สรุป 5 บทเรียน วิธีทำเงิน-สร้างธุรกิจ ถ้าไม่มีเงินทุน ฉบับท๊อป จิรายุส

สรุป 5 บทเรียน วิธีทำเงิน-สร้างธุรกิจ ถ้าไม่มีเงินทุน ฉบับท๊อป จิรายุส

-ถอดเนื้อหาจากรายการ : วิชา"หาเงิน" ช่อง Mr.Phoops
ซึ่งคุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ร่วมก่อตั้ง Bitkub ได้มาแชร์แนวคิดเกี่ยวกับการสร้างความมั่งคั่ง และการทำธุรกิจ
1. ต้องแยกความแตกต่างระหว่าง "การสร้างความมั่งคั่ง" และ "การขยายความมั่งคั่ง"
ทักษะการหาเงิน มี 2 ประเภทที่ใช้ชุดทักษะต่างกันโดยสิ้นเชิง
- Create Wealth (การสร้างความมั่งคั่ง)
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นจากศูนย์ ต้องใช้แรงงาน เวลา และความเชี่ยวชาญ แลกมา
ซึ่งเรียกว่า Sweat Equity (หุ้นที่ได้จากการลงแรง)
นี่คือเส้นทางของบรรดาผู้ประกอบการ ผู้ก่อตั้ง Startup ที่สร้างบริษัทขึ้นมา
- Grow Wealth (การขยายความมั่งคั่ง)
คือการใช้เงินต่อเงิน เช่น การเป็นนักลงทุน
ทักษะนี้ต้องมีความรู้เรื่องการเงิน เช่น PE Ratio, ROI หรือความรู้เฉพาะทางในการลงทุน
หากไม่มีความรู้ แต่มีเงิน ก็ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญ เช่น ผู้จัดการกองทุน มาบริหารเงินแทน
แต่ไม่ว่าจะใช้ชุดทักษะไหน ไม่ว่าจะสร้างหรือขยายความมั่งคั่ง
กฎสำคัญคือ "Use other people's money" หรือพยายามใช้เงินคนอื่น ในการสร้างธุรกิจหรือลงทุน

2. เริ่มธุรกิจ หรือซื้อกิจการ โดยไม่ใช้เงินตัวเอง ด้วย "วิศวกรรมการเงิน" (Financial Engineering)
นี่คือหัวใจสำคัญสำหรับคนที่ไม่มีทุน (ที่ไม่ใช่ Lucky Sperm Club หรือลูกคนรวย)
โดยคุณท็อป ยกตัวอย่าง "โมเดลร้านดอกไม้" เพื่ออธิบายกระบวนการนี้
สมมติสถานการณ์ มีเด็กจบใหม่ เปิดร้านดอกไม้เล็ก ๆ แข่งกับเจ้าใหญ่ที่เปิดมานาน แต่เจ้าของร้านดอกไม้เจ้านั้น กำลังจะเกษียณ และอยากขายธุรกิจ ในราคา 5 ล้านบาท
ถ้าเด็กหนุ่ม อยากจะเซ้งร้านดอกไม้ร้านนี้ แต่ไม่มีทุนเลย
วิธีคิดคนทั่วไปคือ เดินไปกู้เงินจากธนาคาร 5 ล้านบาท แล้วผ่อนใช้หนี้ไป ซึ่งเป็นการสร้างภาระ
แต่ถ้าคิดแบบวิธีวิศวกรรมการเงิน เด็กหนุ่มจะหา
- The Right Network มองหาว่าใครในห่วงโซ่อุปทาน ที่จะได้ประโยชน์ที่สุดหากร้านนี้เติบโต หรือควบรวมกิจการกัน
คำตอบคือ "โรงงานส่งดอกไม้"
- สร้างข้อเสนอ ที่ Win-Win
เด็กหนุ่มไปเจรจากับโรงงานว่า หากโรงงานยอมออกเงิน 5 ล้านบาท ซื้อร้านนี้ให้
เขาจะบริหารให้ยอดสั่งซื้อดอกไม้เพิ่มขึ้น พร้อมกับรวมยอดออร์เดอร์จากทั้ง 2 ร้านที่ควบรวมนี้ เข้าด้วยกัน จนกลายเป็นออร์เดอร์ใหญ่

จากเดิมที่ร้านดอกไม้ สั่งออร์เดอร์กับโรงงานปีละ 5 ล้านบาท ก็จะเพิ่มออร์เดอร์เป็น 20 ล้านบาทต่อปี
ผลลัพธ์คือ โรงงาน จะได้เงินคืนผ่านยอดขายที่เพิ่มขึ้นนี้
คนร้านขาย ได้เงิน 5 ล้านบาทเพื่อเกษียณ
ส่วนเด็กหนุ่ม ได้เป็นเจ้าของธุรกิจและถือหุ้น โดยไม่ต้องควักเงินตัวเองสักบาท
วิธีนี้คือการทำ Financial Engineering ผ่านโมเดลตัวกลาง (Aggregator) ที่เชื่อมโยง Ecosystem เข้าด้วยกัน
ซึ่งคุณท๊อปบอกว่า นี่คือโมเดลที่ Bitkub ใช้ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจด้วย
3. ศิลปะการระดมทุนและการเจรจาต่อรอง
การจะทำให้นักลงทุนยอมควักเงิน ต้องมีเทคนิคที่เหนือกว่าแค่การนำเสนอไอเดีย
- ขายสิ่งที่เขาอยากซื้อ
อย่า Pitch แค่สิ่งที่เรามี แต่ต้องทำการบ้าน ว่านักลงทุนมองหาอะไร
บางครั้งถ้าส่งของที่เขาต้องการอยู่แล้วให้ แทบไม่ต้องพูดอะไร เขาก็ซื้อ
ดังนั้น การคุยให้ถูกคน (Right Network) สำคัญ
- ต้องมี Expertise เพราะนักลงทุนจะลงเงินก็ต่อเมื่อ เชื่อในความเชี่ยวชาญของผู้ก่อตั้ง
- กลยุทธ์ Term Sheet สำคัญมาก
ห้ามตั้งราคาธุรกิจเอง หากเราตั้ง Valuation เอง นักลงทุนจะมองว่าแพงหรือถูกเอาเปรียบ
ทั้งนี้ Term Sheet คือ เอกสารข้อตกลงเบื้องต้นระหว่างนักลงทุนกับ Startup เพื่อกำหนดเงื่อนไขการลงทุน
แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือ Financial Terms และ Non-Financial Terms
- ใช้เทคนิคดึงดูดนักลงทุน ด้วยเงื่อนไขที่ล่อใจ
อาจยอมเสียเปรียบในเงื่อนไขอื่น เพื่อให้ได้ Term Sheet ใบแรกมา
อย่างคุณท๊อป ได้ยอมเสียเปรียบใน Non-Financial Terms เช่น ให้สิทธิ์ Anti-dilution การป้องกันมูลค่าหุ้นลดลง หรือ Liquidation Preference สิทธิในการได้รับเงินคืนก่อนผู้ถือหุ้นอื่น เมื่อบริษัทขายกิจการ
เพื่อให้ Term Sheet ดูน่าสนใจมากขึ้น สำหรับนักลงทุน
และเพื่อให้ส่วนของ Financial Terms สามารถอัป Valuation ธุรกิจให้สูง ๆ ได้
จากนั้นเมื่อได้ Term Sheet จากนักลงทุนรายใหญ่มาแล้ว
ให้ใช้ใบนี้ไปต่อรองกับนักลงทุนรายอื่น โดยอ้างอิงมูลค่าธุรกิจจากใบนี้ เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของมูลค่าธุรกิจ และเพื่อดึงราคา Valuation ให้สูงขึ้นในภายหลัง
รวมถึงสามารถลดผลประโยชน์ในส่วนของ Non-Financial Terms กับนักลงทุนรายใหม่ ลงได้ เพราะมีอำนาจต่อรองกับนักลงทุนมากขึ้น (มีนักลงทุนรายใหญ่ แบ็กแล้ว)
- ต้องมีของจริง
แม้จะไม่มี User ในวันแรก แต่ต้องมีทีมงาน มีออฟฟิศ หรือมีความคืบหน้าให้เห็น
อย่าง Bitkub ตอนแรก ๆ มีทีม Engineer 20 คน และโปรดักต์ต้นแบบ ก่อนไปคุยกับนักลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นใน Expertise
4. การตัดสินใจระดับมหภาค (Macro Decisions) ที่กำหนดความสำเร็จ
คุณท็อปย้ำว่า คนส่วนใหญ่มัวแต่โฟกัสที่ Micro Decisions เช่น การตื่นเช้า, การขยัน, การประหยัด, การฝ่ารถติด แต่สิ่งที่กำหนดความรวยจริง ๆ คือ 3 เรื่องนี้
- Industry (อุตสาหกรรม)
ต้องเลือกอุตสาหกรรมที่เป็นขาขึ้นเท่านั้น หากอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต เช่น อินเทอร์เน็ตในยุคก่อน หรือ AI, Longevity ในยุคนี้
เพราะต่อให้เป็นคนที่โง่ที่สุดในอุตสาหกรรมนั้น ก็ยังมีโอกาสรวยกว่า คนที่เก่งที่สุดในอุตสาหกรรมขาลง
เปรียบเสมือนการเป็นปลาตัวเล็กในมหาสมุทรที่ขยายตัว ดีกว่าเป็นปลาตัวใหญ่ในบ่อที่กำลังแห้งเหือด
- Network (กลุ่มเพื่อน)
อย่าคบเพื่อนเพียงเพราะถูกสุ่มให้นั่งใกล้กันตอนเรียน (Randomized friends)
แต่ต้องเลือกคบคนที่จะส่งเสริมเป้าหมายชีวิต
- Where (สถานที่)
สถานที่กำหนดขนาดของโอกาส ถ้าเราอยู่ถูกที่ จะมีโอกาสไปได้ไกลกว่ามาก
ยกตัวอย่าง Bitkub vs Coinbase ทั้งสองบริษัททำธุรกิจเหมือนกัน โมเดลเดียวกัน ตัวเลขกำไรใกล้กัน แต่ Coinbase มูลค่าสูงกว่า 8 เท่า เพราะอยู่ในตลาดอเมริกา
เหมือนหินก้อนเดียวกัน วางขายที่ตลาดนัดได้ราคาหนึ่ง แต่ถ้าวางในพิพิธภัณฑ์ จะได้ราคาที่สูงกว่ามหาศาล..

5. แนวคิดการลงทุน
ถ้าเงินน้อย เช่น มี 10,000 บาท หรือ 100,000 บาท ลงทุนอะไรดี ?
คุณท๊อป แนะนำว่า อย่าเพิ่งลงทุนแบบ Grow Wealth เพราะเงินต้นน้อยเกินไป ให้เอาเงินและเวลาไปลงทุนในความรู้เพื่อ Create Wealth ให้มีรายได้มหาศาลก่อน
แล้วควรเริ่มลงทุนเมื่อไร ?
คำตอบคือ เมื่อมี Net Positive (รายได้ > รายจ่าย) และเป็นเงินเย็นที่ไม่ต้องรีบใช้
สำหรับเรื่องการกระจายความเสี่ยง
คุณท๊อป แนะว่า หากคุณมีความรู้จริงในเรื่องนั้น ไม่จำเป็นต้องกระจายความเสี่ยง ให้ทุ่มลงทุนในสิ่งที่รู้จริง เช่น คุณท็อปลงทุนในคริปโทอย่างเดียว เพราะเข้าใจลึกซึ้ง
ซึ่งความสำเร็จเกิดจาก Compounding Effect (ผลตอบแทนทบต้น) ที่ไม่ได้เกิดกับเงินเท่านั้น แต่เกิดกับ ความเชี่ยวชาญ และชื่อเสียง ด้วย
สิ่งเหล่านี้จะทบต้นได้ก็ต่อเมื่อคุณ "โฟกัส" อยู่ในอุตสาหกรรมที่ถูกต้อง นานพอ
นอกจากนี้ คุณท๊อปยังให้กฎเหล็กเรื่อง "เพื่อน"
ว่าไม่ควรทำธุรกิจกับเพื่อนสนิท เพราะหน้าที่ CEO คือการตัดสินใจที่ยากลำบาก เช่น การไล่คนออก
หากต้องไล่เพื่อนสนิทที่ไม่ Perform ออก จะเสียทั้งงาน และเพื่อน
ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงตั้งแต่ต้น..
—--------------
ที่มา : วิชา"หาเงิน" (Complete Course by @ToppJirayutOfficial) ช่อง Mr.Phoops
https://www.youtube.com/watch?v=DvTxCJSY5Xs

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon