
เอฟโวลูชั่นสกิน ผู้ผลักดันให้สินค้ายันฮี สร้างยอดขาย 1,000 ล้าน
เอฟโวลูชั่นสกิน ผู้ผลักดันให้สินค้ายันฮี สร้างยอดขาย 1,000 ล้าน / ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง x เอฟโวลูชั่นสกิน
ถ้าย้อนไปเมื่อ 10 หรือ 20 กว่าปีก่อน แล้วบอกว่า แบรนด์เครื่องสำอางและความงามไทยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่กำลังมาแรง ไม่แพ้แบรนด์จากเกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส หรือสหรัฐฯ ตอนนั้นคงไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้มากนัก
แต่วันนี้ คงไม่มีใครไม่เชื่ออีกต่อไปแล้ว เพราะตลาดความงามหรือ T-Beauty ก็มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยหนึ่งในนั้นก็คือแบรนด์อย่างยันฮี ที่สามารถสร้างยอดขายรวมได้หลักพันล้านบาท
ที่น่าสนใจคือ ความสำเร็จของแบรนด์สินค้าโรงพยาบาลยันฮี มาจากเอฟโวลูชั่นสกินของคุณปิยลักษณ์ อุดมชาติ ผู้วางระบบครบวงจรให้กับเรื่องนี้อยู่เบื้องหลัง
และมีเป้าหมายอยากทำให้ตลาด T-Beauty ของไทยเติบโตไปสู่ระดับภูมิภาค จนสามารถมีมูลค่าทะลุหลัก 10,000 ล้านบาทในอนาคตให้ได้
เอฟโวลูชั่นสกิน เป็นใครมาจากไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ต้องยอมรับว่า แม้ตลาด T-Beauty จะเติบโตมากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีต แต่การเติบโตที่มากขึ้น ก็ตามมาด้วยการแข่งขันที่มากขึ้นตามไปด้วย
การแข่งขันที่ว่านี้ ไม่ใช่แค่การแข่งขันในแบรนด์ไทยด้วยกันเองเท่านั้น แต่ยังต้องแข่งขันกับแบรนด์ต่างชาติอย่างเกาหลี ญี่ปุ่น จีน สหรัฐฯ ฝรั่งเศส ที่เป็นบริษัทที่ใหญ่กว่าแบรนด์ไทยมาก ๆ
ดังนั้น เมื่อการแข่งขันที่ราวกับเป็นทะเลเลือดในตลาดความงามแบบนี้ การเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า ความต้องการด้วยระบบที่ชัดเจน จึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ เลยทีเดียว
ซึ่งเมื่อตลาดเป็นแบบนี้ ทำให้เอฟโวลูชั่นสกิน ผู้พัฒนาและบริหารระบบอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรโดยคุณปิยลักษณ์ อุดมชาติ ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจอาหารเสริมและสกินแคร์ออนไลน์มากกว่า 15 ปี จึงเข้ามาเติมเต็มในตรงนี้
ปัจจุบัน เอฟโวลูชั่นสกินถือลิขสิทธิ์และเป็นตัวแทนบริหารผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและความงามของโรงพยาบาลยันฮี ที่ล่าสุดได้ประกาศต่อสัญญายาวไปถึงปี 2575 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยในช่วงที่ผ่านมา เอฟโวลูชั่นสกินสามารถทำให้สินค้ายันฮีมียอดขายกว่าหลักสิบล้านชิ้น และสร้างยอดขายรวมได้กว่า 1,000 ล้านบาท
ถ้าถามว่าความสำเร็จนี้มาได้อย่างไร คำตอบก็เพราะว่า การบริหารงานของเอฟโวลูชั่นสกินที่ครบวงจร
เริ่มตั้งแต่การดูแลเรื่องคอนเทนต์และการตลาดต่าง ๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาสนใจตัวผลิตภัณฑ์ก่อนเป็นอันดับแรก
ไปจนถึงการบริหารช่องทางขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada และ TikTok ที่เป็นช่องทางสำคัญของลูกค้ายุคใหม่ในปัจจุบัน
และที่สำคัญที่สุดคือ ระบบจัดการหลังการขายอย่าง CRM ที่เก็บข้อมูลปัญหาและความต้องการเฉพาะรายบุคคล ทำให้สามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ต่อได้
ข้อดีของเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตอบโจทย์ปัญหาและความต้องการของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนการขายได้ดีขึ้นด้วย
เพราะในตลาดความงามไทยที่เติบโตขึ้นก็จริง โดยเติบโตเฉลี่ย 8-10% ต่อปี และมีกลุ่ม 30-45 ปี เป็นคนมีกำลังซื้อ แต่ก็ตามมาด้วยการแข่งขันสูงจนเป็นตลาดทะเลเลือด แถมค่าส่งเสริมการขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น งบส่งเสริมการขายที่ใช้ไปจึงต้องคุ้มค่ามากที่สุด
ซึ่งเมื่อผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์การแก้ปัญหาเฉพาะทางแล้ว และเน้นคุณภาพของสินค้าเป็นสำคัญแล้ว ทำให้งบส่งเสริมการตลาดจึงสามารถใช้ได้คุ้มค่า ด้วยกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้ เอฟโวลูชั่นสกินยังให้ความสำคัญกับการให้บริการ โดยมีทีมผู้ชำนาญการด้านผลิตภัณฑ์ ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและให้ความรู้ด้านสุขภาพแก่ผู้บริโภค มุ่งเน้นการให้ข้อมูลมากกว่าการขาย
ทั้งนี้บริษัทมีการจัดอบรมและอัปเดตองค์ความรู้ให้แก่ทีมงานอย่างสม่ำเสมอทุก 3 เดือน เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้คำแนะนำแก่ผู้บริโภค
และข้อดีของการมีข้อมูลที่เป็นระบบขนาดนี้ ก็ทำให้สามารถเชื่อมต่อไปยังโปรแกรมสมาชิก Loyalty Program ด้วยการสะสมคะแนนทุกการซื้อ แลกเป็นคูปอง ส่วนลดใช้งานในเครือโรงพยาบาลยันฮีได้อีกทางด้วย ส่งผลให้อัตราการซื้อซ้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขยายมูลค่าตลอดอายุลูกค้า (LTV) ให้ยาวนานกว่า 10 ปีควบคู่กับการเพิ่มยอดเฉลี่ยต่อคำสั่งซื้อ (AOV) อย่างเป็นระบบ
เมื่อระบบที่พร้อมสเกล ทำให้การเติบโตไปต่อของเอฟโวลูชั่นสกินเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI มาวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า และระบบ E-Smart Platform ที่เชื่อมช่องทางการขายมาไว้ในที่แห่งเดียว
ซึ่งในอนาคต เอฟโวลูชั่นสกินตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้าระยะยาวมากขึ้น และเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ปัญหาเฉพาะทางที่ตัวเองได้เก็บข้อมูลมา ร่วมกับทีมแพทย์และนักวิจัยในเครือโรงพยาบาลยันฮีไปด้วยกัน
ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของเอฟโวลูชั่นสกินกับยันฮี ที่จะนำความเชี่ยวชาญในด้านการขายสินค้าออนไลน์ เทคโนโลยีและข้อมูล มาร่วมกับมาตรฐานทางการแพทย์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เพื่อพัฒนาระบบการเติบโตของสินค้าสุขภาพและความงามบนโลกออนไลน์ ที่สามารถเติบโตไปไกลสู่ตลาดโลกได้
โดยเฉพาะตลาดในอาเซียน ที่เป็นตลาดที่มีประชากรเยอะกว่าในประเทศไทยมาก ๆ แถมยังให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ด้านนี้มากขึ้น ก็ต้องมีระบบหลังบ้านที่ดีในการเติบโตในระดับภูมิภาคแบบนี้
และเมื่อรวมกับองค์ความรู้ในด้านการแพทย์กับโรงพยาบาลยันฮีแล้ว ก็ยิ่งติดปีกให้กับแบรนด์สุขภาพและความงามไทย ที่สามารถเติบโตไปสู่ตลาดที่ใหญ่กว่าได้ดีมากขึ้น
ซึ่งการเติบโตไปสู่ระดับภูมิภาค ไม่ใช่แค่การพาแบรนด์ยันฮีไปไกลเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำแบรนด์ที่แปะธงไทยหรือ T-Beauty ให้สามารถแข่งขันกับแบรนด์ความงามจากประเทศอื่น ๆ ได้อย่างแข็งแกร่งและเป็นระบบอย่างต่อเนื่อง
โดยมีผู้อยู่เบื้องหลังการเติบโตนี้ ก็คือ เอฟโวลูชั่นสกินนั่นเอง...
Reference :
- ข่าวประชาสัมพันธ์จาก เอฟโวลูชั่นสกิน
- ข่าวประชาสัมพันธ์จาก เอฟโวลูชั่นสกิน