
สรุปโมเดลรถไฟเอกชนในญี่ปุ่น เป็นเจ้าของที่ดิน เส้นทาง และสถานีเอง จนทำกำไร 10,000 ล้าน
สรุปโมเดลรถไฟเอกชนในญี่ปุ่น เป็นเจ้าของที่ดิน เส้นทาง และสถานีเอง จนทำกำไร 10,000 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
ระบบรถไฟฟ้า อย่าง BTS, MRT หรือ Airport Rail Link
หลายคนคงรู้ดีว่ารถไฟฟ้าทั้ง 3 ระบบนี้ ต่างใช้ระบบสัมปทาน
ระบบรถไฟฟ้า อย่าง BTS, MRT หรือ Airport Rail Link
หลายคนคงรู้ดีว่ารถไฟฟ้าทั้ง 3 ระบบนี้ ต่างใช้ระบบสัมปทาน
โดยรัฐบาลจะให้สิทธิ์เอกชนเหล่านี้ในการก่อสร้าง หรือบริหารธุรกิจรถไฟฟ้า ภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 15 ปี, 30 ปี
แต่สำหรับเมืองใหญ่ ๆ ในประเทศญี่ปุ่น
นอกจากจะมีรถไฟ JR ซึ่งเป็นรถไฟทางไกลของรัฐบาลญี่ปุ่น
และรถไฟฟ้า Metro ประจำเมืองต่าง ๆ อย่าง โตเกียว หรือนาโกยะ แล้ว
นอกจากจะมีรถไฟ JR ซึ่งเป็นรถไฟทางไกลของรัฐบาลญี่ปุ่น
และรถไฟฟ้า Metro ประจำเมืองต่าง ๆ อย่าง โตเกียว หรือนาโกยะ แล้ว
ญี่ปุ่น ก็ยังมีผู้ให้บริการรายอื่น ซึ่งเป็นบริษัทรถไฟเอกชนขนาดใหญ่ มากถึง 15 รายทั่วประเทศ
ที่น่าสนใจคือ บริษัทรถไฟเอกชนในญี่ปุ่นนั้น สามารถบริหารพื้นที่ภายในระบบรางของตัวเองได้เต็มที่
เพราะบริษัทเดินรถเอกชนเหล่านี้ มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของรางรถไฟเอง
เป็นเจ้าของที่ดินเอง
และยังเป็นเจ้าของสถานีเอง
เพราะบริษัทเดินรถเอกชนเหล่านี้ มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของรางรถไฟเอง
เป็นเจ้าของที่ดินเอง
และยังเป็นเจ้าของสถานีเอง
แล้วทำไมโมเดลรถไฟเอกชนในญี่ปุ่น ถึงสามารถครอบครองที่ดิน เพื่อพัฒนารถไฟได้ โดยไม่ต้องไปขอสัมปทานจากรัฐบาล ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เรื่องนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปในสมัยยุคเมจิ ตั้งแต่ปี 1868
ในยุคนั้น รัฐบาลเมจิได้ทำการปฏิรูปที่ดิน สำหรับการปลูกข้าว หรือทำการเกษตร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เรื่องนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปในสมัยยุคเมจิ ตั้งแต่ปี 1868
ในยุคนั้น รัฐบาลเมจิได้ทำการปฏิรูปที่ดิน สำหรับการปลูกข้าว หรือทำการเกษตร
โดยออกโฉนดที่ดิน เพื่อให้ชาวนาหรือเกษตรกร ได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินจริง ๆ และมีสิทธิ์ในการจัดการที่ดินของตัวเองอย่างเต็มที่ เช่น นำไปปล่อยเช่า หรือนำไปขายได้อย่างอิสระ
แต่การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินเต็มรูปแบบ ก็ต้องแลกมากับการจ่ายภาษีที่ดินด้วย
ซึ่งในยุคเมจิ ก็ได้มีการปฏิรูประบบภาษีในประเทศ โดยจากเดิมชาวนาหรือเกษตรกร ต้องจ่ายภาษี ในรูปแบบข้าวหรือผลผลิตทางการเกษตร ก็ให้เปลี่ยนมาจ่ายในรูปแบบเงินตามแบบตะวันตก
กฎหมายภาษีในรัฐบาลเมจิ ข้อหลัก ๆ ก็คือ ใครที่ครอบครองที่ดิน จะถูกคิดภาษีถึงปีละ 3% ของมูลค่าที่ดิน โดยไม่สนใจว่าที่ดินที่ชาวนาครอบครองนั้น จะสามารถสร้างผลผลิตทางการเกษตร ได้มากน้อยแค่ไหน
ประกอบกับในยุคเมจิ ก็เป็นยุคสมัยที่ญี่ปุ่น ได้เริ่มเปลี่ยนผ่านจากประเทศเกษตรกรรม ไปเป็นประเทศอุตสาหกรรม จนทำให้เมืองต่าง ๆ เกิดการขยายตัวมากขึ้น
ดังนั้น เกษตรกรเจ้าของที่ดินจำนวนไม่น้อย จึงได้เลือกนำที่ดินไปขายให้กับกลุ่มพ่อค้า หรือนายทุน เพื่อให้ได้เงินจำนวนมาก แล้วก็ไปตั้งรกรากทำงานในเมืองใหญ่ ที่กำลังจะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ จากธุรกิจและอุตสาหกรรม
พอเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นตามภูมิภาคต่าง ๆ เริ่มเติบโต และมีประชากรเพิ่มมากขึ้น ทำให้ในเมืองเริ่มวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญต่าง ๆ อย่าง ถนนหนทาง ระบบสาธารณูปโภค
และเรื่องการพัฒนาระบบรางรถไฟ ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่รัฐบาลเมจิ ได้ให้ความสำคัญมาก ๆ กับการพัฒนาประเทศญี่ปุ่น
โดยญี่ปุ่น ได้นำเข้าวิทยาการและองค์ความรู้ เกี่ยวกับระบบรางจากประเทศอังกฤษ มาพัฒนาระบบรถไฟของประเทศ มาตั้งแต่ปี 1872 ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์ประเทศไทย ก็ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5
ต้องบอกว่า หัวเรี่ยวหัวแรงในการพัฒนาเส้นทางรถไฟญี่ปุ่นนั้น ไม่ใช่แค่รัฐบาลเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีภาคเอกชน ที่เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่เข้ามาเป็นหนึ่งในฟันเฟือง และมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบรางด้วย
กลุ่มธุรกิจที่ว่านั้น ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “กลุ่มทุนขนาดใหญ่” ที่เข้ามาซื้อที่ดินเป็นจำนวนมาก ต่อจากชาวนา หรือเกษตรกรนั่นเอง
โดยกลุ่มทุนเหล่านี้ สามารถกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านมาได้ในราคาถูกมาก เพราะตอนนั้นความเจริญจากในเมืองยังมาไม่ถึง
แถมชาวบ้านส่วนใหญ่ ก็ยังไม่รู้ว่าจะมีแผนการพัฒนารถไฟ หรือระบบโครงสร้างพื้นฐานจากรัฐบาลขึ้นในพื้นที่ของตน
และกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ หรือบริษัทรถไฟเอกชน ก็ได้รับสัมปทานจากรัฐบาล ในการก่อสร้างเส้นทางรถไฟที่กำหนด
แถมยังนำที่ดินบางส่วนที่ได้กว้านซื้อจากชาวบ้าน มาพัฒนาเป็นเส้นทางรถไฟ เพื่อให้เส้นทางรถไฟของทั้งประเทศ เกิดการเชื่อมต่อถึงกัน
จนกระทั่งในปี 1906 รัฐบาลได้ออกกฎหมาย “รถไฟแห่งชาติ” ทำให้เกิดการควบรวม และซื้อกิจการรถไฟสายหลักทั้งหมด 17 เส้นทาง มาเป็นของรัฐ พร้อมกับยกเลิกสัมปทานกับเอกชน
แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะไม่เหลือเส้นทางรถไฟของเอกชนเลยตั้งแต่ตอนนั้น เพราะเส้นทางรถไฟที่รัฐบาลได้ควบรวมกิจการ ล้วนเป็นรถไฟทางไกลที่วิ่งข้ามภูมิภาคต่าง ๆ
ส่วนสำหรับเส้นทางรถไฟชานเมือง ที่ไว้สำหรับรับส่งผู้คนจากในเมือง ไปยังนอกเมืองนั้น ก็ยังคงรอการพัฒนาอยู่
ซึ่งลักษณะของรถไฟแบบนี้ ก็จะคล้าย ๆ กับโมเดลรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ของกรุงเทพมหานคร ที่วิ่งจากบางซื่อ ไปรังสิต หรือตลิ่งชัน
โดยบริษัทเดินรถไฟเอกชน เจ้าของเส้นทางรถไฟชานเมืองเหล่านี้ ก็ได้กว้านซื้อที่ดินรอบ ๆ เมือง เพื่อรองรับการขยายตัวของเมืองไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น
- Tokyu Corporation ครอบครองที่ดินจำนวนมาก ในชานเมืองทางตะวันตกและทางใต้ของกรุงโตเกียว และบริเวณใกล้ ๆ กับเมืองโยโกฮามะ
- Hankyu ครอบครองที่ดินจำนวนมาก ในชานเมืองโอซากะ และระหว่างทางไปเมืองเกียวโต และโกเบ
- Meitetsu ครอบครองที่ดินจำนวนมาก ในชานเมืองนาโกยะ จังหวัดไอจิ และจังหวัดกิฟุ
- Nishitetsu ครอบครองที่ดินจำนวนมากทางตอนใต้ ของจังหวัดฟูกูโอกะ
และบริษัทเดินรถไฟเอกชนอื่น ๆ มากกว่า 10 ราย
ซึ่งต้องบอกว่า บริษัทรถไฟเอกชน ที่ครอบครองที่ดินเป็นจำนวนมากเหล่านี้ ก็ได้นำที่ดินไปพัฒนาเส้นทางรถไฟ และสถานีรถไฟเป็นของตัวเอง
โดยได้ขออนุญาตในการก่อสร้างสถานีรถไฟ และเส้นทางรถไฟต่าง ๆ จากรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อให้สามารถนำเส้นทางรถไฟของตัวเอง ไปเชื่อมกับศูนย์กลางของเมืองได้
และอีกจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่เริ่มทำให้รถไฟ มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก คือช่วงปี 1907 คุณอิจิโซ โคบายาชิ นักธุรกิจผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ผู้ก่อตั้งบริษัทเดินรถ Hankyu
เขาได้เสนอไอเดียว่า ถ้าอยากพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่มีประสิทธิภาพ และมีคนมาใช้บริการเยอะ ๆ ได้นั้น เราไม่ควรก่อสร้างเพียงแค่สถานีรถไฟขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว
แต่บริษัทผู้พัฒนา ก็ยังจำเป็นต้องวางโครงสร้างพื้นฐาน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
รอบเส้นทางรถไฟควบคู่ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น โครงการที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า สวนสนุก โรงแรม หรืออาคารสำนักงาน
รอบเส้นทางรถไฟควบคู่ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น โครงการที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า สวนสนุก โรงแรม หรืออาคารสำนักงาน
เมื่อมีโครงสร้างพื้นฐาน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็จะเอื้อให้สถานีรถไฟที่อยู่ใกล้ ๆ มีผู้ใช้บริการที่มากขึ้นตามไปด้วย
ซึ่งแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่รอบ ๆ สถานีนั้น เราเรียกว่าเป็นการพัฒนาในรูปแบบ Transit Oriented Development หรือ TOD
เส้นทางรถไฟสายแรก ที่เปิดให้บริการในรูปแบบ TOD ก็คือสาย Takarazuka Main Line ในปี 1910 โดยวิ่งจากสถานี Umeda ในเมืองโอซากะ ไปยังเมือง Takarazuka ที่อยู่ใกล้เคียง
ถือว่า TOD หรือโครงการพัฒนาที่ดินรอบ ๆ ทางรถไฟในลักษณะนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีคนมาใช้บริการรถไฟมากขึ้น และที่ดินโดยรอบก็มีราคาแพงขึ้นด้วย
และโมเดลการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟแบบนี้ ก็ได้กลายเป็นต้นแบบให้บริษัทเดินรถไฟเอกชนรายอื่น ๆ รวมถึงเส้นทางรถไฟของรัฐบาลญี่ปุ่นด้วย
การพัฒนาในรูปแบบ TOD ชัดเจนขึ้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือหลังปี 1945
หลาย ๆ เมืองในญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบจากสงคราม โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเมืองหลายอย่างถูกทำลาย
หลาย ๆ เมืองในญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบจากสงคราม โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเมืองหลายอย่างถูกทำลาย
แต่ญี่ปุ่นก็ใช้วิกฤตินี้เป็นโอกาส ในการจัดการที่ดินใหม่หลังช่วงสงครามโลก ด้วยการวางผังเมืองใหม่ และนำคอนเซปต์ของ TOD มาใช้ทั่วประเทศ
คือการวางเมือง ให้มีสถานีรถไฟหลักเป็นศูนย์กลาง แล้วให้สถานีรถไฟนั้น ล้อมรอบด้วยห้างสรรพสินค้า อาคารที่พักอาศัย และร้านค้าชุมชน
เท่านั้นยังไม่พอ ทั้งการรถไฟของรัฐบาลญี่ปุ่น (หรือกลุ่มบริษัท JR ในปัจจุบัน)
รวมถึงบริษัทรถไฟเอกชน ก็ยังได้ปรึกษาหารือ เพื่อวางแผนพัฒนาระบบรางร่วมกัน เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟได้ ภายในสถานีเดียวกันอย่างเป็นระบบ
รวมถึงบริษัทรถไฟเอกชน ก็ยังได้ปรึกษาหารือ เพื่อวางแผนพัฒนาระบบรางร่วมกัน เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟได้ ภายในสถานีเดียวกันอย่างเป็นระบบ
ทุกฝ่ายต่างเจรจาอย่างประนีประนอม โดยต่างฝ่ายต่างก็ได้รับส่วนแบ่งรายได้หรือผลประโยชน์ที่ลงตัว และประชาชน ก็จะได้รับความสะดวกสบายกับการเดินทาง และการใช้ชีวิตมากที่สุด
เราจะสังเกตเห็นว่าทุกวันนี้ ถ้าเราลองไปเที่ยวตามเมืองใหญ่ ๆ ของญี่ปุ่น อย่างโตเกียว โอซากะ นาโกยะ ซัปโปโระ หรือฟูกูโอกะ
เวลาเราจะเดินทางไปไหนมาไหน เราก็จะเลือกใช้ระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟเป็นที่แรก ๆ
โดยสถานีหลักของเมือง ก็จะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง รถไฟความเร็วสูงชิงกันเซ็ง รถไฟทางไกล รถไฟฟ้าใต้ดิน รถไฟชานเมืองของเอกชน รวมถึงเป็นจุดขึ้นรถบัส หรือรถเมล์ได้ในที่เดียวกัน
นอกจากสถานีรถไฟ จะเป็นฮับการคมนาคมขนาดใหญ่แล้ว
สถานีรถไฟ ก็ยังเป็นแหล่งร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า โรงแรม หรืออาคารสำนักงานรอบ ๆ ด้วย
สถานีรถไฟ ก็ยังเป็นแหล่งร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า โรงแรม หรืออาคารสำนักงานรอบ ๆ ด้วย
หากไม่นับรวมบริษัทรถไฟ JR และระบบรถไฟฟ้าใต้ดินที่รัฐบาลท้องถิ่นเป็นเจ้าของ
ปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่น มีบริษัทรถไฟเอกชนขนาดใหญ่ ที่คอยให้บริการระบบขนส่งมวลชนอยู่ 15 ราย กระจายอยู่ทั่วภูมิภาคต่าง ๆ อย่าง
- ในกรุงโตเกียว เมืองโยโกฮามะ เมืองชิบะ และปริมณฑล 8 ราย เช่น Tokyu, Tobu, Keio, Seibu, Odakyu
- ในเมืองโอซากะ เมืองเกียวโต เมืองโกเบ และปริมณฑล 5 ราย เช่น Nankai, Hankyu, Kintetsu
- ในเมืองนาโกยะ และปริมณฑล 1 ราย นั่นคือ Meitetsu
- ในเมืองฟูกูโอกะ และปริมณฑล 1 ราย นั่นคือ Nishitetsu
- ในเมืองโอซากะ เมืองเกียวโต เมืองโกเบ และปริมณฑล 5 ราย เช่น Nankai, Hankyu, Kintetsu
- ในเมืองนาโกยะ และปริมณฑล 1 ราย นั่นคือ Meitetsu
- ในเมืองฟูกูโอกะ และปริมณฑล 1 ราย นั่นคือ Nishitetsu
บริษัทผู้เดินรถไฟเอกชนขนาดใหญ่ทั้ง 15 ราย ต่างก็เป็นเจ้าของสถานีรถไฟ
และเป็นเจ้าของระบบรางรถไฟรวมกันกว่า 2,675 กิโลเมตร โดยไม่ต้องผ่านระบบสัมปทานจากภาครัฐ
และเป็นเจ้าของระบบรางรถไฟรวมกันกว่า 2,675 กิโลเมตร โดยไม่ต้องผ่านระบบสัมปทานจากภาครัฐ
เพราะบริษัทเหล่านี้ ได้ใช้ที่ดินของตัวเองที่ได้กว้านซื้อมานั้น พัฒนาระบบรางให้เป็นศูนย์กลางของเมือง ได้ร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อวางผังเมืองใหม่อย่างเป็นระบบ
และยังได้นำการพัฒนาพื้นที่สถานี ในรูปแบบ TOD มาใช้ด้วย
จึงทำให้บริษัทเดินรถไฟเอกชนเหล่านี้ ไม่ได้มีแค่รายได้จากค่าโดยสารเพียงอย่างเดียว
จึงทำให้บริษัทเดินรถไฟเอกชนเหล่านี้ ไม่ได้มีแค่รายได้จากค่าโดยสารเพียงอย่างเดียว
แต่ยังมีรายได้จากการปล่อยพื้นที่ให้ร้านค้าต่าง ๆ เช่าภายในสถานีรถไฟ รวมถึงรายได้จากค่าเช่าอาคารสำนักงาน โรงแรมโดยรอบ
แถมบางบริษัท ก็ยังหันไปทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง และอสังหาริมทรัพย์ อย่างเช่น ธุรกิจเดินรถบัส และธุรกิจก่อสร้าง
ทีนี้ เราลองไปดูรายได้และกำไร จากบริษัทเดินรถไฟเอกชนกัน
1. Tokyu Corporation ผู้ให้บริการรถไฟ 9 สาย ในชานเมืองโตเกียว
ผลประกอบการปีล่าสุด (เดือนเมษายน 2024 - มีนาคม 2025)
รายได้ 240,400 ล้านบาท
กำไร 18,200 ล้านบาท
รายได้ 240,400 ล้านบาท
กำไร 18,200 ล้านบาท
2. Nankai Electric Railway ผู้ให้บริการรถไฟชานเมืองโอซากะ และรถไฟเชื่อมสถานีคันไซ
ผลประกอบการปีล่าสุด (เดือนพฤษภาคม 2024 - เมษายน 2025)
รายได้ 59,400 ล้านบาท
กำไร 5,130 ล้านบาท
รายได้ 59,400 ล้านบาท
กำไร 5,130 ล้านบาท
3. Nagoya Railroad (Meitetsu) ผู้ให้บริการรถไฟชานเมืองหลายสาย
เชื่อมต่อเมืองโอซากะ เมืองนาโกยะ และสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ สนามบินหลักประจำเมืองนาโกยะ
เชื่อมต่อเมืองโอซากะ เมืองนาโกยะ และสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์ สนามบินหลักประจำเมืองนาโกยะ
ผลประกอบการปีล่าสุด (เดือนเมษายน 2024 - มีนาคม 2025)
รายได้ 157,400 ล้านบาท
กำไร 8,600 ล้านบาท
รายได้ 157,400 ล้านบาท
กำไร 8,600 ล้านบาท
4. Nishitetsu ผู้ให้บริการรถไฟชานเมืองในจังหวัดฟูกูโอกะ
ผลประกอบการปีล่าสุด (เดือนเมษายน 2024 - มีนาคม 2025)
รายได้ 101,100 ล้านบาท
กำไร 4,740 ล้านบาท
รายได้ 101,100 ล้านบาท
กำไร 4,740 ล้านบาท
ก็ต้องบอกว่า บริษัทเดินรถไฟเอกชนแทบทุกราย ไม่ได้มีรายได้ส่วนใหญ่ มาจากธุรกิจรถไฟ แต่จะมีรายได้หลัก ๆ มาจากธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกันด้วย อย่างในปีล่าสุด
- Nankai Electric Railway มีรายได้มาจากธุรกิจเดินรถไฟ คิดเป็น 37.2% ของรายได้ทั้งหมด
- Meitetsu มีรายได้มาจากธุรกิจเดินรถไฟ คิดเป็น 26.1% ของรายได้ทั้งหมด
- Meitetsu มีรายได้มาจากธุรกิจเดินรถไฟ คิดเป็น 26.1% ของรายได้ทั้งหมด
โดยสัดส่วนรายได้ที่เหลือ มาจากธุรกิจให้เช่าศูนย์การค้า โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง หรือธุรกิจเดินรถบัสอื่น ๆ ดังที่ได้กล่าวไปนั่นเอง
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษา ของโมเดลธุรกิจบริษัทเดินรถไฟเอกชนของญี่ปุ่น ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี
และสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทเอกชนเหล่านี้ ก็ไม่ได้มาจากธุรกิจเดินรถเพียงอย่างเดียว
แต่ยังมาจากธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบรางด้วยนั่นเอง..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-Fiscal Year Ended March 31, 2025 Financial Results Presentation for Investors Nagoya Railroad Co., Ltd.
-Nankai Group Integrated Report 2024
-Presentation for Investors for the year ended March, 2025, Tokyu Corporation
-https://www.nishitetsu.co.jp/en/ir/finance/highlight.html
แต่ยังมาจากธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบรางด้วยนั่นเอง..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-Fiscal Year Ended March 31, 2025 Financial Results Presentation for Investors Nagoya Railroad Co., Ltd.
-Nankai Group Integrated Report 2024
-Presentation for Investors for the year ended March, 2025, Tokyu Corporation
-https://www.nishitetsu.co.jp/en/ir/finance/highlight.html