รู้จัก SAV ธุรกิจบริหารจัดการจราจรทางอากาศ น่านฟ้ากัมพูชา กำลังจะ IPO
SAV x ลงทุนแมน

หลังจากสถานการณ์โรคระบาดได้ซาลง
อุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว ก็กลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
วัดได้จากจำนวนเที่ยวบินทั่วโลก ที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัด

โดยปี 2020 จำนวนเที่ยวบินทั่วโลกอยู่ที่ 16.9 ล้านเที่ยวบิน
ขณะที่ปี 2022 จำนวนเที่ยวบินทั่วโลกเพิ่มเป็น 27.9 ล้านเที่ยวบิน หรือคิดเป็นการเติบโตถึง 65%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจำนวนเที่ยวบินทั่วโลกในปัจจุบัน ยังคงต่ำกว่าก่อนเกิดการแพร่ระบาด

แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในประเทศที่กำลังจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่าเดิม
คือ กัมพูชา ประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง

ซึ่งจากอัตราการเติบโตของเที่ยวบินที่กล่าวมา
คาดการณ์ว่า จำนวนเที่ยวบินในกัมพูชา ปี 2023 จะสูงถึง 100,000 เที่ยวบิน
และในปี 2024 จะสูงถึง 134,000 เที่ยวบิน

ทำไม กัมพูชา ถึงกลายเป็นประเทศที่โดดเด่นด้านการท่องเที่ยว ?
และบริษัทใด กำลังได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

หากใครที่เคยเดินทางไปกัมพูชา จะรู้เหตุผลว่าทำไมถึงเป็นหนึ่งประเทศที่นักท่องเที่ยวสนใจ
หนึ่งในเหตุผลหลัก ๆ คือ กัมพูชา ขึ้นชื่อเรื่องมรดกทางวัฒนธรรมและมีประวัติศาสตร์ที่น่าทึ่ง

อย่างสถานที่สำคัญ เช่น นครวัด ศาสนสถานสุดอลังการที่เป็นสัญลักษณ์ของกัมพูชา
และภายในสถานที่เต็มไปด้วยงานแกะสลัก รูปปั้น และหอคอยมากมาย
ก็ได้รับการยกย่องด้านสถาปัตยกรรมในระดับโลก และเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์

ซึ่งในทุก ๆ ปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากกว่า 2,000,000 คน

และเหตุผลที่สองคือ กัมพูชา มีธรรมชาติที่สวยงาม

โดยทางตอนใต้ของกัมพูชามีเกาะต่าง ๆ มากมาย
และแต่ละเกาะมีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองด้วย

เช่น
- เกาะรง เกาะที่มีชื่อเสียงในด้านชีวิตกลางคืน
- เกาะรงสำลน เกาะที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยธรรมชาติ
- เกาะทเม แหล่งรวมนก ลิง กิ้งก่า และสัตว์อื่น ๆ มากกว่า 100 สายพันธุ์ ซึ่งเหมาะสำหรับชมธรรมชาติ

นอกจากนี้ กัมพูชา ยังมีอุทยานแห่งชาติที่สวยงาม และคงความเป็นธรรมชาติอยู่

อย่าง อุทยานแห่งชาติเรียม อุทยานแห่งชาติที่สำคัญที่สุดในกัมพูชา
เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และระบบนิเวศหลากหลายชนิด
รวมทั้งแม่น้ำ ปากแม่น้ำ ชายหาด แนวปะการัง เรียกได้ว่า ครบ จบ ในที่เดียว

อย่างไรก็ดี เหตุผลที่ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในกัมพูชาเริ่มคึกคัก
เพราะรัฐบาลกัมพูชาส่งเสริมเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น

- การปรับปรุงสนามบินและก่อสร้างสนามบินนานาชาติแห่งใหม่
เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากทั่วโลก

- นโยบายส่งเสริมการค้าและการลงทุนร่วมกับจีน
อย่างโครงการดาราสาคร ที่บริษัทจีนจะเข้ามาพัฒนาพื้นที่ให้เต็มไปด้วยสาธารณูปโภคที่ครบครัน
ทั้งโครงข่ายถนนและสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่

- นโยบายส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ลาว อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และอื่น ๆ

รวมถึง การเปิดประเทศของหลาย ๆ ประเทศ ที่ส่งผลต่อการเดินทางทั้งในเชิงธุรกิจ และการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น

พอเรื่องราวเป็นแบบนี้ เลยไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสายการบินจะได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ

ซึ่งหนึ่งในบริษัทที่น่าสนใจคือ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส จํากัด (“CATS”)
ผู้ให้บริการบริหารจัดการจราจรทางอากาศแต่เพียงรายเดียว ของสนามบินกัมพูชา จากการได้รับสัมปทานจำนวน 49 ปี
โดยสัมปทานที่ว่านี้ จะสิ้นสุดในปี 2051 หรือในอีก 28 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ CATS จะเป็นบริษัทสัญชาติกัมพูชา
แต่ผู้ถือหุ้นกลับเป็นบริษัทไทยที่มีชื่อว่า บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “SAV”
บริษัทโฮลดิงที่เน้นการลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจราจรทางอากาศ

โดยบริษัทถือหุ้นใน CATS เป็นสัดส่วนถึง 100% เลยทีเดียว

ซึ่ง CATS เป็นผู้ให้บริการจัดการ การจราจรทางอากาศ ครอบคลุมสนามบินทั้งหมด 6 แห่งของกัมพูชา คือ

สนามบินที่ให้บริการการบินทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ
- สนามบินนานาชาติพนมเปญ
- สนามบินนานาชาติเสียมเรียบ
- สนามบินนานาชาติสีหนุ

สนามบินที่ให้บริการเฉพาะการบินภายในประเทศ
- สนามบินพระตะบอง
- สนามบินเกาะกง
- สนามบินสตึงแตรง

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ บริษัทจะได้ให้บริการในสนามบินนานาชาติแห่งใหม่อีก 3 แห่ง ประกอบไปด้วย

- สนามบินนานาชาติเสียมเรียบแห่งใหม่ กำลังเปิดบริการปี 2023
- สนามบินนานาชาติพนมเปญแห่งใหม่ แผนสร้างเสร็จปี 2024
- สนามบินนานาชาติดาราสาคร (เกาะกง)

โดยหน้าที่หลัก ๆ ของ CATS ในการบริหารและจัดการ คือ

1. บริหารการจราจรทางอากาศ ภายในเขตแถลงข่าวการบินพนมเปญ
เพื่อรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพทางการบิน ของผู้โดยสารบนอากาศในกัมพูชา

2. บริการระบบสื่อสาร ระบบช่วยการเดินอากาศ และระบบติดตามอากาศยาน

3. บริการข่าวสารการเดินอากาศ

4. บริการด้านออกแบบแผนการบิน และบริการด้านแผนที่การเดินอากาศ

เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า CATS มีรายได้จากส่วนไหนบ้าง
ก็ต้องบอกว่ารายได้ของบริษัทมาจาก 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่

ส่วนที่ 1 คือ ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ
ส่วนที่ 2 คือ ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ
ส่วนที่ 3 คือ ค่าบริการสำหรับเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา

ทีนี้ ลองมาดูว่า CATS มีความน่าสนใจอย่างไรในเชิงธุรกิจกันบ้าง..

1. เป็นผู้ให้บริการด้านวิทยุการบินอย่างครบวงจร เพียงรายเดียวในกัมพูชา

เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2002 อายุสัมปทาน 49 ปี
โดยสัมปทานสิ้นสุดอายุปี 2051 ดังนั้นสัมปทานจะเหลืออายุ 28 ปี
ซึ่งบริษัทมีโอกาสต่ออายุสัมปทานได้

สะท้อนได้ว่า ธุรกิจของ SAV โดยธรรมชาติแล้ว มีความมั่นคง
เพราะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และยังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

ทั้งนี้ ถ้าบริษัทสามารถพัฒนาวิทยุการบิน ให้ครอบคลุมทุก ๆ สนามบินในกัมพูชา ทั้งบริษัท และรัฐบาลก็จะมีเงินเข้ากระเป๋า นับว่า win-win ทั้ง 2 ฝ่าย

2. มีรายได้ประจำจากทุกเที่ยวบินที่ขึ้น-ลงในกัมพูชา
รวมถึงมีรายได้ประจำจากทุกเที่ยวบินที่บินผ่านน่านฟ้ากัมพูชา
ขณะที่ธุรกิจวิทยุการบิน ให้ผลตอบแทนสูง เพราะไม่มีคู่แข่งอีกด้วย

3. เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ของกัมพูชาและอาเซียนมีแนวโน้มเติบโต
ดังนั้นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับสายการบิน จึงได้รับผลพลอยได้ไปด้วย

ความสำเร็จของ SAV ก็สะท้อนได้ผ่านรายได้และกำไรที่เติบโต
เพราะถ้าลองมาดูผลประกอบการย้อนหลังของบริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) จะพบว่า

ปี 2020 รายได้ 714 ล้านบาท ขาดทุน 45 ล้านบาท (ปีที่มีโรคระบาด)
ปี 2021 รายได้ 456 ล้านบาท ขาดทุน 74 ล้านบาท (ปีที่มีโรคระบาด)
ปี 2022 รายได้ 1,218 ล้านบาท กำไร 199.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปี 2023 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 40% แตะระดับ 2,000 ล้านบาท
รวมถึงตั้งเป้าหมายรายได้ 3,000 ล้านบาท ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า
ซึ่งบริษัทจะต้องสร้างการเติบโตเฉลี่ย 19.7% ต่อปี เลยทีเดียว

มาถึงตรงนี้ คงพอเห็นถึงภาพรวม และศักยภาพการเติบโตของ SAV
แต่คำถามคือ บริษัทจะนำเงินทุนจาก IPO ไปทำอะไรอีกบ้าง ?

1. ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

โดย SAV ได้ทำการกู้เงินจากสถาบันการเงิน สัญชาติญี่ปุ่น อย่าง Mizuho Bank
เพื่อนำไปซื้อหุ้น CATS จากบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้ SAV สามารถชำระเงินกู้ยืมได้ทั้งหมด และจะทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดที่ดีขึ้น และมีภาระดอกเบี้ยที่ลดลง

2. เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการลงทุนในอนาคต

โดยนายธีระชัย พงศ์พนางาม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า

“กัมพูชา ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเติบโตด้านการท่องเที่ยว ซึ่งธุรกิจที่ได้รับผลประโยชน์ในครั้งนี้โดยตรงคือ ธุรกิจการบิน

SAV จะได้รับอานิสงส์ทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวกัมพูชา และการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวโลก ที่มีเส้นทางการบินใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การ IPO ในครั้งนี้ จึงเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ SAV ทั้งด้านธุรกิจ การลงทุน และกระแสเงินสด ทำให้บริษัทรับรู้รายได้อย่างเต็มที่”

สุดท้ายแล้ว เราคงต้องติดตามกันต่อไปว่า SAV จะสามารถเติบโตได้แค่ไหน ในวันที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ทำให้ผู้คนอัดอั้นมานาน

แต่ที่แน่ ๆ ปัจจุบัน SAV เป็นผู้เล่นรายเดียวของกัมพูชา ที่ได้รับสัมปทานยาว ๆ ไปอีกเกือบ 3 ทศวรรษ..

Reference:
-http://www.samartaviation.com/