน้าบ้านกับหลังบ้านเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น

แล้ว SAP เข้ามาอยู่เบื้องหลังให้ธุรกิจไทยได้ในมุมไหนบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

แน่นอนว่า SAP คงต้องเกี่ยวข้องโดยตรงกับภาคอุตสาหกรรมการผลิตของไทย เพราะอุตสาหกรรมนี้ ต้องมีการวางแผนผลิตสินค้าในแต่ละวันจำนวนมาก

ซึ่ง SAP เข้ามาช่วยธุรกิจไทยในอุตสาหกรรมนี้ ด้วยการวางแผนการใช้ทรัพยากรการผลิตต่าง ๆ ทั้งระบบซัปพลายเชน
ไม่ว่าขั้นตอนการผลิตจะซับซ้อนแค่ไหน หรือจะเป็นธุรกิจการผลิตขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ ก็สามารถให้บริการเชื่อมต่อระบบทั้งหมดเข้าด้วยกันได้

เพราะหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตที่ SAP เข้าใจเป็นอย่างดี
นั่นคือ ต้องออกแบบสินค้าให้ตรงตามความต้องการ ใช้วัสดุที่มีคุณภาพและบริหารจัดการต้นทุนได้เป็นอย่างดี ไปพร้อมกับการปรับปรุงแผนการผลิตจากยอดขายได้แบบเรียลไทม์ในทันที

และการทำแบบนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลดีกับธุรกิจในอุตสาหกรรมการผลิตแค่ในระยะสั้นเท่านั้น
แต่ในระยะยาว ยังช่วยให้อุตสาหกรรมการผลิตปรับตัวไปสู่โลกของ AI ได้ดีมากยิ่งขึ้น

โลกของ AI ต้องการข้อมูลที่จัดเก็บและจัดการเป็นระบบอยู่แล้ว
เมื่อภาคการผลิตมีการวางระบบแบบนี้เอาไว้แล้ว การเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีใหม่ ๆ
เช่น ระบบอัตโนมัติในโรงงานก็เป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น จนทำให้ธุรกิจนั้นเข้าสู่โลกยุคใหม่โดยมีอุปสรรคในการปรับตัวน้อยลง

นอกจากอุตสาหกรรมการผลิต ที่เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทยแล้ว
หนึ่งในอุตสาหกรรมที่เป็นเสมือนเรือธงความหวังของไทยในปัจจุบัน นั่นคือ อุตสาหกรรมบริการสุขภาพ

แน่นอนว่า ประเทศไทยโดดเด่นเรื่องการให้บริการทางสุขภาพชั้นนำ ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก
และอุตสาหกรรมนี้ยังเป็นเมกะเทรนด์ในอนาคต จากการที่คนมีแนวโน้มอายุยืนขึ้นไปเรื่อย ๆ

แต่อย่างที่บอกไปว่า ทุกธุรกิจไม่ได้มีแค่การให้บริการหรือการขายที่ยอดเยี่ยมแค่อย่างเดียว
เพราะสิ่งสำคัญอยู่ที่การเชื่อมต่อระบบหน้าบ้านกับหลังบ้านให้เป็นหนึ่งเดียว

ดังนั้น หัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมบริการสุขภาพ จึงไม่ใช่แค่เรื่องการให้บริการที่มีคุณภาพสูงแค่อย่างเดียว แต่ระบบหลังบ้านยังต้องอาศัยข้อมูลมาวางแผนการให้บริการสุขภาพให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ

ไล่ตั้งแต่เรื่องบุคลากรในการให้บริการ SAP ให้บริการซอฟต์แวร์ในการวางแผนจัดเวรทำงาน ไปจนถึงการวิเคราะห์ขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงการทำงานให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์

รวมไปถึงการจัดการด้านเวชภัณฑ์ เพื่อลดปัญหาสินค้าคงคลังของโรงพยาบาล และบริหารต้นทุนการจัดซื้อในแต่ละช่วงเวลาต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น

นอกจากบริการวางแผนจัดการต้นทุนและการทำงานของบุคลากรแล้ว SAP ยังร่วมพัฒนากับทีมแพทย์ ในการใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์และจดจำภาพ
เพื่อใช้ในการร่วมวิเคราะห์แนวโน้มโรคของแพทย์ ทำให้เกิดการวางแผนรักษาได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที

ถึงตรงนี้ หลายคนคงคิดว่า SAP น่าจะเหมาะกับการเป็นผู้ช่วยธุรกิจหลังบ้านให้กับธุรกิจหรือองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น
เพราะองค์กรพวกนี้มีข้อมูลและการจัดการที่ซับซ้อนสูง จึงต้องมีคนมาช่วยดูแลหลังบ้านให้ดียิ่งขึ้น

แต่จริง ๆ แล้ว SAP ไม่ได้ให้บริการแค่องค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น
องค์กรขนาดกลาง เล็ก ไปจนถึงองค์กรที่แม้เพิ่งเริ่มต้นก็ตาม ก็สามารถใช้บริการผู้ช่วยหลังบ้านที่ชื่อว่า SAP ได้ไม่ต่างกัน

โดย SAP จะมีระบบมาตรฐานด้านบัญชีและการซื้อขายต่าง ๆ ไปจนถึงฟังก์ชันอื่น ๆ ที่ครอบคลุมการทำงานของธุรกิจหลัก
เพื่อทำให้องค์กรที่แม้ไม่ได้มีขนาดใหญ่ แต่ก็ถูกเติมเต็มด้วยความสามารถในการปรับตัวและเติบโตได้อย่างเป็นระบบในโลกที่เปลี่ยนแปลงแบบรวดเร็วในตอนนี้

และต่อไปเมื่อธุรกิจหรือองค์กรเริ่มใหญ่มากขึ้น
การมีระบบที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้องค์กรนั้นขยายตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องทะเลข้อมูลที่ไม่เป็นระเบียบ
เพราะระบบจัดการข้อมูลต่าง ๆ ถูกออกแบบไว้เพื่อรองรับการเติบโตตั้งแต่วันที่องค์กรยังเล็ก ๆ อยู่แล้ว

ทั้งหมดนี้ ก็เป็นเรื่องราวของ SAP บริษัทจากเยอรมนีที่ขอเลือกอยู่เบื้องหลังธุรกิจไทย
เพื่อช่วยจัดการระบบหลังบ้านต่าง ๆ เชื่อมต่อกับระบบหน้าบ้าน จนทำให้ธุรกิจนั้นติดปีกไปข้างหน้าได้ไกลมากขึ้น

แม้จะเป็นบริษัทจากเยอรมนี แต่ด้วยจุดแข็งของ SAP ที่ให้บริการธุรกิจทั่วโลกอยู่แล้ว
จึงมีความเข้าใจการทำงานของธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่หลากหลายและปรับบริการต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับธุรกิจในแต่ละประเทศ
ซึ่งรวมไปถึงความยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจหรือองค์กรไทยอีกด้วย

ทีนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ หรือธุรกิจขนาดกลาง ให้ Eviden – an Atos Group เป็น
พาร์ตเนอร์ที่คุณไว้วางใจในการเดินหน้าสู่ Digital Transformation อย่างยั่งยืน ด้วย SAP Cloud ERP ที่ตอบโจทย์ธุรกิจไทยทุกขนาด ตั้งแต่โรงงาน ไปจนถึงโรงพยาบาล

เพราะโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ธุรกิจไม่ได้วัดกันที่ยอดขายหรือกำไรแค่อย่างเดียว
แต่วัดกันว่า.. ใครจะมีความยืดหยุ่นและรวดเร็วในแต่ละช่วงเวลาได้มากกว่า

ซึ่งถ้าองค์กรไหนสนใจ SAP Cloud ERP นี้ ก็สามารถติดต่อได้ที่คุณธาริณี ศรีจามร
ผ่านอีเมล tharinee.srijamorn@atos.net หรือติดต่อมาที่ 02-7879000 ได้เลย

Reference :
- เอกสารประชาสัมพันธ์ SAP