บริษัท บุญถาวร รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BOON
ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านแบบครบวงจร ประกาศว่า กำลังเดินหน้ายื่น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

โดยจะเสนอขายหุ้นไม่เกิน 320 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO
ซึ่งมีวัตถุประสงค์ใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจ ชำระคืนหนี้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ

ปัจจุบัน บุญถาวร มีหน้าร้านค้าปลีก อยู่ 50 แห่งทั่วทุกภาคของประเทศไทย รวมถึงเวียดนาม และกัมพูชา แบ่งเป็น

- ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ของกลุ่มบริษัทฯ 15 สาขา
- ร้านค้าปลีกสมัยใหม่รูปแบบแฟรนไชส์ ที่ร่วมทุนกับกลุ่ม SCG ภายใต้ชื่อ “SCG HOME” และ “SCG Home บุญถาวร” จำนวน 35 สาขา

รวมทั้งช่องทางจัดจำหน่ายทางออนไลน์ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada, NocNoc

ซึ่งบริษัทจำหน่ายสินค้าใน 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ กระเบื้องและวัสดุปิดผิว เครื่องสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ห้องน้ำที่เกี่ยวข้อง เครื่องครัว โคมไฟและอุปกรณ์ส่องสว่าง และสินค้าอื่น ๆ เกี่ยวกับบ้านและเฟอร์นิเชอร์ กว่า 90,000 SKUs

ในปี 2565 บริษัทครองส่วนแบ่งการตลาด
- ยอดขายกระเบื้อง 22.1% ของประเทศไทย
- ยอดขายสุขภัณฑ์ 33.5% ของประเทศไทย

สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง ของบุญทาวร
ปี 2563 รายได้ 12,447 ล้านบาท กำไร 72 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 11,554 ล้านบาท กำไร 204 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 13,048 ล้านบาท กำไร 404 ล้านบาท

9 เดือนแรกปี 2566 รายได้ 10,339 ล้านบาท กำไร 214 ล้านบาท

ทีนี้มาดูโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท

ก่อน IPO (ณ วันที่ 30 ก.ย. 2566)
- ครอบครัวทยานุวัฒน์ ถือหุ้นหลักในสัดส่วน 78.5%
- ครอบครัวดาวพิเศษ ถือหุ้น 9.3%
- ครอบครัวตรงกมลธรรม ถือหุ้น 2.3%
- ผู้ถือหุ้นอื่น 9.8%

หลัง IPO
- ครอบครัวทยานุวัฒน์ จะถือหุ้นในสัดส่วน 58.9%
- ครอบครัวดาวพิเศษ ถือหุ้น 7%
- ครอบครัวตรงกมลธรรม ถือหุ้น 1.7%
- ผู้ถือหุ้นอื่น 7.4%

โดยแผนขยายธุรกิจในอนาคตนั้น
บริษัทตั้งเป้าหมายขยายสาขาร้านบุญถาวร แบบ Stand-alone ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงบริเวณต่างจังหวัด ให้ได้รวม 3 - 5 สาขา ภายในปี 2571

และมีแผนเปิดให้บริการ Design Village เพิ่มอีก 1 สาขา

References
-ข่าวประชาสัมพันธ์จาก บริษัท บุญถาวร