
Tesla รายได้ กำไรวูบ ทำหุ้นร่วง -4% แม้อีลอน จะไม่ยุ่งกับทรัมป์แล้ว
Tesla รายได้ กำไรวูบ ทำหุ้นร่วง -4% แม้อีลอน จะไม่ยุ่งกับทรัมป์แล้ว /โดย ลงทุนแมน
Tesla ได้ประกาศผลประกอบการ Q2/2025 (เม.ย. - มิ.ย. 2025)
Tesla ได้ประกาศผลประกอบการ Q2/2025 (เม.ย. - มิ.ย. 2025)
ซึ่งทั้งรายได้และกำไร ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ทั้งหมด
- รายได้ 723,246 ล้านบาท ลดลง 11.8% จากปีก่อนหน้า
- กำไร 44,785 ล้านบาท ลดลง 23.1% จากปีก่อนหน้า
- กำไร 44,785 ล้านบาท ลดลง 23.1% จากปีก่อนหน้า
โดยถ้าหากแยกรายได้ออกเป็น Segment
- ธุรกิจรถยนต์
รายได้ 535,651 ล้านบาท ลดลง 16%
รายได้ 535,651 ล้านบาท ลดลง 16%
โดยรายได้ส่วนนี้มาจากการจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ Tesla ทั้งหมด
- ธุรกิจพลังงาน
รายได้ 89,666 ล้านบาท ลดลง 7%
รายได้ 89,666 ล้านบาท ลดลง 7%
รายได้ส่วนนี้ มาจากผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและกักเก็บพลังงานอย่างเช่น Solar Roof ไปจนถึงแบตเตอรี่ Powerwall และ Megapack
- ธุรกิจบริการและอื่น ๆ
รายได้ 97,929 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%
รายได้ 97,929 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%
รายได้ส่วนนี้ มาจากการขายรถมือสอง หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ เช่น ค่าบริการซ่อมรถที่ไม่ได้อยู่ในประกัน ค่าอะไหล่ รายได้จากการใช้ Supercharging แบบมีค่าใช้จ่าย รายได้จากบริการประกันภัย และการขายสินค้าปลีก
ในไตรมาสนี้ Tesla มีการส่งมอบรถยนต์ไปทั้งสิ้น 384,122 คัน ลดลงกว่า 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
โดยถือว่าลดลงในทุก Model
โดยถือว่าลดลงในทุก Model
ขณะที่ Tesla รายงานว่า บริษัทสูญเสียรายได้จากเครดิตทางสิ่งแวดล้อม (Auto Regulatory Credits) ไปกว่าครึ่งจากปีก่อนหน้า
ซึ่งเหตุผลเบื้องหลังการลดลงของรายได้นี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่อีลอน มัสก์ CEO ของบริษัท เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารงานของรัฐบาลสหรัฐฯ
โดยแม้ในระยะหลังนี้ อีลอน และทรัมป์ จะแตกคอกัน จนทำให้มัสก์ ตัดสินใจไปก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ของตัวเอง ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ส่งผลบวกต่อ Tesla เท่าไรนัก
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ส่งผลบวกต่อ Tesla เท่าไรนัก
ขณะที่ Tesla ยังต้องเผชิญการแข่งขันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะจากบรรดาค่ายรถ EV จากจีน ที่มีการทำสงครามราคาอย่างรุนแรง
รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกตอนนี้ ที่ไม่เอื้อต่อการใช้จ่ายเท่าไร
นอกจากนี้ CFO ของ Tesla ยังเปิดเผยว่า กฎหมาย Big Beautiful Bill ที่เพึ่งผ่านในสภาคองเกรสนั้น จะกระทบต่อธุรกิจของ Tesla เป็นอย่างมาก เพราะมีการยกเลิกเครดิตภาษีสำหรับรถ EV
ซึ่งอีลอน คาดหวังว่าธุรกิจ Robotaxi รวมถึงหุ่นยนต์ Humanoid จะมาสร้าง New S-Curve ให้กับ Tesla
อย่างไรก็ตาม Robotaxi ของ Tesla นั้น ยังถือว่าไล่ตามคู่แข่งอย่าง Waymo ของ Alphabet อยู่พอสมควร
ขณะที่หุ่นยนต์ Humanoid อย่าง Optimus ก็ยังคงอยู่ระหว่างการพัฒนา และอาจต้องเผชิญการแข่งขันที่ดุเดือดอีกเช่นกัน
เพราะในตอนนี้ มีบริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมาก ทั้งจากสหรัฐฯ และจีน แสดงออกชัดเจนว่ากำลังสนใจอุตสาหกรรม Humanoid นี้ และหลายเจ้ากำลังซุ่มพัฒนาอยู่เช่นกัน
ด้วยผลประกอบการที่แย่ลง การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น รวมถึงความไม่แน่นอนต่าง ๆ ที่ Tesla ต้องเผชิญ..
ทำให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลงกว่า -4% ในช่วงซื้อขายหลังตลาดปิด (After Hours)..