รู้จัก JLK Tower ที่จะเปลี่ยนย่านนานา สู่ย่านธุรกิจนานาชาติ ตอบโจทย์ชีวิตออฟฟิศยุคใหม่

รู้จัก JLK Tower ที่จะเปลี่ยนย่านนานา สู่ย่านธุรกิจนานาชาติ ตอบโจทย์ชีวิตออฟฟิศยุคใหม่

29 เม.ย. 2024
JLK Tower x ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่า “นานา” ที่อยู่จุดกลางระหว่างอโศกและเพลินจิต กำลังเปลี่ยนไปเป็นอีกหนึ่งย่านธุรกิจที่น่าจับตามอง ต่อยอดจากการเป็นย่านยอดนิยมของชาวต่างชาติ ที่มาพักอาศัยทั้งระยะสั้นและระยะยาว
ซึ่ง JLK Tower อาคารสำนักงานระดับพรีเมียมแห่งใหม่ กำลังจะมาพลิกโฉมภาพเก่า ๆ ของนานาจากย่านเศรษฐกิจเก่า ให้กลายเป็นอีกขั้นของย่านเศรษฐกิจนานาชาติ
แล้วย่านนานาในปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงจากอดีตไปมากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของคนออฟฟิศยุคใหม่
คำตอบคงเป็น “ความสะดวกสบาย” และ “ความง่าย” ต่อการใช้ชีวิต
สังเกตไหมว่า ย่านนานา รายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- ด้านคมนาคมที่ครบครัน ทั้งสถานี BTS นานา ที่ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ทางออกเพลินจิตฝั่งเหนือ ส่งผลให้การคมนาคมสะดวกทั้งขนส่งสาธารณะ และรถยนต์ส่วนตัว
และสำหรับใครที่อยากเดินทางไปยังย่านอโศก หรือทองหล่อ ก็สามารถสัญจรผ่านซอยสุขุมวิทเลขคี่ที่เชื่อมต่อโดยตรง หรือจะเดินทางด้วย BTS ก็อยู่ห่างจากนานาเพียงไม่กี่สถานี
- ด้านเศรษฐกิจ ง่ายต่อเรื่องธุรกรรมการเงิน เพราะเป็นที่ตั้งของธนาคารหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารกรุงไทย (สำนักงานใหญ่), ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงเทพ รวมทั้งสถานที่สำคัญ ๆ ของประเทศ อย่างสถานทูตสวีเดน และสถานทูตปากีสถาน
- ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสากล เป็นที่ตั้งของเชนโรงแรมหรูระดับ 4-5 ดาว ไม่ว่าจะเป็น Hyatt Regency Bangkok Sukhumvit, Sofitel So Sukhumvit, Maison Hotel Bangkok สะท้อนถึงโอกาสบนทำเลแห่งนี้ที่นักลงทุนต่างชาติมองเห็น
นอกจากความสะดวกในเรื่องไลฟ์สไตล์ คงไม่พูดถึงโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ไม่ได้ เพราะถือเป็นโรงพยาบาลชั้นนำที่ขับเคลื่อน Medical Tourism ในไทย รองรับคนไข้จากกว่า 190 ประเทศทั่วโลกที่เดินทางมารักษา
และหากเราปรับโฟกัสให้กว้างขึ้นจากจุด CBD เพลินจิตและอโศก จะเห็นว่า “นานา”’ นั้นคือ Hidden Gem ที่กำลังก้าวสู่ย่านธุรกิจนานาชาติอย่างแท้จริง เหล่านักลงทุนต่างเล็งเห็นโอกาสในทำเลนี้มาระยะหนึ่งแล้ว สะท้อนได้จากการเกิดขึ้นของอาคารออฟฟิศรูปแบบใหม่ 3-4 แห่ง ที่เพิ่งสร้างเสร็จหมาด ๆ นั่นเอง
แล้วนอกจากความสะดวกแล้ว อะไรคือเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนเหล่านี้เลือกย่านนานา ?
ต้องบอกว่า ความเจริญที่เกิดขึ้นในย่านนานานี้ สะท้อนได้จากระดับราคาประเมินที่ดิน ข้อมูลจาก กรมธนารักษ์ ราคาประเมินที่ดินล่าสุดปี 2566-2569 ของซอยสุขุมวิท 4 (นานาใต้) อยู่ที่ตารางวาละ 260,000-320,000 บาท
ซึ่งระดับราคาประเมินที่ดินนี้ใกล้เคียงกับซอยแยกจากถนนอโศกมนตรี 1 ที่มีราคาประเมินที่ดิน 350,000 บาท/ตารางวา เลยทีเดียว
และถ้าเราลองมาเปรียบเทียบค่าเช่าออฟฟิศเกรด A ในย่านนานา อโศก และเพลินจิต จะพบว่า
ออฟฟิศเกรด A ย่านนานา มีค่าเช่าราว ๆ 1,200 บาท/ตร.ม./เดือน
ออฟฟิศเกรด A ย่านอโศก มีค่าเช่าราว ๆ 1,250 บาท/ตร.ม./เดือน
ออฟฟิศเกรด A ย่านเพลินจิต มีค่าเช่าราว ๆ 1,400-2,500 บาท/ตร.ม./เดือน
ถึงแม้ว่าค่าเช่าออฟฟิศในย่านนานา จะไม่ห่างจากอโศกมากนัก แต่อาคารเกรด A ส่วนหนึ่งในอโศก ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 5-10 ปีที่แล้ว ทำให้มีการเสื่อมโทรมตามสภาพ ส่งผลให้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และมาตรฐานอาจไม่ตอบโจทย์เท่ากับออฟฟิศยุคใหม่
ในทางกลับกัน ออฟฟิศใหม่ ๆ ในย่านเพลินจิตก็มีราคาเช่าที่สูงกว่าย่านนานา อยู่พอสมควร ถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างจากกันเพียง BTS 1 สถานี
ดังนั้น ย่านนานา จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อย หรือเรียกได้ว่า ต่อไปใครที่กำลังมองหาออฟฟิศเกรด A ไม่จำเป็นต้องมองแค่อโศก เพลินจิต หรือชิดลม อีกต่อไป
แล้วความเป็นมาของ JLK Tower น่าสนใจอย่างไร ?
JLK Tower ถูกสร้างโดยคุณ Andre Koo มหาเศรษฐีชาวไต้หวัน เจ้าของ Chailease Group ธุรกิจลีสซิ่งยักษ์ใหญ่ของภูมิภาคเอเชีย ที่ขยายธุรกิจมายังอสังหาริมทรัพย์
และถูกออกแบบโดยบริษัท Palmer & Turner (ประเทศไทย) Top 10 บริษัทสถาปนิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ความสง่างามของ JLK Tower สะท้อนได้ผ่านรางวัลด้านสถาปัตยกรรมโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น Best Commercial High Rise Architecture และ Office Building Architecture จาก Asia Pacific Property Awards 2022-2023
ความโดดเด่นของ JLK Tower คือ การมีพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด 32,512 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการอื่น ๆ และยังเชื่อมต่อโดยตรงจากสถานี BTS นานา เพิ่มความสะดวกกับผู้ใช้อาคารในชั่วโมงเร่งด่วน ขณะที่การจราจรหนาแน่น หรือแม้ในวันฝนตก
พูดง่าย ๆ ว่า JLK Tower ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเพิ่ม Productivity ให้แก่ผู้เช่า เพราะทาง Chailease Group เข้าใจว่า “ความสะดวกสบาย” เป็นสิ่งที่คนออฟฟิศให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ โดยออกแบบให้
- สำนักงานสามารถรองรับธุรกิจขนาดเล็ก ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ รองรับชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่น สามารถเข้ามาทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่อสัปดาห์
- มี Lifestyle Area มากกว่า 2,585 ตารางเมตร สำหรับกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มความสร้างสรรค์ให้กับพนักงาน เช่น ฟิตเนส, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, บาร์ ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
- บริการ Co-Working Space รองรับการประชุม-แขกทางธุรกิจ ให้กับผู้เช่าใช้ฟรี
- มีที่จอดรถถึง 9 ชั้น และยังมี EV Charger สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย
ที่สำคัญ JLK Tower ยังขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่ให้ความสำคัญกับแนวคิด ESG
โดยการนำ Green Technology เข้ามายกระดับทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย เช่น
- การติดตั้ง Low-E Glass หรือกระจกกันความร้อนแบบการแผ่รังสีความร้อนต่ำ ช่วยประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายของออฟฟิศ
- การตรวจสอบคุณภาพอากาศ และการกรองอากาศอยู่เสมอ เพื่อป้องกันฝุ่น PM2.5 และ ฝุ่น PM10 การันตีอากาศที่สดชื่นและสะอาดให้ผู้เช่าทุกคน
- มีระบบ DOAS หรือระบบที่ใช้ปรับคุณภาพอากาศภายนอก เพื่อการควบคุมความชื้นภายในอาคาร ช่วยลดอุณหภูมิอากาศภายในอาคาร
- Universal Toilet & Shower ให้สำหรับทุกคน และคนพิการ
- ระบบตรวจสอบความปลอดภัยแบบ Ultra Modern พร้อมกับ CCTV และพนักงานดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
ที่น่าสนใจคือ JLK Tower กำลังอยู่ระหว่างการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED Gold (อาคารที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม) และ WELL Gold (สิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีต่อผู้ใช้อาคาร) นั่นเอง
ถึงตรงนี้คงเห็นแล้วว่า JLK Tower นั้นถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์เรื่อง Productivity อย่างจริงจัง
เพราะในยุคนี้ที่พนักงานกลายเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ตัดสินว่า ธุรกิจจะเติบโตต่อไปหรือไม่
หากเรามีออฟฟิศที่ช่วยให้พนักงานทำงานด้วยความสุข และมีประสิทธิภาพ ก็ดูเหมือนว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนไม่น้อยเลย
ซึ่งย่านนานาก็ไม่เพียงแต่จะตอบโจทย์ทั้งด้านความสะดวกสบายของการใช้ชีวิต แต่ยังเป็นจุดศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย รวมทั้งโอกาสสู่การเป็นย่าน CBD แห่งใหม่ของไทย..
สำหรับใครที่สนใจโครงการ JLK Tower สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3UeCIYr
หรือติดต่อ JLL โทร. 02-624-6471
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.