รู้จัก กนอ. ผู้อยู่เบื้องหลังนิคมอุตสาหกรรม ประเทศไทย

รู้จัก กนอ. ผู้อยู่เบื้องหลังนิคมอุตสาหกรรม ประเทศไทย

รู้จัก กนอ. ผู้อยู่เบื้องหลังนิคมอุตสาหกรรม ประเทศไทย / ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง x กนอ.
15.24 ล้านล้านบาท คือมูลค่าการลงทุนทางเศรษฐกิจไทยที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ.
ความสำเร็จนี้ยังมาพร้อมตัวเลขการสร้างงานกว่า 1,083,180 คน โรงงานกว่า 5,615 โรง นิคมฯกว่า 79แห่ง ท่าเรือ 1แห่ง ใน17จังหวัด บนพื้นที่กว่า203,714ไร่ (ข้อมูลล่าสุดเดือนก.ย.68) ที่กลายมาเป็นห่วงโซ่อุปทาน และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย
หลายคนคงสงสัยว่า กนอ. คือใคร ?
และมีบทบาทใด ที่ร่วมสร้างความสำเร็จนี้ให้กับประเทศไทย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
กนอ. ถูกย่อมาจาก การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยรับหน้าที่พัฒนาและบริหารจัดการพื้นที่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม (นิคมอุตสาหกรรม) ทั่วไทย
เพื่อรองรับการลงทุน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทย
ซึ่งถ้าจะอธิบายคำว่า “นิคมอุตสาหกรรม” ง่าย ๆ
คือ “เมืองเล็ก ๆ สำหรับโรงงาน” ที่มีระบบสาธารณูปโภคครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น น้ำ, ไฟ, ถนน, การจัดการน้ำเสีย, พื้นที่สีเขียว ฯลฯ
โดยถูกวางแผนอย่างเป็นระเบียบ เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนรอบข้างให้ได้มากที่สุด
จุดนี้เองที่ช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่อง Utilities
เพราะภายในนิคมอุตสาหกรรม มีการวางระบบ Smart Infrastructure เช่น IoT, พลังงานสะอาด, ระบบจัดการสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ ไว้เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้อย่างลงตัว
เพราะอย่างที่ทราบกันว่า ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของอาเซียน
ที่มีความโดดเด่นทั้งการเดินทางสะดวก สามารถเชื่อมโยงได้ทั้งทางบก, ทางน้ำ และทางอากาศ
สังเกตง่าย ๆ ได้จากนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในประเทศไทย
มักจะอยู่ใกล้ EEC (Eastern Economic Corridor) หรืออาจจะเป็นท่าเรือ, สนามบิน หรือโครงข่ายรถไฟต่าง ๆ
ซึ่งทำให้กระบวนการขนส่งด้านโลจิสติกส์ต่าง ๆ ในประเทศไทยเป็นไปโดยง่าย
แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ นิคมอุตสาหกรรม ภายใต้การดูแลของ กนอ.
ยังถูกออกแบบพร้อมรองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่กับโอกาสเติบโตสอดคล้องกับ Global Trend ทั้งในด้าน EV, ด้านดิจิทัล, ด้านโลจิสติกส์ และด้านเกษตรนวัตกรรม
ภายใต้รูปแบบนิคมอัจฉริยะ หรือ Smart Industrial Estate
ที่สร้าง Ecosystem ตอบโจทย์ชาวต่างชาติที่กำลังมองหา Future-Proof Investment อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ESG ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์โลกที่ลืมไม่ได้
กนอ. จึงพยายามผลักดันแนวคิด Eco-Industrial Estate และ Smart City อย่างจริงจัง
เพื่อรองรับนักลงทุนต่างชาติ ที่ให้ความสำคัญในด้าน ESG และด้าน SDGs มั่นใจได้ว่าโรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน
มากไปกว่านั้น ยังมีมาตรการด้านน้ำเสีย มลพิษ และการใช้พลังงานหมุนเวียน
เพื่อช่วยให้บริษัทต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจไปตาม Global Supply Chain และตอบโจทย์ความต้องการเรื่องรายงานด้านความยั่งยืนอีกด้วย
ที่สำคัญนักลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. ยังมีโอกาสเข้าถึงสิทธิประโยชน์จาก BOI ต่าง ๆ
เช่น ยกเว้นภาษี, ลดหย่อนนำเข้าเครื่องจักร ฯลฯ
ถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่า กนอ. กำลังช่วยให้ธุรกิจเติบโต
ด้วยการสนับสนุนรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านข้อมูล, ด้านภาพลักษณ์องค์กร ซึ่งส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมการแข่งขันได้
เพื่อทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ในทุกการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ภายใต้การดูแลของ กนอ.
อย่างไรก็ตาม การประกอบธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมยุคนี้
นอกจากความสำคัญด้าน Utilities ครบพร้อมดำเนินงาน, การสนับสนุนด้านเทคโนโลยี และการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว
ประเด็นด้านชุมชนเอง ก็สำคัญไม่แพ้กันเลย..
กนอ. ทราบดีถึงจุดนี้ จึงต้องสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นจริง ๆ ทั้งในฝั่งนักลงทุน และฝั่งผู้คนในชุมชน เช่น
- Community Engagement ระบบที่ กนอ. ออกแบบขึ้น เพื่อช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจลูกค้า และมั่นใจได้ว่าโรงงานของตนจะไม่ถูกต่อต้านจากชุมชน
และยังเป็นการลดปัญหา “ความขัดแย้งกับชุมชน” ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ธุรกิจต่างชาติให้ความสำคัญ
- สนับสนุนการจ้างงานท้องถิ่น ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน
เช่น สร้างศูนย์เด็กเล็ก, โรงเรียน, การอบรมอาชีพในหลายพื้นที่ เป็นต้น
สะท้อนได้ว่า กนอ. ไม่ได้แค่ทำหน้าที่สร้างโรงงาน หรือผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม แต่ยังเป็นผู้ดูแลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคม
และทั้งหมดนี้ คือบทบาทสำคัญของ กนอ. หน่วยงานไทย ที่ร่วมสร้างความสำเร็จในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน นั่นเอง..
#กนอ #IEAT #การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย #กนอขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเพื่อชีวิตที่ยั่งยืน

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon