คริปโท และ Defi ความท้าทายครั้งใหม่ของ แบงก์ชาติ และ ก.ล.ต.

คริปโท และ Defi ความท้าทายครั้งใหม่ของ แบงก์ชาติ และ ก.ล.ต.

16 เม.ย. 2021
คริปโท และ Defi ความท้าทายครั้งใหม่ของ แบงก์ชาติ และ ก.ล.ต. / โดย ลงทุนแมน
Dogecoin เหรียญหน้าหมาชิบะ ที่คนสร้างตั้งใจสร้างมาเพื่อล้อเลียน
- จำนวนเหรียญ ไม่ได้มีจำกัดเหมือน Bitcoin
- ไม่มีอะไรมา เป็นตัวค้ำประกันเหมือน Stablecoin
ทุกอย่างเสกมาจากอากาศ ไม่มีอะไรที่เป็นพื้นฐาน นอกจากมีคนดัง และมีคนร่วมวงซื้อเป็นจำนวนมาก
ตั้งแต่ต้นปีเหรียญ Dogecoin ขึ้นมาแล้ว 40 เท่า
และวันนี้ขึ้น 2 เท่า ภายในวันเดียว
ถ้าดูปริมาณการซื้อขายอ้างอิงใน bitkub
ภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เหรียญนี้ซื้อขายไปแล้ว 6,000 ล้านบาท
ถ้าให้ bitkub ได้ 0.25% จากจำนวนเงินฝั่งซื้อและฝั่งขาย
แปลว่า bitkub ได้เงินจากการซื้อขายเหรียญ Dogecoin ไปแล้ว 30 ล้านบาท ใน 24 ชั่วโมง (คิดจาก 6,000 x 0.25% x 2 และอาจมีการซื้อขายส่วนหนึ่งเป็นของ bitkub เองจากการเป็น market maker)
นี่ตัวอย่างความบ้าคลั่งของตลาด คริปโทเคอร์เรนซี ในตอนนี้..
และนั่นก็หมายความว่า
คนเป็นเจ้าของตลาดการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ก็ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ไปด้วย
ซึ่งไม่ใช่ bitkub เท่านั้น
ในโลกนี้ยังมีคนที่ใหญ่กว่า bitkub อีกหลายคน และหลายเท่า
อ้างอิงจาก Cointmarketcap
ข้อมูลบอกว่า bitkub เป็นตลาด Exchange ที่อยู่อันดับ 48 ของโลก (อันดับอาจเปลี่ยนไปในแต่ละวัน)
ซึ่งเมื่อวาน Coinbase ตลาดอันดับ 2 ของโลกเพิ่ง IPO เข้าตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
แต่รู้ไหมว่าตอนนี้ Coinbase มีมูลค่ามากกว่า บริษัทที่เป็นเจ้าของตลาดหุ้นทุกตลาดในโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็น NYSE, Nasdaq, London หรือแม้แต่ตลาด Futures, Options เบอร์หนึ่งของโลกอย่าง CME Group
เป็นครั้งแรกที่โลกได้รับรู้ว่า คนให้มูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีมากกว่าตลาดหุ้น
นี่ยังไม่พูดถึง Binance ที่เป็นอันดับหนึ่งของตลาด Exchange คริปโทเคอร์เรนซีที่มีปริมาณการซื้อขายมากกว่า Coinbase กว่า 10 เท่า..
เมื่อวานก็มีหลายคนคำนวณกันว่า ถ้า Binance เข้าตลาดหุ้น บริษัท Binance จะเป็นบริษัทที่มีมูลค่าเป็น Trillion Dollar ซึ่งเทียบเท่า Amazon, Apple, Microsoft, Google เลยทีเดียว
ก็เรียกได้ว่า Binance จะเป็นหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่สุด ของโลกนี้..
แล้วคริปโทเคอร์เรนซี เป็นแบบนี้ มีความท้าทายอะไรบ้าง ?
คริปโทเคอร์เรนซีส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้อ้างอิงกับสิ่งที่มีตัวตนในโลกนี้ (ถึงแม้ว่าตอนนี้เริ่มมีบางเหรียญที่อ้างอิงกับค่าเงินจริง หรือหุ้นในโลกจริง) ส่วนตลาดหุ้นแน่นอนว่าส่วนใหญ่จะอ้างอิง หุ้นของบริษัทที่ทำกิจการจริงในโลกนี้
เรื่องนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างมากกับผู้กำกับดูแล ไม่ว่าจะเป็น ก.ล.ต. ที่กำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กำกับดูแลภาคการเงิน
สำหรับนักเศรษฐศาตร์ที่มีความอนุรักษ์นิยม แน่นอนเขาจะบอกว่าของที่ไม่มีอยู่จริง มันจะมีมูลค่ามหาศาลได้อย่างไร
คำถามง่าย ๆ คือ ถ้าเรื่องนี้มันแค่เริ่มต้น ในวันต่อ ๆ ไป ราคา Dogecoin พุ่งขึ้นเรื่อยๆ ตัวเลขการซื้อขาย Dogecoin วันละ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 10,000 ล้านบาท หรือ 100,000 ล้านบาท
การที่ Dogecoin ที่มันเกิดขึ้นโดยไม่มีอะไรเลย คนสร้างก็บอกเองว่าตั้งใจจะล้อเล่น
มันก็อาจจะมีคำถามเกิดขึ้นมากมายต่อ ก.ล.ต. ผู้กำกับดูแลโดยตรงเรื่องการซื้อขายหลักทรัพย์
และถ้าใครคิดว่า โลกของคริปโทเคอร์เรนซี เป็นแค่การขึ้นลงของเหรียญ ซึ่งเราไม่มีทางได้ใช้เหรียญนั้นจ่ายเงินซื้อสินค้าใด้ในชีวิตจริง ถึงตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วว่าเหรียญจะเอามาซื้อสินค้าได้จริงหรือไม่ เพราะลงทุนแมนคิดว่าเป็นเรื่องเล็กแล้ว เมื่อเทียบกับสิ่งที่จะพูดถึงต่อจากนี้
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ระบบนิเวศของคริปโทเคอร์เรนซี เปลี่ยนไปมาก
คริปโทเคอร์เรนซี ได้ใช้สิ่งหนึ่งที่เรียกว่า smart contract (ส่วนใหญ่อยู่บน Ethereum) ในการสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อล้อไปกับโลกการเงินจริง ซึ่ง เขาจะเรียกกันว่า Decentralized Finance หรือ DeFi แปลง่าย ๆ ก็คือ โลกการเงินที่ไร้ตัวกลาง..
การกู้เงิน
การให้ยืมเงิน
การให้ดอกเบี้ย
การมีหลักประกันในการกู้ยืม
การบังคับขายหลักประกัน เมื่อมีความเสี่ยง
การแลกเปลี่ยนคู่คริปโทเคอร์เรนซี คล้ายตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างประเทศ
แล้วรู้หรือไม่ว่าธุรกรรมทั้งหมดนี้ ไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ในการดูแลแม้แต่คนเดียว..
ทั้งหมดทำผ่านระบบอัตโนมัติ
ทั้งหมดโปร่งใส เพราะ ทุกอย่างเป็น Code ที่เปิดเผย ทุกคนสามารถตรวจสอบได้ (แต่บาง Code ก็อาจมีช่องโหว่) ซึ่งต่างจากระบบธนาคารที่บางอย่างอาจไม่โปร่งใส และทำให้เกิดเรื่องทุจริตอยู่บ่อยครั้ง
อ้างอิงตาม Defipulse ตอนนี้มีมูลค่าที่อยู่ในระบบ DeFi มากถึง 1.8 ล้านล้านบาท เติบโต 70 เท่าในหนึ่งปี โดยอันดับ 1 ของตลาดนี้ชื่อ Compound มีเงินที่ให้กู้ยืมมากถึง 3 แสนล้านบาท และรู้หรือไม่ว่าอันดับที่ 14 ชื่อ Alpha Homora เป็นของคนไทย และมีเงินที่ให้กู้ยืมมากถึง 2.8 หมื่นล้านบาท
แล้วเรื่องนี้มีความท้าทายอะไร ?
คำถามง่าย ๆ คือ ถ้าเรื่องนี้มันแค่เริ่มต้น ในวันต่อ ๆ ไป การกู้ยืมเงินใน DeFi พุ่งขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านบาท หรือ 1,000,000 ล้านบาท
มันก็อาจจะมีคำถามเกิดขึ้นมากมายต่อ ธนาคารแห่งประเทศไทย ผู้กำกับดูแลระบบสินเชื่อในประเทศไทย ว่าจะทำอย่างไร ?
และรู้หรือไม่ว่า ดอกเบี้ยในการให้ยืมใน DeFi มันสูงจนน่าดึงดูดให้โยกเงินเข้าไปอยู่ในนั้นเสียด้วย..
นี่อาจเป็นจุดที่น่าท้าทายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ของ ก.ล.ต. และ ธนาคารแห่งประเทศไทย
และนี่อาจเป็นจุดที่น่าท้าทายที่สุดของนักลงทุนด้วยเช่นกัน
เพราะมันเป็นครั้งแรกที่ สิ่งสมมติขึ้นมาในโลกเสมือน แล้วเอามาซื้อขายกัน
มันจะมีมูลค่ามากกว่า สินค้าจริง ในโลกจริง
แต่ถ้าคิดดี ๆ แล้ว
ทุกอย่างในโลกนี้ แม้แต่เงินจริงที่เราถืออยู่
มันก็อาจจะเป็นแค่ “สิ่งสมมติ” เหมือนกัน ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.