JBL แบรนด์ลำโพงระดับโลก สัญชาติอเมริกัน ที่อยู่ภายใต้ปีก Samsung /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงแบรนด์เครื่องเสียงที่ต้องมีเกือบทุกบ้าน ทั้งนักฟัง และนักดนตรีรู้จักกันเป็นอย่างดี
หนึ่งในนั้นต้องมีลำโพง JBL อยู่อย่างแน่นอน แบรนด์เก่าแก่ที่อยู่กับวงการเครื่องเสียงมานานกว่า 79 ปี

JBL เป็นลำโพงพกพาเสียงดี ใช้งานง่าย ทนทาน ฟังได้ทุกที่ ทั้งในบ้านหรือพกไปเที่ยว เป็นของคู่ใจใครหลายคน

แต่รู้ไหมว่า เบื้องหลังแบรนด์อเมริกันในปัจจุบันนี้ คือบริษัทใหญ่จากเกาหลีใต้อย่าง Samsung ที่เข้ามาเป็นเจ้าของ และขยายตลาดให้ JBL ไปทั่วโลก

ทำไม JBL ถึงน่าสนใจ
แล้ว JBL อยู่ภายใต้ Samsung ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นของ JBL มาจากคุณ James Bullough Lansing วิศวกรผู้หลงใหลในเทคโนโลยีเสียง
เขาเริ่มสร้างลำโพงตั้งแต่วัยรุ่น และก่อตั้งบริษัท Lansing Manufacturing Company ในปี 1927 ที่ลอสแอนเจลิส

โดยที่คุณ Lansing ดูแลด้านการออกแบบลำโพง และหุ้นส่วนอย่างคุณ Decker รับผิดชอบเรื่องธุรกิจ
ทั้งคู่ร่วมมือกับ MGM เพื่อพัฒนาระบบเสียงโรงหนังชื่อดัง ทำให้บริษัทเป็นที่รู้จัก

แต่เมื่อคุณ Decker เสียชีวิตในปี 1939 บริษัทก็เริ่มเจอปัญหาทางการเงินอย่างหนัก

ในปี 1941 บริษัท Lansing Manufacturing ถูกซื้อโดยบริษัท Altec Service Corporation และเปลี่ยนชื่อเป็น Altec Lansing

หลังจากผ่านช่วงเวลายากลำบาก และสูญเสียบริษัทแรกให้กับ Altec Lansing
คุณ Lansing จึงก่อตั้งบริษัทใหม่ในปี 1946 ภายใต้ชื่อ James B. Lansing Sound Inc.

ซึ่งชื่อ JBL คือตัวย่อชื่อของเขานั่นเอง ก่อนที่ต่อมาจะกลายเป็นโลโกแบรนด์ที่คุ้นตาคนทั่วโลก

กระทั่งในปี 1969 JBL ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Harman International บริษัทผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีเสียงที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1953 และคร่ำหวอดในนวัตกรรมเสียงมานาน

การเข้ามาของ Harman International ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ JBL ทั้งในด้านเงินทุน การพัฒนาเทคโนโลยี และเครือข่ายการตลาด ทำให้ JBL สามารถขยายธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว

ตัวอย่างความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ
- ปี 1969 JBL เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่เบื้องหลังงาน Woodstock เทศกาลดนตรีระดับตำนาน
- ปี 1996 JBL จับมือกับ Toyota พัฒนาระบบเสียงในรถยนต์

ต่อมาในปี 2017 Samsung Electronics ได้เข้าซื้อ Harman International ด้วยมูลค่า 2.6 แสนล้านบาท
ทำให้ JBL กลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Samsung ไปโดยปริยาย

ซึ่งนอกจาก JBL แล้ว Samsumg ยังเป็นเจ้าของแบรนด์อุปกรณ์เครื่องเสียงชื่อดังมากมาย เช่น Crown, dbx, Harman Kardon, Infinity, Lexicon, Mark Levinson, Revel และ Soundcraft ผ่านบริษัท Harman International

โดย Samsung ช่วยสนับสนุน Harman International ในหลายด้านหลัก ๆ เช่น

1. เงินทุน และทรัพยากร
ทำให้มีงบประมาณมากขึ้นสำหรับการวิจัยและพัฒนา รวมถึงขยายธุรกิจ

2. เทคโนโลยี และนวัตกรรม
Samsung นำเทคโนโลยีขั้นสูงในสายอิเล็กทรอนิกส์ และ IoT มาช่วย Harman International พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างระบบเสียงอัจฉริยะ และการเชื่อมต่อในรถยนต์

3. เครือข่ายตลาด และลูกค้า
การมี Samsung เป็นแม่ทัพ ทำให้ Harman International เข้าถึงตลาด และพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกได้ง่ายขึ้น

4. การขยายเข้าสู่ตลาดใหม่
Samsung ช่วยให้ Harman International ขยายฐานตลาดไปยังรถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

5. การจัดการ และบริหาร
Samsung นำประสบการณ์ และมาตรฐานการบริหารองค์กรระดับโลก มาช่วยปรับปรุงการจัดการภายในของ Harman International ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งหมดนี้ทำให้แบรนด์ JBL ได้รับผลประโยชน์เต็ม ๆ จนมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และแบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับโลก

ซึ่งมีรายงานว่า ปี 2022 JBL มียอดขายหูฟังสะสม มากกว่า 200 ล้านชิ้นทั่วโลก และมียอดขายลำโพงพกพา สะสมทะลุ 100 ล้านชิ้น

ทุกวันนี้ JBL เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องเสียงที่มียอดขายสูงติดท็อป ๆ ของโลก ร่วมกับแบรนด์ใหญ่ อย่าง Sony, Bose และ Apple เป็นต้น

ส่วนภาพรวมด้านการเงินของ Harman International เจ้าของแบรนด์ JBL

ผลกำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit)
ปี 2021 : 13,418 ล้านบาท
ปี 2022 : 21,120 ล้านบาท
ปี 2023 : 28,080 ล้านบาท
ปี 2024 : 31,200 ล้านบาท

แสดงให้เห็นว่ากำไรของ Harman International เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี สะท้อนถึงการเติบโต และความแข็งแกร่งของบริษัท

ทีนี้เราลองมาดูบริษัทแม่อย่าง Samsung Electronics กันบ้าง
ด้านกำไรจากการดำเนินงานของ Samsung Electronics (รวมทุกกลุ่มธุรกิจ)

ปี 2024 กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) ทั้งปีสูงถึง 778,900 ล้านบาท

หรือก็คือ กำไรจากการดำเนินงานของบริษัท Harman International ในปี 2024 คิดเป็นประมาณ 4% ของกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมดของ Samsung

แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ ในอาณาจักรเทคโนโลยีระดับโลกของบริษัทแม่อย่าง Samsung
แต่ก็ถือว่าธุรกิจยังมีแนวโน้มเติบโตสูง และมีกำไรต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดระบบเสียง

ถ้าลองย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นในเส้นทางธุรกิจของผู้ก่อตั้ง JBL ในปี 1927 จะเห็นว่าการสร้างธุรกิจไม่เคยง่ายเลย ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย

ทั้งการสูญเสียหุ้นส่วนคนสำคัญ ปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ไปจนถึงการถ่ายโอนกิจการให้คนอื่น

อย่างไรก็ตาม ผ่านมาเกือบ 100 ปี ตอนนี้ JBL ไม่ได้เป็นแค่ลำโพงแบรนด์เล็ก ๆ อีกต่อไปแล้ว

เพราะอยู่ภายใต้การดูแลของ Harman International และกลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Samsung

เรื่องราวของ JBL คือบทพิสูจน์ว่า แบรนด์ที่แข็งแกร่งไม่ได้เกิดขึ้นแค่เพราะมีสินค้าที่ดีเพียงอย่างเดียว

แต่เกิดจากการมีหุ้นส่วนหรือพาร์ตเนอร์ที่ใช่ และช่วยกันส่งเสริมจุดแข็งทางธุรกิจให้แก่กัน

จากลำโพงโรงหนัง วิทยุรถยนต์ จนถึงลำโพงบลูทูท JBL คือภาพสะท้อนของแบรนด์ที่รู้จักเติบโต และเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

และมี Samsung เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่ช่วยให้ JBL กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องเสียงระดับโลกอย่างทุกวันนี้..