รายงานเศรษฐกิจดิจิทัลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฉบับล่าสุด (e-Conomy SEA 2024 Report) ที่จัดทำโดย Google, Temasek และ Bain & Company คาดว่าในปี 2567 เศรษฐกิจดิจิทัลไทย จะมีมูลค่าสินค้ารวม (GMV) ที่ 46,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.6 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้น 19% จากปีก่อน

โดยถือว่ามีขนาดใหญ่และเติบโตเร็วเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

-อีคอมเมิร์ซ
คาดว่าจะโตขึ้น 19% และมีมูลค่าสินค้ารวม 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 9.1 แสนล้านบาท ในปี 2567

ซึ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ มีส่วนสำคัญในการเติบโตนี้ โดยยังคงเดินหน้าเปิดตัวฟีเชอร์ใหม่ ๆ เช่น วิดีโอคอมเมิร์ซ โดยประสบการณ์การช็อปปิงแบบอินเทอร์แอกทีฟและคอนเทนต์วิดีโอที่น่าติดตาม ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคและกระตุ้นยอดขายออนไลน์ได้ดี

-การขนส่งและบริการส่งอาหารออนไลน์
คาดว่าขะโตขึ้น 6% และมีมูลค่าสินค้ารวมกันกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.4 แสนล้านบาท

การขนส่งกลับมาฟื้นตัวและอยู่ในระดับสูงกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาดใหญ่ โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของภาคการท่องเที่ยว
ส่วนบริการส่งอาหารออนไลน์ ยังคงเป็นภาคส่วนที่มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในเรื่องของการทำกำไร

-การท่องเที่ยวออนไลน์
เป็นภาคธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดในไทย โดยคาดว่าจะโตขึ้น 32% มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคฯ
และมีมูลค่าสินค้ารวมแตะ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.5 แสนล้านบาท

-สื่อออนไลน์ ซึ่งได้แก่ โฆษณา วิดีโอออนดีมานด์ เพลงออนดีมานด์ และเกม
เติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 7% โดยคาดว่ามูลค่าสินค้ารวมจะแตะ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.1 แสนล้านบาท

โดยได้รับแรงหนุนจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของดิจิทัลคอนเทนต์ เกม และบริการสตรีมมิงต่าง ๆ

-บริการด้านการเงินดิจิทัล (Digital Financial Services หรือ DFS)
การชำระเงินดิจิทัลโตขึ้น 5% และคาดว่าจะมีมูลค่าธุรกรรมรวม (Gross Transaction Value หรือ GTV) สูงถึง 141,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.9 ล้านล้านบาท

ในขณะที่บริการสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล คาดว่าจะมียอดคงค้างสินเชื่อ (Loan Book Balance) สูงถึง 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 4.9 แสนล้านบาท ในปี 2567 คิดเป็นอัตราการเติบโต 28% ซึ่งโตเร็วเป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในส่วนของเรื่อง AI นั้น กำลังพลิกโฉมภูมิทัศน์ดิจิทัลของประเทศไทย
โดยกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีความสนใจและความต้องการด้าน AI สูงที่สุด

และอุตสาหกรรมหลัก ที่มีความสนใจในการค้นหาเกี่ยวกับ AI ได้แก่
อันดับ 1 การศึกษา
อันดับ 2 เกม
อันดับ 3 การตลาด

นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังมีความต้องการแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีฟีเชอร์ AI ในการทำสิ่งต่าง ๆ เช่น การสร้างคอนเทนต์ เอฟเฟกต์ภาพถ่าย และการตัดต่อวิดีโอด้วย

ในขณะเดียวกัน ธุรกิจต่าง ๆ ก็กำลังใช้ประโยชน์จาก AI สำหรับการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย การสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล และการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่แก่ลูกค้า

AI กลายเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ รวมถึงการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า

ในส่วนของการลงทุนก็เพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในส่วนนี้
โดยในครึ่งแรกของปี 2567 การลงทุนเพื่อสร้าง Data Center ในประเทศไทย มีมูลค่าถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.1 แสนล้านบาท

ทำให้ความจุ (Capacity) ของ Data Center ที่วางแผนไว้ เพิ่มขึ้น 550% ซึ่งเติบโตมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้..

ที่มา : https://services.google.com/fh/files/misc/thailand_e_conomy_sea_2024_report.pdf