รู้จัก K-GPIN กองทุนที่เน้นหุ้น Defensive ทั่วโลก ทางเลือกกระจายพอร์ตในช่วงตลาดผันผวน

รู้จัก K-GPIN กองทุนที่เน้นหุ้น Defensive ทั่วโลก ทางเลือกกระจายพอร์ตในช่วงตลาดผันผวน

KAsset x ลงทุนแมน
ปัจจุบัน ตลาดการลงทุนทั่วโลกยังเผชิญความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น และสงครามการค้าที่ยังไม่มีข้อยุติ โดยเฉพาะเมื่อเส้นตายด้านภาษีใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ การกระจายการลงทุนเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ต้องเป็นการ “กระจายไปยังธุรกิจผู้นำ” ที่มีศักยภาพรับมือกับความผันผวน และกระจายไปหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก
หนึ่งในกองทุนที่ตอบโจทย์แนวคิดนี้ คือ K-GPIN จาก KAsset ลงทุนหุ้นคุณภาพทั่วโลก คัดเลือกโดย J.P. Morgan Asset Management บลจ. ชั้นนำระดับโลก และพันธมิตรสำคัญของ KAsset
ทำไมนักลงทุนควรกระจายไปยังธุรกิจชั้นนำระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ธุรกิจชั้นนำระดับโลกคือหนึ่งในไม่กี่กลุ่มที่ยืนระยะได้จริง
ไม่ว่าจะเจอวิกฤติเศรษฐกิจ สงครามการค้า หรือเงินเฟ้อที่พุ่งสูง แต่ก็ยังมีศักยภาพสร้างรายได้ต่อเนื่อง
เพราะมี “จุดแข็งที่ยากจะลอกเลียนแบบ” ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีเฉพาะ ลิขสิทธิ์สำคัญ หรือแบรนด์ที่ผู้บริโภคเชื่อมั่น
อีกทั้งหลายธุรกิจยังอยู่ในหมวดบริการจำเป็น เช่น ยา, อาหาร หรือโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะขึ้นหรือลง ก็ยังมีดีมานด์ต่อเนื่อง
และที่สำคัญ ไม่ใช่แค่เลือกธุรกิจที่ดี แต่ต้องกระจายไปทั่วโลก เพราะการลงทุนที่กระจุกในประเทศเดียว อาจเสี่ยงต่อความผันผวนภายในที่คาดไม่ถึง
ด้วยแนวคิดนี้ K-GPIN หรือ กองทุนเปิดเค พรีเมียมอินคัมหุ้นโลก จะเน้นลงทุนในหุ้น Defensive ทั่วโลก เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานค่อนข้างแข็งแกร่ง ความเสี่ยงต่ำ และมีการจ่ายเงินปันผลค่อนข้างสม่ำเสมอ
แล้วอะไรคือจุดเด่นของกองทุน K-GPIN ?
K-GPIN ลงทุนในกองทุนหลัก JPMorgan ETFs (Ireland) ICAV - Global Equity Premium Income UCITS ETF - USD (dist)
จุดเด่นอยู่ที่กลยุทธ์การขาย Call Option ผสานการคัดเลือกหุ้นคุณภาพทั่วโลก เพื่อสร้างรายได้สม่ำเสมอ โดยรายได้จะมาจากปันผลของหุ้นกับ Premium จาก Call Option ช่วยรักษาความมั่นคงของพอร์ต และมีโอกาสเติบโตในระยะยาว
หลักการของกลยุทธ์การขาย Option นี้คือ เมื่อกองทุนถือหุ้นพื้นฐานที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ก็สามารถปล่อยสิทธิ์ให้ผู้อื่นซื้อหุ้นในราคาที่กำหนดล่วงหน้า เพื่อแลกกับค่าตอบแทนที่เรียกว่าค่า Premium ซึ่งกองทุนจะได้รับทันที
ข้อดีของกลยุทธ์นี้คือ ช่วยสร้างรายได้ระหว่างทาง แม้ราคาหุ้นจะไม่ปรับขึ้นแรง และยังช่วยลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดได้ดี
พูดง่าย ๆ คือ ไม่ต้องรอให้ราคาหุ้นขึ้นอย่างเดียวถึงจะได้ผลตอบแทน แต่สามารถเปลี่ยนความผันผวนให้กลายเป็นรายได้เพิ่มเติมได้ทันที
อีกหนึ่งจุดแข็งของกองทุนคือ การเลือกลงทุนในบริษัทชั้นนำที่มีความมั่นคง กระแสเงินสดแข็งแรง และดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน เช่น
- Johnson & Johnson
บริษัทเวชภัณฑ์ระดับโลกที่มีรายได้จากผลิตภัณฑ์จำเป็น เช่น ยาและอุปกรณ์การแพทย์ ซึ่งยังคงเป็นที่ต้องการไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร
- Microsoft Corporation
ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก มีรายได้ประจำจากบริการอย่าง Microsoft Office, Windows และ Azure ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
- Berkshire Hathaway
บริษัท Holding ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่ถือหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Coca-Cola และ American Express พร้อมธุรกิจประกันภัยและพลังงานในเครือ
- Deutsche Telekom AG
กลุ่มโทรคมนาคมจากเยอรมนี เจ้าของแบรนด์ T-Mobile ที่มีรายได้มั่นคงจากบริการพื้นฐานทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ
- McDonald's Corporation
ผู้นำธุรกิจฟาสต์ฟูดระดับโลก ที่มีโมเดลรายได้จากแฟรนไชส์และค่าเช่า ช่วยให้รายได้มีความสม่ำเสมอในทุกภาวะเศรษฐกิจ
(ข้อมูลตัวอย่างบริษัทที่อยู่ในพอร์ตของกองทุน JPMorgan ETFs (Ireland) ICAV - Global Equity Premium Income UCITS ETF - USD (dist) ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2568)
จะเห็นได้ว่า หุ้นเหล่านี้มักถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Defensive Stock ซึ่งมีแนวโน้มรักษารายได้และกำไรได้ดี แม้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว จึงอาจเหมาะกับนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของพอร์ตในระยะยาว
นอกจากนี้ กองทุนยังมีการกระจายการลงทุนไปยังหลากหลายประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาเศรษฐกิจใดเศรษฐกิจหนึ่งมากเกินไป
ที่น่าสนใจคือ K-GPIN มีให้เลือกลงทุน 2 แบบ เลือกได้ตามความเสี่ยงที่รับได้
- แบบป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน K-GPIN-A(A) ชนิดสะสมมูลค่า
- และแบบไม่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน K-GPINUH-A(A) ชนิดสะสมมูลค่า และ K-GPINUH-A(R) ชนิดรับซื้อคืนอัตโนมัติ
หากดูผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน
จะเห็นว่าแม้ปีนี้ตลาดจะผันผวน แต่กองทุน K-GPINUH-A(A) ยังคงสามารถรับมือกับความไม่แน่นอนได้ โดยตั้งแต่ต้นปี (YTD) กองทุนสามารถสร้างผลการดำเนินงานเป็นบวก
ดูข้อมูลเพิ่มเติม www.kasikornasset.com/FundDocument/Fund_Performance/K-GPINUH-A(A).pdf
มาถึงตรงนี้ เราคงพอสรุปได้ว่า ในภาวะที่ตลาดทั่วโลกยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าเศรษฐกิจจะเปลี่ยนทิศทางไปอย่างไร หรือความเสี่ยงใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นเมื่อใด
การเลือกลงทุนในธุรกิจผู้นำของแต่ละอุตสาหกรรม ที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง แบรนด์เป็นที่ยอมรับ และสามารถสร้างรายได้อย่างมั่นคงในทุกภาวะเศรษฐกิจ
จึงเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสในการเติบโตของพอร์ตในระยะยาว นั่นเอง..
สำหรับใครที่สนใจกองทุน K-GPIN สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.kasikornbank.com/k_44Je2xx
คำเตือน :
- ผลการดำเนินงานในอดีต ไม่สามารถยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
References :
-หนังสือชี้ชวนลงทุนกองทุนรวม K-GPIN
-https://am.jpmorgan.com/gb/en/asset-management/adv/products/jpm-global-equity-premium-income-active-ucits-etf-usd-dist-ie0003uvyc20#/portfolio
Tag: KAsset

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon