สรุปแนวคิด การลงทุนในช่วงสงคราม ของ Warren Buffett /โดย ลงทุนแมน

ปัจจุบันนักลงทุนทั่วโลกต่างกังวลกับความขัดแย้งหลายจุด ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน ความตึงเครียดในเอเชียตะวันออก และท่าทีของสหรัฐฯ

แล้วถ้าเกิดสงครามขยายใหญ่ขึ้น เราควรลงทุนในอะไรดี ?

ซื้อทองดีไหม หรือว่าถือเงินสด หรือซื้อหุ้นดีกว่า ?

แน่นอนว่าต้นแบบนักลงทุนอย่างคุณ​ Warren Buffett ก็คงเลือกจะลงทุนในหุ้น

แล้วอะไรอยู่เบื้องหลังทางเลือกนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

หากกางแผนที่โลกตอนนี้ เราจะเห็นว่า
ในยุโรปตะวันออก ไฟสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังคุกรุ่น ไม่ใช่แค่การแย่งชิงดินแดน แต่ยังส่งผลต่อราคาพลังงาน และห่วงโซ่อุปทานอาหารของโลก

ส่วนในเอเชียตะวันออก ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน ระหว่างจีน สหรัฐฯ และพันธมิตรอย่างญี่ปุ่น ก็ส่งผลกระทบหลายอย่าง

การกีดกันทางการค้า กำแพงภาษี รวมถึงการเคลื่อนย้ายฐานการผลิต แรงงาน และทรัพยากร

แล้วท่ามกลางความขัดแย้ง ที่มีคำว่าสงครามเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญ ทั้งที่เกิดขึ้นและยังไม่เกิดขึ้นก็ตาม เราควรจะลงทุนอะไรดี ?

สำหรับเรื่องนี้ นักลงทุนระดับตำนานอย่างคุณ​ Warren Buffett ที่เกิดในปี 1930 และเจอกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งกินระยะเวลานานถึง 6 ปี

แม้จะมีอายุเพียง 11 ปี ในตอนที่ซื้อหุ้นตัวแรก แต่ก็ถือว่าคุณ Buffett มีประสบการณ์การลงทุนผ่านช่วงสงครามเหมือนกัน

โดยคุณ Buffett ได้เล่าเรื่องนี้ไว้ใน จดหมายถึงผู้ถือหุ้นปี 2018 ว่าในปี 1942 ซึ่งเป็นช่วงที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญความสูญเสียอย่างหนัก ในสงครามโลกครั้งที่ 2

เขาได้ซื้อหุ้น Cities Service บริษัทพลังงานในสหรัฐฯ เนื่องจากเห็นว่าปั๊มน้ำมันเจ้านี้มีลูกค้าเยอะดี น่าจะโตได้อีกมาก

จึงได้นำเงินเก็บจำนวน 115 ดอลลาร์สหรัฐ ไปซื้อหุ้นจำนวน 3 หุ้น ที่ราคา 38 ดอลลาร์สหรัฐ

เพียงไม่นานราคาหุ้นก็ตกไปที่ 27 ดอลลาร์สหรัฐ และเด้งขึ้นมาที่ 40 ดอลลาร์สหรัฐ คุณ Buffett จึงตัดสินใจเทขายหุ้นทั้งหมด

แต่หลังจากนั้นไม่นาน หุ้นก็พุ่งขึ้นไปเกือบ 200 ดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นบทเรียนการลงทุนแรกที่เขาได้รับ

โดยเขากล่าวว่า ถ้าเขานำเงิน 115 ดอลลาร์สหรัฐ ไปลงทุนในกองทุนดัชนี S&P 500 แบบไม่มีค่าธรรมเนียม และนำเงินปันผลกลับไปลงทุนใหม่ทั้งหมด

ในปี 2019 เงินก้อนนั้นจะมีมูลค่า (ก่อนหักภาษี) 606,811 ดอลลาร์สหรัฐ หรือก็คือมีกำไรเพิ่มขึ้น 5,288 เท่า สำหรับเงินก้อนเดียว

ในทางตรงกันข้าม ถ้านำเงิน 115 ดอลลาร์สหรัฐ ไปซื้อทองคำแทนที่จะลงทุนในหุ้นในปี 1942 มูลค่ามันจะเพิ่มขึ้นแค่ประมาณ 4,200 ดอลลาร์สหรัฐ เท่านั้น

ย้อนกลับไปในปี 2014 ที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน

ในช่วงเวลานั้นคุณ Buffett ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ว่า

สิ่งที่มั่นใจได้เลยว่าจะเกิดขึ้นถ้ามีสงคราม ก็คือมูลค่าของเงินจะลดลง และถ้าหุ้นราคาถูกลง จังหวะนั้นก็ถือเป็นโอกาสที่เราจะซื้อหุ้นมากขึ้น

ดังนั้นการที่หุ้นราคาลดลงเป็นเรื่องที่ ควรยินดี มากกว่าจะตื่นตระหนกและเทขายหุ้นที่ดีออกมา

และสิ่งที่คุณ Buffett ไม่แนะนำในช่วงวิกฤติ คือการถือเงินสดจำนวนมากโดยไม่ลงทุน

โดยคุณ Buffett บอกว่า ตลาดหุ้นคือสถานที่ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะยาว แต่เงินสดจะมีค่าน้อยลงตามกาลเวลา

ดังนั้น ในอีก 50 ปีข้างหน้า การถือครองสินทรัพย์ที่สร้างผลผลิตได้ จะดีกว่าการถือเงินสดไว้กับตัว

สรุปแล้ว ถ้าสงครามไม่เกิด หรือเกิดแล้วจบลง การถือหุ้นในกิจการที่ดี ก็จะเพิ่มความมั่งคั่งให้เราอย่างมหาศาล

แต่ถ้าสงครามรุนแรงถึงขั้นล้างโลก เงินสด ทองคำ หรือหุ้น ก็ไม่มีความหมาย เพราะเราคงไม่มีชีวิตอยู่ใช้มัน

ดังนั้น การลงทุน จึงเป็นทางเลือกที่มีเหตุผลเพียงทางเดียว ไม่ว่าโลกจะโหดร้ายแค่ไหนก็ตาม

ซึ่งแนวทางของคุณ Buffett จะเน้นไปที่ ความอดทน การมีวินัย และการมองคุณค่าของธุรกิจในระยะยาว มากกว่าการสนใจความผันผวนรายวันของราคาหุ้น

เปรียบเสมือนช่วงที่ร้านค้าต่าง ๆ จัดโปรโมชันลดราคา
สินค้าที่เราใช้เป็นประจำทุกวัน ยังเหมือนเดิม คุณภาพไม่เปลี่ยน แต่ราคาถูกลง

ดังนั้นเราต้องโอบรับช่วงตลาดขาลง เพราะความตื่นตระหนก จะทำให้ราคาหุ้นตกต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง

ทำให้นักลงทุนที่มี เงินสด ความอดทน และวินัย
จะเป็นกลุ่มที่พร้อมได้รับประโยชน์มากที่สุดจากช่วงวิกฤติอย่างเช่น ภาวะสงครามนั่นเอง..

References
-https://www.investopedia.com/warren-buffett-says-market-volatility-can-be-your-best-friend-heres-why-11859685?
-https://in.investing.com/news/do-not-keep-money-during-a-war-beware-of-this--by-warren-buffett-2014-3110413
-https://www.cnbc.com/2019/02/25/warren-buffett-bought-114point75-in-stock-at-11--what-itd-be-worth-now.html
-https://berkshirehathaway.com/letters/2018ltr.pdf?
-https://www.cnbc.com/2014/03/03/warren-buffett-stock-market-isnt-rigged.html