CP Axtra เจ้าของ Makro Lotus's ทำอย่างไร ถึงมีรายได้จากอีคอมเมิร์ซ ในปี 2024 ที่ 127,000 ล้านบาท /โดย ลงทุนแมน
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก Makro และ Lotus's เพราะเป็นห้างค้าปลีก-ค้าส่ง ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน

แต่ปัจจุบัน ทั้งคู่ไม่ได้เป็นแค่ห้างค้าปลีก-ค้าส่งแค่อย่างเดียว เพราะตอนนี้รุกเข้าสู่ตลาดออนไลน์อย่างอีคอมเมิร์ซ จนมีสัดส่วนรายได้จากอีคอมเมิร์ซราว 27% แล้ว

ซึ่งในงาน Techsauce Global Summit คุณธนิศร์ เจียรวนนท์ ก็ได้มาให้อินไซต์สำคัญว่า แล้ว CP Axtra ในช่วงที่ผ่านมาทำอะไร ถึงรุกตลาดอีคอมเมิร์ซได้

มีอินไซต์อะไรที่น่าสนใจบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ปัจจุบัน CP Axtra มีทั้งโมเดลธุรกิจแบบ B2B ที่เน้นขายลูกค้าองค์กร และแบบ B2C ที่เน้นขายลูกค้าคนทั่วไป

ซึ่งเมื่อมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายแบบนี้ ทำให้ CP Axtra มีเครือข่ายการทำธุรกิจที่ใหญ่มาก โดยมีทั้งรถบรรทุกและรถมอเตอร์ไซค์ส่งของกว่า 9,000 คัน ระบบคลังสินค้ากว่า 100 แห่ง และศูนย์กระจายสินค้าอีกกว่า 14 แห่ง

แม้จะมีเครือข่ายธุรกิจที่ใหญ่แค่ไหน ก็ไม่ได้แปลว่า การรุกเข้าตลาดอีคอมเมิร์ซจะเป็นเรื่องที่ทำได้ทันทีในเวลารวดเร็ว

CP Axtra บอกว่า การเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อเข้าสู่ตลาดนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2021 ด้วยการสร้างทีมรองรับการใช้งานและนำมาปรับใช้กับองค์กร

จากนั้นในปี 2022 จึงเริ่มออกโปรแกรม Loyalty สำหรับลูกค้า แล้วเริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ขึ้นในช่วงระหว่างปี 2023-2024 ที่ผ่านมา

จะเห็นได้ว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ยาวนานอยู่ไม่น้อย แม้ CP Axtra จะมีเครือข่ายธุรกิจแบบออฟไลน์ของตัวเองที่ใหญ่อยู่แล้วก็ตาม

แต่บริษัทก็ไม่เพียงสร้างระบบที่รองรับการเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซแค่อย่างเดียว เพราะยังมีการสร้างระบบ ERP หรือที่เราเรียกกันว่าระบบวางแผนจัดการทรัพยากร

เพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายค้าปลีก-ค้าส่งของบริษัทที่มีอยู่เดิมแล้ว ทำให้บริษัทสามารถมีข้อมูลการตัดสินใจต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์มากขึ้น

และนอกจากการพัฒนาระบบหลังบ้านให้รองรับตลาดอีคอมเมิร์ซ CP Axtra ยังให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายของลูกค้าในระบบหน้าบ้านด้วย

โดยใช้โมเดล AI แบบ LLM มาพัฒนาระบบการแสดงผลค้นหาให้ตรงตามพฤติกรรมผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นโมเดลที่เรียนรู้จากภาษาไทยเป็นหลัก

โมเดลนี้ทำให้การค้นหาแม่นยำเพิ่มขึ้น 25% ซึ่งช่วยเพิ่มยอดการซื้อตะกร้าต่อครั้งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึง 33% เลยทีเดียว

นอกจากระบบค้นหาสินค้าแล้ว CP Axtra ยังพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าด้วยการลดระยะเวลาตอบสนองเวลาใช้งานลง 50% รวมถึงการแนะนำสินค้าต่าง ๆ ตามความชอบของแต่ละคนด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกจากการพัฒนาเทคโนโลยีมาใช้ในบริษัทแล้ว CP Axtra ก็ยังคงให้ความสำคัญกับคนเป็นสิ่งแรก เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงองค์กรอย่างแท้จริง

จากทั้งหมดที่ทำมานี้ ทำให้ปัจจุบัน CP Axtra เข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซได้สำเร็จ จนมีสัดส่วนรายได้จากอีคอมเมิร์ซในปี 2024 ราว 27% หรือประมาณ 127,000 ล้านบาท

ซึ่งบริษัทก็ได้คาดการณ์ต่อว่า ภายในปี 2026 อีคอมเมิร์ซของตัวเองจะเติบโตอีก 450% จนเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่สุดในอาเซียน..