
IF แบรนด์น้ำมะพร้าวไทย IPO ตลาดหุ้นฮ่องกง ราคาหุ้นพุ่ง 60% มูลค่าบริษัท 43,000 ล้าน ใกล้เคียง OSP
IF แบรนด์น้ำมะพร้าวไทย หมื่นล้าน ที่บุกจีน จนครองตลาดเบอร์ 1 ได้สำเร็จ / โดย ลงทุนแมน
ในวันที่แบรนด์จีนมากมายบุกตลาดไทย
IF คือแบรนด์น้ำมะพร้าวไทย ที่เลือกบุกกลับตลาดจีน
จนตอนนี้ครองตลาดอันดับ 1 ไปแล้ว
ในวันที่แบรนด์จีนมากมายบุกตลาดไทย
IF คือแบรนด์น้ำมะพร้าวไทย ที่เลือกบุกกลับตลาดจีน
จนตอนนี้ครองตลาดอันดับ 1 ไปแล้ว
ซึ่งไม่ใช่แค่น้ำมะพร้าวไทย ที่ครองตลาดในจีนเท่านั้น
แต่มะพร้าวสดจากไทย ยังครองตลาดระดับโลกอีกด้วย
แต่มะพร้าวสดจากไทย ยังครองตลาดระดับโลกอีกด้วย
ทั้งเนื้อมะพร้าว ที่ไทยส่งออกเป็นอันดับ 2 ของโลก
และมะพร้าวน้ำหอมทั้งลูกจากไทย ถูกส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก
และมะพร้าวน้ำหอมทั้งลูกจากไทย ถูกส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก
โดย IF สามารถนำมะพร้าวตรงนี้มาแปรรูป จนสร้างรายได้ 5,000 ล้านบาทในปีที่แล้ว และทำให้มูลค่าบริษัทของตัวเอง ทะลุหลักหมื่นล้านบาทไปเป็นที่เรียบร้อย
เรื่องราวของ IF น่าสนใจแค่ไหน ?
อะไรทำให้บริษัทมาไกลได้ขนาดนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
อะไรทำให้บริษัทมาไกลได้ขนาดนี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
น้ำมะพร้าว ไม่ใช่ตลาดที่ง่ายเลยในระดับโลก เพราะแม้แต่ Coca-Cola บริษัทน้ำอัดลมชื่อดัง ยังต้องยอมแพ้กับการเข้าไปบุกตลาดนี้มาแล้วกับแบรนด์ Zico
แม้ตลาดนี้ดูปราบเซียนแค่ไหน แต่น้ำมะพร้าวก็เป็นตลาดที่น่าสนใจ ที่ทำให้ธุรกิจเครื่องดื่มลงไปเล่น เพราะมีแนวโน้มการเติบโตสูงกว่าตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ทั้งหมด
โดยในปี 2024-2029 ตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 6.1%
แต่ตลาดน้ำมะพร้าว ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 11% เลยทีเดียว
แต่ตลาดน้ำมะพร้าว ถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 11% เลยทีเดียว
สำหรับตลาดน้ำมะพร้าวที่กำลังเติบโตต่อเนื่องในปัจจุบัน
ก็คือ ตลาดอเมริกาเหนือและจีน
ก็คือ ตลาดอเมริกาเหนือและจีน
ในฝั่งตลาดจีน IF เริ่มเข้าไปบุกตลาดตั้งแต่ปี 2017 ก่อนจะแตกแบรนด์น้ำมะพร้าวพรีเมียม INNOCOCO ออกมาเพิ่มเติมในปี 2022
IF ทำการตลาดผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Douyin ที่คล้าย TikTok และ Xiaohongshu แพลตฟอร์มไลฟ์สไตล์ยอดนิยมในหมู่วัยรุ่นคนจีนตอนนี้
รวมถึงการดึง Xiao Zhan นักแสดงและดาราชื่อดังของวงการบันเทิงจีน มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์น้ำมะพร้าวของตัวเองอีกด้วย
จนปัจจุบัน IF สามารถครองตลาดน้ำมะพร้าวอันดับ 1 ในจีนได้สำเร็จ และทำให้ผลประกอบการของบริษัท IFBH เจ้าของแบรนด์ IF และ INNOCOCO เติบโตต่อเนื่องด้วย
ปี 2023
- รายได้ 2,837 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ 521 ล้านบาท
- รายได้ 2,837 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ 521 ล้านบาท
ปี 2024
- รายได้ 5,119 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ 1,076 ล้านบาท
- รายได้ 5,119 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ 1,076 ล้านบาท
จะเห็นว่าที่น่าสนใจ ไม่ใช่แค่รายได้และกำไร ที่เติบโตสูงเท่านั้น แต่บริษัทยังสามารถทำอัตรากำไรสุทธิได้ราว 20% ของรายได้ทั้งหมดที่ทำได้ ซึ่งเรียกได้ว่าสูงมาก
ที่บอกว่าสูงมาก ก็เพราะว่าถ้าเราไปเทียบกับ Vita Coco บริษัทน้ำมะพร้าวที่ใหญ่สุดของโลก สามารถทำอัตรากำไรสุทธิได้แค่ 11% เท่านั้น
ซึ่งสาเหตุที่ IFBH ทำกำไรได้สูงขนาดนี้ เพราะบริษัทไม่ได้มีโรงงานผลิตและแปรรูปน้ำมะพร้าวของตัวเอง ทำให้มีความยืดหยุ่นในการควบคุมต้นทุนการผลิตสูงมาก
แถมบริษัทยังควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้ดี เพราะค่าใช้จ่ายตรงนี้ คิดเป็นเพียง 10% ของรายได้ทั้งหมดที่บริษัททำได้
ซึ่งน้อยกว่า Vita Coco ที่มีค่าใช้จ่ายตรงนี้คิดเป็น 24% ของรายได้ทั้งหมดที่ทำได้ แปลว่า IFBH สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีกว่ามาก
แต่ก็ไม่ได้แปลว่า Vita Coco เป็นรอง เพราะปัจจุบัน บริษัทน้ำมะพร้าวเจ้านี้ เป็นเจ้าตลาดเบอร์ 1 ในสหรัฐอเมริกา พร้อมสามารถขยายไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือ
ซึ่งในปีที่แล้ว Vita Coco สามารถทำรายได้ 16,000 ล้านบาท สูงกว่า IFBH เจ้าของแบรนด์น้ำมะพร้าว IF และ INNOCOCO ที่ทำรายได้ปีที่แล้วราว 5,000 ล้านบาท
และไม่ใช่แค่รายได้ที่มากกว่าเท่านั้น แต่ Vita Coco ก็ได้ เข้ามาบุกตลาดน้ำมะพร้าวในจีนแล้ว
ซึ่งแปลว่า น้ำมะพร้าว IF กำลังเจอคู่แข่งที่ตัวใหญ่กว่า
ในการเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดในจีนมากขึ้น
ในการเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดในจีนมากขึ้น
และนอกจากคู่แข่งอย่าง Vita Coco แล้ว ยังมีคู่แข่งเจ้าอื่น เช่น Jiaguoyuan และ Qingshang ที่พยายามเข้ามาแย่งรายได้ในตลาดจีนอีกด้วย
เมื่อผู้เล่นในตลาดมากขึ้น ตอนนี้ตลาดน้ำมะพร้าวในจีน ไม่ต่างอะไรกับทะเลเลือด เพราะกำลังแข่งขันสงครามราคาระหว่างกัน เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่ามากที่สุด
แต่ความเสี่ยงของน้ำมะพร้าว IF และ INNOCOCO ไม่ได้มีแค่การแข่งขันที่ดุเดือดแค่นั้น เพราะยังต้องรับมือกับปัญหาภัยแล้งในไทย ที่ส่งผลให้ผลผลิตมะพร้าวผันผวนได้
แม้ไม่ได้มีโรงงานผลิตและแปรรูปมะพร้าวของตัวเอง
แต่การที่ผลผลิตมะพร้าวลดลง ก็อาจกระทบกับต้นทุนการผลิตของโรงงานซัปพลายเออร์อีกทางหนึ่งแทน
แต่การที่ผลผลิตมะพร้าวลดลง ก็อาจกระทบกับต้นทุนการผลิตของโรงงานซัปพลายเออร์อีกทางหนึ่งแทน
ถึงตรงนี้ ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า IFBH บริษัทเจ้าของแบรนด์น้ำมะพร้าว IF และ INNOCOCO จะสามารถยืนหยัดต่อการแข่งขันในตลาดจีนได้มากแค่ไหน
ซึ่งปัจจุบัน บริษัทไม่ได้มีแค่การขายน้ำมะพร้าวเท่านั้น เพราะตอนนี้รายได้ราว 4% ของทั้งหมด มาจากเครื่องดื่มอื่น ๆ รวมไปถึงขนมขบเคี้ยวที่ทำจากพืชเป็นหลักมากขึ้น
แต่ที่แน่ ๆ คือ IF กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ไทย ที่สามารถบุกตลาดจีนได้สำเร็จ ในวันที่แบรนด์จีน เข้ามาบุกตลาดไทย ในช่วงที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง
และทำให้มะพร้าวไทย ไม่ใช่ครองตลาดระดับโลกแค่แบบมะพร้าวทั้งลูกเท่านั้น แต่ยังแปรรูปให้มีมูลค่าสูงขึ้นได้ ด้วยน้ำมะพร้าวที่ครองใจคนจีนไปแล้วในตอนนี้..
(อัปเดต) วันนี้บริษัท IFBH เจ้าของแบรนด์ IF และ INNOCOCO เปิดซื้อขายหุ้น IPO เป็นวันแรกในตลาดหุ้นฮ่องกง
ซึ่งราคาหุ้นพุ่งขึ้น 57.9% ทันที มีค่า P/E อยู่ที่ 40 เท่า
และทำให้มีมูลค่าบริษัทเป็น 43,000 ล้านบาท
และทำให้มีมูลค่าบริษัทเป็น 43,000 ล้านบาท
ใกล้เคียงกับมูลค่าบริษัทของ OSP หรือ โอสถสภา บริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ของไทย ซึ่งมีค่า P/E ราว ๆ 21 เท่า..