รู้จัก Atome ผู้นำแพลตฟอร์ม ช้อปก่อนจ่ายทีหลัง ทางเลือกใหม่ สำหรับชาวไทยสายช้อป
รู้จัก Atome ผู้นำแพลตฟอร์ม ช้อปก่อนจ่ายทีหลัง ทางเลือกใหม่ สำหรับชาวไทยสายช้อป
Atome x ลงทุนแมน
Atome x ลงทุนแมน
แพลตฟอร์มช้อปก่อนจ่ายทีหลัง มีชื่อเรียกสั้น ๆ ที่รู้จักกันว่า BNPL
ซึ่งย่อมาจากคำว่า Buy Now, Pay Later
ซึ่งย่อมาจากคำว่า Buy Now, Pay Later
ปกติแล้วโมเดลธุรกิจแบบ BNPL มีจุดเด่นตรงที่ลูกค้าสามารถช้อปของไปก่อน
แล้วค่อยมาแบ่งจ่ายทีหลังได้ แบบไร้ดอกเบี้ย และไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีใด ๆ
แล้วค่อยมาแบ่งจ่ายทีหลังได้ แบบไร้ดอกเบี้ย และไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีใด ๆ
นับว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่มาแรงมากในยุคนี้
โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมา
โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ผ่านมา
หากดูจากข้อมูลสถิติจะพบว่า ปัจจุบัน BNPL ได้กลายเป็นวิธีการชำระเงินที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก ทั้งช่องทางออนไลน์และหน้าร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย FIS บริษัทการเงินระดับชาติ มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2568 BNPL จะมีมูลค่าธุรกรรมประมาณ 5% ของมูลค่าธุรกรรมของอีคอมเมิร์ซ หรือคิดเป็นมูลค่าถึง 15.9 ล้านล้านบาท
และเมื่อพูดถึงหนึ่งในผู้ให้บริการที่โดดเด่นในทวีปเอเชีย ก็คงหนีไม่พ้นชื่อของ Atome
ที่อ่านออกเสียงว่า อา-โต-มี่ โดยย่อมาจากคำว่า Available to Me
ที่อ่านออกเสียงว่า อา-โต-มี่ โดยย่อมาจากคำว่า Available to Me
เรื่องนี้มีความน่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Atome เป็นสตาร์ตอัปดาวรุ่งที่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2560 โดยบริษัทแม่อย่าง Advance Intelligence Group บริษัทเทคโนโลยีซีรีส์ D ซึ่งเป็นยูนิคอร์นจากสิงคโปร์ ก่อนที่จะขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี 2562
ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการ BNPL รายแรกในประเทศไทย และเป็นผู้นำในตลาด BNPL ในประเทศโดยวัดจากยอดขายที่เกิดบนแพลตฟอร์ม (GMV) และฐานลูกค้า
หากถามว่า Atome น่าสนใจอย่างไร เมื่อเทียบกับบริการอื่น ๆ
ข้อแรกก็คือ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
ยกตัวอย่างเช่น การลงทะเบียนเริ่มต้นนั้นง่ายมาก เพียงกรอกข้อมูลเบื้องต้น
เช่น เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต และประวัติส่วนตัว
หลังจากนั้นสแกนบัตรประชาชนและใบหน้าของตัวเอง เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เช่น เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต และประวัติส่วนตัว
หลังจากนั้นสแกนบัตรประชาชนและใบหน้าของตัวเอง เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ส่วนของด้านการชำระเงิน ก็ใช้งานง่ายไม่ต่างกัน ด้วย 3 ขั้นตอนเท่านั้น
1. กดปุ่ม Pay
2. สแกน QR Code
3. ใส่ยอดเงินที่ต้องชำระเป็นจำนวนเต็ม โดยแอปพลิเคชันจะคำนวณค่าชำระในแต่ละครั้งมาให้ ซึ่งในการจ่ายครั้งแรก จะเป็นการจ่ายจำนวน 1/3 ของยอดชำระทั้งหมด
2. สแกน QR Code
3. ใส่ยอดเงินที่ต้องชำระเป็นจำนวนเต็ม โดยแอปพลิเคชันจะคำนวณค่าชำระในแต่ละครั้งมาให้ ซึ่งในการจ่ายครั้งแรก จะเป็นการจ่ายจำนวน 1/3 ของยอดชำระทั้งหมด
ซึ่งจะเห็นได้ว่า Atome ใช้งานได้ง่ายไม่แตกต่างจากพร้อมเพย์เลย
ข้อที่ 2 คือ จะใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ก็สามารถแบ่งชำระได้ โดยไม่บล็อกวงเงิน
ด้วยความที่ประเทศไทยยังมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อบัตรเครดิตได้
ทำให้ Atome เห็นโอกาสในการนำเสนอบริการสินเชื่อที่ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต
ทำให้ Atome เห็นโอกาสในการนำเสนอบริการสินเชื่อที่ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต
เพียงแค่สมัครผ่านบัตรเดบิต หลังจากนั้นผู้ใช้งานก็จะสามารถแบ่งชำระค่าสินค้าได้ 3 ครั้ง เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยแบ่งจ่ายทุกเดือน ในจำนวนละเท่า ๆ กัน โดยไม่มีดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมใด ๆ แอบแฝงเลย
ที่สำคัญ Atome ยังอนุมัติวงเงินภายใน 2-3 นาทีอีกด้วย
ข้อที่ 3 คือ ติดตามยอดค่าใช้จ่าย และวันครบกำหนดชำระได้ตลอด 24 ชั่วโมง
แม้ว่า Atome ต้องการให้ผู้คนสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการที่แต่ละคนต้องการ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต แต่ก็ไม่อยากให้เกิดการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย
จึงออกแบบแอปพลิเคชันให้มีฟังก์ชันติดตามยอดค่าใช้จ่ายที่ใช้งานง่าย และมีการแจ้งวันครบกำหนดชำระ
จึงออกแบบแอปพลิเคชันให้มีฟังก์ชันติดตามยอดค่าใช้จ่ายที่ใช้งานง่าย และมีการแจ้งวันครบกำหนดชำระ
ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ผู้ใช้งานวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีวินัย
รวมถึงหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา ผู้ใช้งานก็สามารถติดต่อแจ้งกับแผนกลูกค้าสัมพันธ์ได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชันอีกด้วย
ปัจจุบัน Atome ให้บริการกว่า 500 แบรนด์ ซึ่งมีร้านค้ากว่า 2,000 แห่ง ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน
เช่น H&M, MLB, G2000, Guess, Lee, Pandora, SUPERSPORTS, Power Buy, Sabina, EVEANDBOY, Konvy, Sephora, Agoda, Samsung และอื่น ๆ อีกมากมาย
เช่น H&M, MLB, G2000, Guess, Lee, Pandora, SUPERSPORTS, Power Buy, Sabina, EVEANDBOY, Konvy, Sephora, Agoda, Samsung และอื่น ๆ อีกมากมาย
จากแบรนด์ข้างต้นจะเห็นได้ว่า Atome โฟกัสในกลุ่มสินค้าแฟชั่น ความงาม และไลฟ์สไตล์
รวมถึงเปิดให้บริการในกลุ่มประเทศเอเชียถึง 10 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ ไทย, ญี่ปุ่น, จีน, สิงคโปร์, เวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมถึงไต้หวันและฮ่องกงด้วย
อย่างไรก็ดี นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อทางฝั่งคนช้อปแล้ว
ทางฝั่งผู้ขายหรือร้านค้า ก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน
ทางฝั่งผู้ขายหรือร้านค้า ก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน
เช่น การเพิ่มจำนวนลูกค้า เดิมทีลูกค้าบางรายอาจไม่สะดวกในการจ่ายครั้งเดียว
แต่ Atome ช่วยให้ลูกค้าแบ่งชำระได้ถึง 3 ครั้ง ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการง่ายขึ้น
แต่ Atome ช่วยให้ลูกค้าแบ่งชำระได้ถึง 3 ครั้ง ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการง่ายขึ้น
รวมทั้งมีข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าของลูกค้า ให้ร้านค้านำไปใช้ในการวิเคราะห์ต่อ
เพื่อเข้าใจ และสร้างกลยุทธ์ที่ตรงใจลูกค้ามากกว่าเดิม
เพื่อเข้าใจ และสร้างกลยุทธ์ที่ตรงใจลูกค้ามากกว่าเดิม
จากข้อดีเหล่านี้ ทำให้ที่ผ่านมาร้านค้าที่เข้าร่วม สามารถสร้างยอดซื้อต่อบิลเพิ่มสูงขึ้นถึง 30%
และด้วยคุณค่าที่ Atome เสนอมา ทำให้แอปพลิเคชันมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 350,000 ครั้ง และจำนวนผู้ใช้งานที่ Active รายเดือนมีการเติบโตมากกว่า 30 เท่า ตั้งแต่ที่มีการเปิดตัวแอปพลิเคชัน
ทั้งนี้ในอนาคต Atome มีแผนที่จะขยายผลิตภัณฑ์และบริการด้านการเงินอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย
ก็ต้องคอยติดตามต่อไปว่า BNPL เจ้านี้ จะมีผลิตภัณฑ์และบริการใดที่น่าสนใจอีกบ้าง
ก็ต้องคอยติดตามต่อไปว่า BNPL เจ้านี้ จะมีผลิตภัณฑ์และบริการใดที่น่าสนใจอีกบ้าง
สำหรับชาวไทยสายช้อป ที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่สำหรับการชำระเงิน
สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้
สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้