Blackstone จักรพรรดิแห่งการลงทุน ในสินทรัพย์ทางเลือก 38 ล้านล้าน /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจคุ้นชื่อ BlackRock บริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่สุดในโลก โดยเน้นการลงทุนในสินทรัพย์มหาชน อย่างเช่น หุ้น และพันธบัตร

แต่รู้ไหมว่า ยังมีบริษัทที่ชื่อคล้าย ๆ กันว่า Blackstone โดยบริษัทนี้จะเน้นการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น สินค้าโภคภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ บริษัทนอกตลาด (Private Equity)

โดยมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสูงถึง 38 ล้านล้านบาท ใหญ่กว่า GDP ประเทศไทย เท่าตัว

Blackstone มีแนวทางการลงทุนอย่างไร ถึงเติบโตมาสู่ระดับนี้ได้ ?
แล้ว Blackstone กับ BlackRock ที่ชื่อคล้ายกัน มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ซีอีโอของ Blackstone คือคุณ Stephen Schwarzman นักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งปัจจุบันอายุ 78 ปี ความจริงแล้ว เขาเรียนจบมหาวิทยาลัยในสาขาจิตวิทยาและสังคมวิทยา เพราะตอนเด็กไม่ค่อยชอบวิชาคณิตศาสตร์

แต่พอมีโอกาสทำงานที่บริษัทจัดการการลงทุนชื่อว่า Donaldson, Lufkin & Jenrette จึงเกิดความหลงใหลในเรื่องการวิเคราะห์งบการเงินและการลงทุนเป็นอย่างมาก

ต่อมาคุณ Schwarzman ได้ไปสัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง เพื่อรวบรวมข้อมูลมาจัดทำบทวิเคราะห์ว่า ควรซื้อหุ้นบริษัทนี้หรือไม่ แต่กลับไม่ค่อยได้ข้อมูลอะไรมากนัก เนื่องจากผู้บริหารเกรงกลัวจะผิดต่อกฎหมายเกี่ยวกับ การนำข้อมูลภายในมาใช้หาประโยชน์ในการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือ Insider Trading

เขาจึงไปเรียนต่อที่ Harvard Business School เพื่อศึกษาวิธีการประเมินมูลค่าธุรกิจในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยตัวเองแทน

หลังจากเรียนจบ คุณ Schwarzman ได้สมัครเข้าทำงานที่ Lehman Brothers บริษัทวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ และก้าวหน้าจนได้เป็นผู้บริหารด้านธุรกรรมการควบรวมกิจการ หรือ Mergers and Acquisitions (M&A)

เมื่อมีประสบการณ์มากพอแล้ว ในปี 1985 เขาตัดสินใจลาออกมาร่วมทุนกับคุณ Pete Peterson ซึ่งเป็นอดีตเจ้านาย ก่อตั้งบริษัทจัดการการลงทุนชื่อว่า “Blackstone” ด้วยเงินเริ่มต้นประมาณ 13 ล้านบาท

โดยคุณ Schwarzman เชื่อว่าบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ จะให้ข้อมูลเชิงลึกและติดตามได้ง่ายกว่าบริษัทมหาชนในตลาดหุ้น ที่มักจะมีประเด็น Insider Trading

เขาจึงวางกลยุทธ์หลักของ Blackstone ไปที่การลงทุน Private Equity ในลักษณะ Leveraged Buyout (LBO) ที่ใช้เงินกู้เป็นหลัก เพื่อสร้างผลตอบแทนส่วนของทุนให้สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกบริษัทยังไม่ค่อยมีชื่อเสียง ทำให้ระดมเงินทุนได้ยาก เลยทำธุรกิจที่ปรึกษาด้าน M&A ไปก่อน เพื่อสร้างเครดิตความน่าเชื่อถือ

โดยผลงานที่สร้างชื่อตอนแรก ๆ คือ การแนะนำบริษัทสื่อชั้นนำ CBS Corporation ขายธุรกิจค่ายเพลงให้แก่ Sony ในปี 1988

ส่งผลให้ต่อมา Blackstone สามารถระดมทุนมูลค่า 27,000 ล้านบาท มาจัดตั้งกองทุน Private Equity กองแรกได้สำเร็จ และพร้อมดำเนินการไล่ล่าธุรกิจที่น่าสนใจแล้ว

เรามาลองดูตัวอย่างดีลซื้อขาย Private Equity ที่โดดเด่นของ Blackstone

- ปี 2002 ร่วมกับพาร์ตเนอร์ซื้อกิจการ Houghton Mifflin บริษัทสื่อและเทคโนโลยีสิ่งพิมพ์ มูลค่า 43,000 ล้านบาท นับเป็นดีลใหญ่ครั้งแรกของวงการ หลังจากเกิดวิกฤติฟองสบู่ดอตคอมไม่กี่ปีก่อนหน้านั้น

- ปี 2005 ร่วมกับพาร์ตเนอร์ซื้อกิจการ SunGard บริษัท IT ด้านการเงินและการศึกษา มูลค่า 380,000 ล้านบาท นับเป็นดีล LBO ที่ใหญ่สุดของวงการเทคโนโลยีในเวลานั้น

- ปี 2007 ซื้อกิจการโรงแรม Hilton มูลค่า 875,000 ล้านบาท แม้ถัดมาจะเกิดวิกฤติซับไพรม์ขึ้น แต่ก็ปั้นธุรกิจให้ฟื้นตัว และนำเข้าสู่ตลาดหุ้นได้สำเร็จ

ซึ่ง Blackstone ขายหุ้น Hilton ออกไปทั้งหมดในปี 2018 ทำกำไรไม่น้อยกว่า 400,000 ล้านบาท นับเป็นหนึ่งในดีล LBO ที่มีกำไรสูงสุดของวงการเลยทีเดียว

- ปี 2018 ซื้อกิจการข้อมูลการเงินของ Thomson Reuters สัดส่วน 55% คิดเป็นมูลค่าธุรกิจที่ 675,000 ล้านบาท และตั้งเป็นบริษัทใหม่ชื่อว่า Refinitiv เพื่อพัฒนา แพลตฟอร์มการเงินแข่งกับ Bloomberg ซึ่งต่อมา ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ได้ขอซื้อ Refinitiv ไปในราคา 910,000 ล้านบาท

นอกจากนั้น Blackstone ยังขยายการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ ด้วย เช่น อสังหาริมทรัพย์ เครดิตและประกันภัย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จและมีมูลค่าการลงทุนสูงไม่แพ้ Private Equity เช่นกัน

ส่งผลให้ปัจจุบัน Blackstone ขึ้นแท่นกลายเป็นบริษัทจัดการการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือก ที่ใหญ่สุดในโลกไปแล้ว

โดยบริษัทจัดการการลงทุนสินทรัพย์ทางเลือก 3 อันดับแรกของโลก คือ
1. Blackstone มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) อยู่ 38.5 ล้านล้านบาท

2. Brookfield มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ อยู่ 34.2 ล้านล้านบาท

3. Hamilton Lane มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการ อยู่ 32.7 ล้านล้านบาท

ณ สิ้นปี 2024 มูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของ Blackstone แบ่งเป็น
- เครดิตและประกันภัย คิดเป็น 33.3% ของพอร์ต
- Private Equity คิดเป็น 31.2% ของพอร์ต
- อสังหาริมทรัพย์ คิดเป็น 28.0% ของพอร์ต
- สินทรัพย์อื่น ๆ คิดเป็น 7.5% ของพอร์ต

แล้วผลประกอบการของ Blackstone ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ?

- ปี 2023 รายได้ 274,100 ล้านบาท กำไร 83,500 ล้านบาท
- ปี 2024 รายได้ 451,900 ล้านบาท กำไร 185,800 ล้านบาท

ซึ่งสัดส่วนรายได้ทุก ๆ 100 บาทของบริษัท มาจาก
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ และค่าที่ปรึกษา (Management & Advisory Fees) ที่ 54.3 บาท
- ส่วนแบ่งจากผลกำไรของกองทุน (Performance Allocations) ที่ 28.9 บาท
- ค่าธรรมเนียมตามผลงาน (Incentive Fees) ที่ 7.3 บาท
- การลงทุนของบริษัทเอง (Principal Investments) ที่ 5.5 บาท
- รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล ที่ 3.1 บาท
- และอื่น ๆ 0.9 บาท

ทั้งนี้ บริษัท Blackstone จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก เมื่อปี 2007 ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ราว 5.5 ล้านล้านบาท

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คุณ Schwarzman ถูกประเมินว่ามีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 1.4 ล้านล้านบาท นับเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยอันดับ 33 ของโลก และยังถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการการลงทุนอีกด้วย..

ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ

BlackRock ที่ปัจจุบัน เป็นบริษัทจัดการการลงทุนที่ใหญ่สุดในโลก ซึ่งมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการสูงถึง 396 ล้านล้านบาท

แต่รู้ไหมว่า BlackRock นั้นเคยเป็นธุรกิจในเครือของ Blackstone มาก่อน

โดยในปี 1994 คุณ Schwarzman และคุณ Larry Fink (ปัจจุบันเป็นซีอีโอของ BlackRock) ได้ตัดสินใจแยกธุรกิจการลงทุนในสินทรัพย์ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อบ้านออกมา และตกลงกันว่าจะใช้ชื่อบริษัทที่มีความคล้ายคลึงกัน จนมาเป็นชื่อ BlackRock ในที่สุด

ซึ่ง BlackRock ก็ขยายนโยบายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ ในเวลาต่อมา

เท่ากับว่า BlackRock ที่พัฒนาเป็นผู้นำของธุรกิจจัดการการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วไปกับ Blackstone ที่เป็นผู้นำของธุรกิจจัดการการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก มีจุดเริ่มต้นมาจากคนคนเดียวกัน คือ คุณ Stephen Schwarzman นั่นเอง..

-----

ก้าวข้ามทุกความผันผวน พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนอย่างตรงเป้าหมาย กับกองทุน Eastspring Ultimate Global Allocation Series กองทุนที่เน้นกระจายลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายคุณภาพทั่วโลก โดยมีผู้เชี่ยวชาญปรับพอร์ตให้อัตโนมัติ (ระดับความเสี่ยงกองทุน 5) ลงทุนง่ายไม่มีขั้นต่ำ
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.ttbbank.com/link/fb/es-ultimate-ga

?? สนใจลงทุน คลิก https://www.ttbbank.com//ttb/touch/mf
? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ttb investment line 1428 กด #4 ทุกวัน จ.–ศ. เวลา 9:00–17:30 น. เวลา 9:00–17:30 น. (ยกเว้นวันหยุดธนาคาร)
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน