“Groupon” เคยมีมูลค่า 500,000 ล้าน ทำไมวันนี้ เหลือเพียง 8,400 ล้าน

“Groupon” เคยมีมูลค่า 500,000 ล้าน ทำไมวันนี้ เหลือเพียง 8,400 ล้าน

8 ส.ค. 2023
“Groupon” เคยมีมูลค่า 500,000 ล้าน ทำไมวันนี้ เหลือเพียง 8,400 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
Groupon เคยถูกยกให้เป็น หนึ่งในสตาร์ตอัปที่โตไวที่สุดในโลก เคยมีมูลค่ากิจการสูงสุด ที่ราว 500,000 ล้านบาท
แต่ต่อมาก็ได้เริ่มเผชิญปัญหา จนต้องถอนตัวจากการให้บริการในประเทศไทย และอีก 6 ประเทศ จนรายได้ของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง
มาวันนี้ Groupon มีมูลค่าเหลือเพียง 8,400 ล้านบาท ปรับตัวลดลงมาจากจุดสูงสุด มากถึง -98%
แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ Groupon ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ในปี 2551 คุณแอนดรูว์ เมสัน ได้ก่อตั้ง Groupon ขึ้น เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่ไว้ใช้สำหรับรวบรวมคนที่มีความสนใจเหมือนกัน มารวมตัวกัน เพื่อไปต่อรองซื้อสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ในราคาที่ถูกลง
โดยชื่อของ Groupon นั้นมาจาก “Group” ที่หมายถึง กลุ่มคนที่มารวมกัน และ “Coupon” ที่สื่อถึงการได้ซื้อสินค้าลดราคา
แต่ทว่าโมเดลธุรกิจแรกของคุณเมสันนั้น ยังไม่ค่อยเวิร์กเท่าไรนัก บริษัทจึงต้องดิ้นรน หาทางรอด โดยการทดลองหาดีลลดราคาของสินค้าและบริการต่าง ๆ มาจำหน่ายแทน
โดยดีลแรกที่ขาย คือ ดีลซื้อพิซซา 2 ถาด ในราคา 1 ถาด ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี ทำให้บริษัทหันมาทำด้านนี้เต็มตัว พร้อมกับตั้งเป้าที่จะขยายจำนวนผู้ใช้งานให้มากที่สุด
ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือน บริษัทได้ขยายการให้บริการไปยัง 4 เมืองใหญ่ในสหรัฐอเมริกา คือ ชิคาโก, บอสตัน, วอชิงตัน ดี.ซี. และนิวยอร์ก
ร้านค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม สปา คลินิกความงาม เริ่มโทรหา Groupon เพื่อขอจำหน่ายดีลของตัวเองบนแพลตฟอร์ม
ส่วนฝั่งผู้บริโภคเองก็ชอบที่ได้ดีลลดราคาจากบริการที่ตัวเองสนใจ ทำให้กิจการของ Groupon นั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
ต่อมา Groupon ได้ขยายการให้บริการครอบคลุมไปครึ่งประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงบุกเข้าไปยังตลาดยุโรป อย่างประเทศเยอรมนี, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และสเปน
ถึงตรงนี้ ในระยะเวลาเพียงแค่ 16 เดือน Groupon ถูกประเมินมูลค่าไว้อยู่ที่ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นสตาร์ตอัปยูนิคอร์นตัวใหม่ ที่ทุกคนจับตามอง
ปีที่ 3 Google ได้เสนอขอซื้อกิจการของ Groupon ที่ราคา 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 200,000 ล้านบาท
แต่คุณเมสัน ได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้จาก Google ไป เพราะเชื่อว่าบริษัทสามารถไปได้ไกล และทำเงินได้มากกว่านี้
ปีที่ 4 Groupon ได้เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ด้วยมูลค่าสูงถึง 440,000 ล้านบาท ถือเป็นดีล IPO ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกา ต่อจาก ดีลของ Google ในปี 2547
แต่ทว่าหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ไม่นาน
ราคาหุ้นของ Groupon ก็ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ ก.ล.ต. สหรัฐอเมริกา ได้พบว่า Groupon นั้นมีวิธีบันทึกบัญชีที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน โดยบริษัทได้ซ่อนผลตัวเลขขาดทุนเอาไว้
หุ้นของบริษัทถูกเทขายจนราคาลดลงมากกว่า 80%
และหลังจากนั้น Groupon ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง..
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น บริษัทได้ซ่อนผลขาดทุนเอาไว้มาโดยตลอด แม้ว่ารายได้จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีคนเข้ามาใช้งานเป็นจำนวนมาก
โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ของ Groupon นั้นมาจากค่าจ้างพนักงาน และค่าการตลาด Groupon ต้องจ้างเซลส์หลักพันคน เพื่อตามจีบธุรกิจต่าง ๆ ให้มาร่วมเสนอขายดีลบนแพลตฟอร์ม และนักเขียนอีกหลายร้อยคน เพื่อมาเขียนโฆษณาดีลหลายร้อยดีลทุกวัน
รวมถึงทำการโปรโมตตัวเองผ่านสื่อต่าง ๆ อย่างเต็มที่ เพื่อให้คนเข้ามาใช้งานในแพลตฟอร์ม
ส่วนโมเดลธุรกิจด้านการทำเงินของ Groupon นั้น บริษัทจะหักรายได้จากการขายดีลครึ่งหนึ่งจากธุรกิจที่มาขายดีลบนแพลตฟอร์ม ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่สูงมากของธุรกิจที่เข้ามาใช้บริการขายดีลผ่านบริษัท
เนื่องจากว่า ธุรกิจเหล่านั้น ต้องลดราคาค่าสินค้าและบริการของตัวเองเพื่อทำโปรโมชันดีล แถมพอขายได้ก็ต้องแบ่งเงินให้กับ Groupon ถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ขาดทุนจากการขายดีล
แล้วถ้าถามว่าทำไมธุรกิจเหล่านั้นถึงยอมเข้ามาขาย แม้จะรู้ว่าอาจจะไม่ได้กำไร ?
คำตอบก็คือ พวกเขามองว่าอย่างน้อย การขายดีลก็ทำให้ธุรกิจของเขาเข้าถึงผู้คนมากขึ้น ซึ่งมีโอกาสที่จะกลายมาเป็นลูกค้าที่มาใช้บริการซ้ำในอนาคต หรือมียอดการใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากดีล ก็จะทำให้ธุรกิจพอมีกำไรได้บ้าง
แต่ในความเป็นจริงแล้ว..
ลูกค้าที่ซื้อดีลผ่าน Groupon ส่วนใหญ่นั้น มักจะมีความอ่อนไหวเรื่องราคา ทำให้เมื่อไม่มีดีลพิเศษออกมาต่อเนื่อง ก็มีลูกค้าเพียงน้อยรายที่กลับไปใช้บริการธุรกิจเหล่านั้นเหมือนเดิม รวมถึงไม่ค่อยมีการซื้อสินค้า หรือบริการเสริมเพิ่มเติมจากดีลที่ตนเองซื้อเอาไว้
ผลสุดท้ายก็คือ บรรดาธุรกิจต่าง ๆ ก็ต้องเลิกขายดีลผ่าน Groupon ไป เพราะกลายเป็นว่า ยิ่งขายก็ยิ่งเจ๊ง..
สุดท้ายแล้ว Groupon ก็มีดีลที่ดีสำหรับฝั่งผู้บริโภคมาเสนอขายน้อยลงเรื่อย ๆ จนผู้ใช้งานจำนวนมากเลิกใช้ไปในที่สุด
ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป ธุรกิจของ Groupon ก็เริ่มแย่ลง และกิจการต้องลดขนาดลงตลอดเวลาในช่วงที่ผ่านมา
หากเรามาดูผลประกอบการของ Groupon, Inc.
ปี 2563 รายได้ 49,500 ล้านบาท ขาดทุน 10,000 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 34,000 ล้านบาท กำไร 4,100 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 20,900 ล้านบาท ขาดทุน 8,300 ล้านบาท
ถึงตรงนี้ เราคงจะเห็นได้ว่า Groupon นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว จากการทำสิ่งใหม่ที่สามารถสร้างผลกระทบได้ในวงกว้าง
แต่ถ้าสุดท้ายแล้ว โมเดลธุรกิจที่ทำนั้น ขาดความยั่งยืน ก็ทำให้ธุรกิจนั้นค่อย ๆ เสื่อมไปตามกาลเวลา..
ทั้งการบิดเบือนข้อมูลทางบัญชี โมเดลธุรกิจที่ไม่ยั่งยืน ก็ได้ทำให้มูลค่ากิจการของ Groupon ถูกเทขายออกมาอย่างมหาศาล
ในระดับที่ว่าจากที่เคยมีมูลค่า 500,000 ล้านบาท
เหลือเพียง 8,400 ล้านบาท ในวันนี้..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.techhub.in.th/groupon-thailand-closed/
-https://www.businessinsider.com/groupon-from-the-ashes-of-a-dead-startup-to-a-billion-dollar-company-in-2-years-2011-6#desperate-times-called-for-desperate-measures-mason-and-his-colleagues-tried-buying-google-search-terms-like-make-weed-legal-to-bring-in-site-traffic-4
-https://www.chicagotribune.com/business/ct-biz-groupon-google-anniversary-20201203-i7euppwfnnfytkozr4dyp43qlq-story.html
-https://www.linkedin.com/pulse/rise-fall-groupon-cautionary-tale-j-sebastian-mateus
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.