บทเรียน การหลุดกับดักรายได้ปานกลาง ของเกาหลีใต้

บทเรียน การหลุดกับดักรายได้ปานกลาง ของเกาหลีใต้

บทเรียน การหลุดกับดักรายได้ปานกลาง ของเกาหลีใต้ /โดย ลงทุนแมน
ย้อนกลับไปปี 1960 เกาหลีใต้และไทย เคยมีรายได้ต่อหัวพอ ๆ กัน และเป็นประเทศรายได้ต่ำเหมือนกัน
มาในวันนี้ เกาหลีใต้ ได้กลายเป็นกลุ่มประเทศรายได้สูงแล้ว ขณะที่ประเทศไทย แม้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางมาเกือบ 40 ปีแล้ว
เราสามารถเรียนรู้อะไร จากเกาหลีใต้ได้บ้าง ?
ไทยตามรอยเกาหลีใต้ เพื่อหลุดกับดักรายได้ปานกลาง ได้หรือไม่ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ตามหลักเกณฑ์ล่าสุดของ World Bank ได้แบ่งกลุ่มประเทศ ตามรายได้ประชาชาติ GNI per capita
ซึ่งหมายถึง รายได้ที่สร้างขึ้นโดยประชากรของประเทศนั้น ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก
- ประเทศรายได้ต่ำ
GNI per capita น้อยกว่า 41,000 บาทต่อปี
- ประเทศรายได้ปานกลางระดับล่าง
GNI per capita ช่วง 41,000-164,000 บาทต่อปี
- ประเทศรายได้ปานกลางระดับบน
GNI per capita ช่วง 164,000-500,000 บาทต่อปี
- ประเทศรายได้สูง
GNI per capita มากกว่า 500,000 บาทต่อปี
โดยประเทศไทยนั้นมี GNI per capita อยู่ที่ 230,000 บาทต่อปี ทำให้จัดอยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางระดับบน
ปี 1987 ประเทศไทยหลุดพ้นจากประเทศรายได้ต่ำ
ก้าวสู่ประเทศรายได้ปานกลางระดับล่าง
ปี 2011 ไทยก็สามารถไต่ระดับขึ้นมาสู่ประเทศรายได้ปานกลางระดับบน
ถ้าลองไล่ยุคของประเทศไทยแบบง่าย ๆ
- ยุคแรก ทำเกษตรเพื่อยังชีพ คนไทยส่วนใหญ่ทำเกษตรเพื่อกินเอง เหลือจึงค่อยแบ่งขาย
- ยุคที่สอง ทำเกษตรเพื่อการค้า ภาครัฐส่งเสริมการเพาะปลูกเชิงพาณิชย์ เช่น ข้าว ยางพารา ผลไม้ เพื่อส่งออก
- ยุคที่สาม อุตสาหกรรมโรงงาน ไทยกลายเป็นฐานการผลิตยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ มีโรงงานจากญี่ปุ่นมาลงทุน เช่น Honda, Toyota รวมถึงโรงงานประกอบชิ้นส่วนรองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้การส่งออกเติบโตอย่างรวดเร็ว
- ปัจจุบัน ประเทศไทยส่งเสริมด้านการเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยว โดยภาครัฐสนับสนุนด้าน Medical and Wellness Tourism เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวโลก
นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ถึงแม้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ประเทศไทยยังคงอยู่ในสถานะประเทศรายได้ปานกลาง มายาวนานเกือบ 40 ปีแล้ว
ซึ่งทาง World Bank นิยามปัญหานี้ ที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ว่า กับดักรายได้ปานกลาง หรือ Middle Income Trap
โดยจากการศึกษาของ World Bank
ประเทศต่าง ๆ จะเปลี่ยนผ่านจากรายได้ต่ำไปรายได้ปานกลาง ใช้เวลาราว 35 ปี
และการเปลี่ยนผ่านจากรายได้ปานกลางไปรายได้สูง ใช้เวลาราว 14 ปี
อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้พบว่า ตั้งแต่ปี 1990 มีเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น ที่สามารถเปลี่ยนผ่านจากรายได้ปานกลางไปรายได้สูง ตัวอย่างเช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ ไอร์แลนด์ ฟินแลนด์ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย
ประเทศเหล่านี้ทำอย่างไร เพื่อให้พ้นกับดักรายได้ปานกลาง ? เราสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้าง ?
เราลองมาดูตัวอย่างของเกาหลีใต้กัน
ปี 1950 เกาหลีใต้เผชิญกับสงครามเกาหลี
ประเทศเสียหายอย่างหนัก เศรษฐกิจแทบพังทลาย
เกาหลีใต้จึงเริ่มแผนฟื้นฟูประเทศ โดยวางแผนจะเปลี่ยนจากประเทศเกษตรกรรม ไปสู่ประเทศอุตสาหกรรม
โดยได้ตั้งตัวเป็นฐานการผลิตให้ต่างชาติ
เพราะค่าแรงงานเกาหลีใต้ในตอนนั้นอยู่ในระดับแข่งขันได้ ทำให้การส่งออกนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว
และยังทุ่มงบให้การวิจัยตั้งแต่อดีต ควบคู่กับการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ จากนั้นใช้วิธีศึกษาเทคโนโลยีเหล่านั้น
รวมถึงยังได้ให้การส่งเสริมภาคเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มทุนใหญ่ ที่เรียกว่า แชโบล อย่าง Samsung และ Hyundai ทั้งแหล่งเงินทุน และสิทธิพิเศษในการลงทุนต่าง ๆ เพื่อต่อยอดสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในอนาคต
จนเปลี่ยนจากประเทศนำเข้า กลายเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าเทคโนโลยีของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์โรงงาน รถยนต์ ชิ้นส่วนเรือ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน
Samsung กลายเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ รายใหญ่ที่สุดในโลก เป็นผู้นำตลาดสมาร์ตโฟน เป็นแบรนด์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่รู้จักไปทั่วโลก
โดยมีรายได้ของกลุ่มปี 2024 คิดเป็นสัดส่วนถึง 13% ต่อ GDP เกาหลีใต้
Hyundai ที่มีจุดเริ่มต้นจากธุรกิจก่อสร้าง มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูประเทศหลังภาวะสงครามสิ้นสุดลง ผู้อยู่เบื้องหลังโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ
ต่อมาจึงเริ่มขยับไปสู่การผลิตรถยนต์ร่วมกับ Ford พัฒนาต่อยอดจนสามารถผลิตรถยนต์แบรนด์ตัวเองได้
ปัจจุบัน Hyundai ติดอันดับ Top 5 ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก มีบริษัทในเครือ เช่น Kia และ Hyundai Mobis ที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ และการจ้างงานภายในประเทศ
นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยเน้นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี (STEM) ที่เป็นองค์ความรู้สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศ
และยังเป็นประเทศ ที่มีอัตราการศึกษาจบมหาวิทยาลัยของประชากรสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ คือ การส่งเสริม Soft Power จากดนตรีและซีรีส์ กลายเป็น วัฒนธรรมส่งออกระดับโลก ทั้ง K-pop, K-drama และ K-fashion
แถมยังเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันสินค้าและบริการของเกาหลีใต้สู่ตลาดโลกอีกด้วย
ถึงตรงนี้จะเห็นว่า เกาหลีใต้และไทยคล้ายกันตรงที่ เป็นประเทศเกษตรกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อน
หลังจากนั้น เปลี่ยนเป็นประเทศที่พึ่งพาภาคอุตสาหกรรม
รวมถึงการรับจ้างผลิต
แต่สิ่งที่ต่างไปคือ การศึกษาวิจัย เพื่อมาต่อยอดกับบริษัทภายในประเทศ เปลี่ยนจากผู้รับจ้าง กลายเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยี สร้างแบรนด์ของประเทศ แล้วส่งออกไปแทน
ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าขาดวิสัยทัศน์ของภาครัฐ ที่พร้อมสนับสนุนภาคเอกชน ในการต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมมูลค่าสูง รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้วัฒนธรรมของประเทศ
ที่เป็นหัวใจสำคัญ ช่วยให้เกาหลีใต้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางมาได้
สำหรับประเทศไทย บทเรียนจากเกาหลีใต้ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนได้อย่างดีว่า
ไทยก็สามารถก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางได้เช่นกัน
แต่ขึ้นอยู่กับว่า เราพร้อมที่จะยอมรับ เรียนรู้ และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นหรือไม่
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon