2 หนุ่มอินเดีย สร้างธุรกิจร้านอาหาร 46,000 ล้าน โดยไม่มีหน้าร้าน

2 หนุ่มอินเดีย สร้างธุรกิจร้านอาหาร 46,000 ล้าน โดยไม่มีหน้าร้าน

2 หนุ่มอินเดีย สร้างธุรกิจร้านอาหาร 46,000 ล้าน โดยไม่มีหน้าร้าน /โดย ลงทุนแมน
เราจะให้มูลค่าธุรกิจร้านอาหาร ที่ไม่มีหน้าร้าน แต่มีแบรนด์มากกว่า 10 แบรนด์ในเครือเท่าไรดี
เก็บคำตอบไว้ในใจ แล้วลองมาเทียบกับมูลค่าที่นักลงทุนให้กับธุรกิจร้านอาหารอินเดีย ที่ชื่อว่า Rebel Foods
รู้ไหมว่า Rebel Foods ถูกประเมินมูลค่ากิจการมากถึง 46,000 ล้านบาท
ทำไมร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้าน ถึงมีมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของธุรกิจร้านอาหารนี้ เกิดขึ้นในปี 2011
โดยชายชาวอินเดีย 2 คน ที่ชื่อว่า Kallol Banerjee และ Jaydeep Barman
ทั้งคู่เริ่มต้นเปิดร้านอาหารจานด่วน Faasos ที่เน้นขาย Wrap & Roll ซึ่งทั้งคู่มีความฝันร่วมกันว่า ร้านนี้จะกลายเป็นเชนร้านอาหารที่เหมือน McDonald's เลยทีเดียว
Faasos เริ่มออกเมนูใหม่มาเรื่อย ๆ เช่น พิซซา
เพื่อกระจายความเสี่ยงรายได้ที่พึ่งพาแค่เมนู Wrap & Roll แค่อย่างเดียว
แต่ไม่ว่าเมนูในร้านจะเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน สุดท้ายเมนูที่ขายดีสุด ก็หนีไม่พ้น Wrap & Roll อยู่ดี
ทั้งคู่จึงตกผลึกได้ว่า จริง ๆ แล้วเชนร้านอาหารระดับโลก โดดเด่นแค่เมนูเดียวเท่านั้น เช่น Burger King ที่เด่นเรื่องเบอร์เกอร์ หรือ KFC ที่เด่นเรื่องไก่ทอดไปเลย
ดังนั้นเพื่อให้ Faasos ยังโดดเด่นเรื่อง Wrap & Roll ต่อไป
เมนูพิซซาเดิมจึงถูกแยกออกมาเป็นเชนร้านอาหารใหม่ที่ชื่อว่า Oven Story แทน
เวลาผ่านไป เชนร้านอาหาร Faasos และ Oven Story ประสบความสำเร็จทั้งคู่ โดยสามารถขยายสาขาออกไปในหลายเมืองของอินเดียอย่างต่อเนื่อง
แต่เมื่อการขยายสาขาเยอะขึ้น ก็แลกมาด้วยต้นทุนการจัดการที่สูงขึ้น ทั้งค่าเช่าที่ ค่าตกแต่งหน้าร้าน และค่าจ้างพนักงานที่เพิ่มขึ้นมาเป็นเงาตามตัว
ทั้งคู่เลยคิดว่า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป การขยายสาขาของพวกเขาคงเป็นไปช้ามาก แถมยังต้องมากังวลเรื่องต้นทุนการจัดการหน้าร้านที่มีความจุกจิกไปอีก
สุดท้ายเลยตัดสินใจที่จะปรับโมเดลธุรกิจร้านอาหารใหม่ โดยเน้นโมเดลแบบ Cloud Kitchen ที่มีแต่ครัวกลางไว้ปรุงอาหาร ไม่มีหน้าร้านให้นั่ง และเน้นขายทางออนไลน์แค่อย่างเดียว
ปี 2014 ทั้งคู่เปลี่ยนชื่อธุรกิจเป็น Rebel Foods ที่มีแบรนด์ Faasos และ Oven Story อยู่ในเครือ ก่อนจะแตกแบรนด์อื่น ๆ ออกมาอีกมากมาย ไล่ตั้งแต่
- Behrouz Biryani เน้นข้าวหมกบิรยานี
- Firangi Bake เน้นอาหารฟิวชันสไตล์อิตาลีและเม็กซิโก ให้ถูกปากชาวอินเดีย
- Lunch Box เน้นอาหารท้องถิ่นง่าย ๆ ตามสูตรต้นตำรับที่ชาวอินเดียคุ้นเคย
- Mandarin Oak เน้นอาหารจีน
- Sweet Truth เน้นของหวาน
- The Good Bowl เน้นอาหารชามเดียว
- The Biryani Life เน้นข้าวหมกแบบอาหารจานเดียว
โดยกว่าครึ่งหนึ่งของอาหารที่ Rebel Foods ทำออกมาจะจัดจำหน่ายผ่านช่องทางดิลิเวอรีอย่าง Zomato และ Swiggy ไปให้ลูกค้าในประเทศอินเดีย
ด้วยโมเดล Cloud Kitchen ทำให้ Rebel Foods หันมาโฟกัสกับการควบคุมคุณภาพอาหารแค่อย่างเดียว
และสามารถเพิ่มแบรนด์ หรือไลน์สินค้าได้มากมาย เพียงแค่ไล่จัดการระบบครัวกลางให้รองรับได้ แล้วเปิดตัวผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย โดยไม่ต้องไปไล่เปิดสาขาใหม่ ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่ามาก
ด้วยแนวทางนี้ ทำให้ Rebel Foods สามารถดึงดูดนักลงทุนหลายราย ให้ตบเท้าเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งการระดมทุนแต่ละรอบ นักลงทุนก็จะประเมินมูลค่ากิจการใหม่เรื่อย ๆ จนในปี 2021 มูลค่าของ Rebel Foods ก็แตะ 46,000 ล้านบาท
แต่คำถามคือ นอกจากโมเดล Cloud Kitchen และแบรนด์อาหารที่หลากหลายแล้ว
อะไรที่ทำให้ นักลงทุนให้มูลค่า Rebel Foods มากถึง 46,000 ล้านบาท ?
จริง ๆ ต้องบอกว่า Rebel Foods ไม่ได้เป็นแค่ร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้านอย่างเดียว แต่ยังพยายามนำเทคโนโลยีอัตโนมัติมาทำงานแทนเชฟในบางขั้นตอนอีกด้วย
นอกจากนี้ Rebel Foods ยังเอาความเชี่ยวชาญด้านการจัดการครัวที่มี ออกมาเป็น Rebel Launcher แพลตฟอร์มระบบบริหารจัดการครัวให้กับร้านอาหารต่าง ๆ
แถมปัจจุบัน Rebel Foods ก็ไม่ได้ทำธุรกิจแค่ในประเทศอินเดียอย่างเดียว แต่ยังขยายธุรกิจไปยังอีก 10 ประเทศในเอเชีย รวมถึงประเทศไทยอีกด้วย
และเพื่อลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มส่งอาหาร Rebel Foods
ตัดสินใจสร้างระบบส่งดิลิเวอรีเป็นของตนเองที่ชื่อว่า EatSure โดยรวมแบรนด์ทั้งหมดมาไว้ในที่เดียว
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ทำให้ร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้านนี้
สามารถมีมูลค่ากิจการระดับหมื่นล้านบาทได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า ผลประกอบการของ Rebel Foods ในช่วงที่ผ่านมาก็ยังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
ปี 2022
- รายได้ 3,277 ล้านบาท
- ขาดทุน 2,152 ล้านบาท
ปี 2023
- รายได้ 4,559 ล้านบาท
- ขาดทุน 2,503 ล้านบาท
ปี 2024
- รายได้ 5,848 ล้านบาท
- ขาดทุน 1,442 ล้านบาท
แม้รายได้เติบโตต่อเนื่อง แต่ก็ยังต้องติดตามกันต่อไปว่า Rebel Foods จะสามารถพลิกมาทำกำไรได้ตอนไหน
แต่ที่แน่ ๆ คือ 2 หนุ่มชาวอินเดียอย่าง Kallol Banerjee และ Jaydeep Barman ได้พิสูจน์แล้วว่า ธุรกิจร้านอาหารไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ก็สามารถยิ่งใหญ่ระดับหมื่นล้านบาทได้
โดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเคยไปนั่งกินที่ร้าน หรือไม่จำเป็นต้องรู้ว่าอาหารมื้อนี้ ปรุงจากที่ไหนเลยด้วยซ้ำ..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.rebelfoods.com/press-release/from-high-street-qsr-to-cloud-kitchen-unicorn-the-rebel-foods-story
-https://www.financialexpress.com/life/lifestyle-from-faasos-to-ovenstory-how-two-iim-alumni-built-rebel-foods-the-worlds-largest-internet-restaurant-company-with-1-4-billion-valuation-3183426/
-https://tracxn.com/d/companies/rebel-foods/__cjyo78a1ihN8rOBS4RjM2wrkvDig0GPc2K_EIN49VWI/funding-and-investors

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon