กรณีศึกษา eatigo พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

กรณีศึกษา eatigo พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส

11 มิ.ย. 2018
กรณีศึกษา eatigo พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส / โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงเรื่องการซื้อดีลส่วนลดจากร้านอาหาร
อาจจะทำให้หลายๆ คนกลัว
เพราะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อน
แต่ eatigo ได้มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากครั้งนี้
และสร้างธุรกิจใหม่ที่แตกต่างออกไป
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
eatigo เป็นสตาร์ทอัพที่มีผู้ร่วมก่อตั้งเป็นคนไทยโดยเริ่มต้นจากกรุงเทพเป็นเมืองแรก
ผ่านไป 4 ปี ตอนนี้มีทั้งที่พัทยาและเชียงใหม่ในไทยและในอีก 5 ประเทศทั่วเอเชีย คือฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์ และอินเดีย
ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่มีคนไทยเป็นส่วนร่วม ไปโตเมืองนอกได้อย่างประสบความสำเร็จ
ถ้าถามว่า eatigo นั้นคืออะไร แล้วพิเศษอย่างไร ทำไมถึงไปได้ไกลถึงต่างประเทศ?
eatigo เป็นแพลตฟอร์มสำหรับใช้จองร้านอาหาร และรับส่วนลดตามช่วงเวลาที่เราไปใช้บริการ
ฟังดูอาจจะคล้ายๆ กับเว็บดีลสมัยก่อนเช่น ensogo แต่โมเดลธุรกิจนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่าง
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองนึกถึงธุรกิจสายการบิน
ปกติในช่วงเทศกาลวันหยุด
สายการบินจะมีคนใช้บริการเป็นจำนวนมากและตั๋วเครื่องบินก็จะมีราคาแพง
พอเป็นช่วงเวลาปกติที่คนใช้บริการเครื่องบินไม่หนาแน่น เราก็จะเห็นสายการบินนำตั๋วมาลดราคา เพื่อดึงคนให้ได้มากที่สุดก่อนขึ้นบิน
แม้การลดราคาจะทำให้ได้กำไรน้อยลง แต่ก็ยังดีกว่าการปล่อยให้เก้าอี้ว่างไว้ เพราะยังไงสายการบินก็มีต้นทุน fixed cost ที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว
ในมุมเดียวกัน ถ้าเราเปลี่ยนจากธุรกิจสายการบินเป็นธุรกิจร้านอาหาร
สิ่งที่ eatigo ทำคือ การเป็นคนกลาง หาลูกค้าให้กับร้านอาหารในช่วงเวลาที่คนไม่แน่น
หมายความว่า ในช่วงเวลาที่มีลูกค้ามาใช้บริการที่ร้านน้อย เราก็จะได้ข้อเสนอส่วนลดที่มากกว่าช่วงเวลาอื่น
เรื่องนี้เลยเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์กันทั้งลูกค้าและร้านอาหาร
เพราะในช่วงที่ร้านอาหารคนน้อย การเป็นร้านบน eatigo สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้ โดยที่ไม่ไปกระทบกับยอดขายเดิม
ส่วนในช่วงเวลาที่คนแน่นหรือขายดีอยู่แล้ว ก็อาจเสนอส่วนลดน้อยลง หรืออาจไม่ร่วมรายการเลยก็ได้
แล้ว eatigo แตกต่างจาก ensogo อย่างไร?
ถ้าใครเคยรู้จัก ensogo คงจะจำกันได้ดีว่าเรื่องนี้เคยมีปัญหาจนทำให้ปิดบริการไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ensogo ทำธุรกิจเกี่ยวกับดีลซื้อสินค้าและบริการผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
พูดง่ายๆ คือ เหมือนกับเราไปซื้อคูปองลดราคามาใช้นี่เอง
ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ได้เงินมาก่อน แต่มีภาระที่ต้องนำเงินไปจ่ายให้กับร้านอาหารทีหลัง และลูกค้าที่ใช้ดีลจะไปแย่งที่ลูกค้าหลักของร้านในเวลาปกติ
หมายความว่าจากเดิมในช่วงเวลาที่ขายดี แทนที่ร้านอาหารจะได้กำไรเต็มๆ กลับต้องแบ่งที่นั่งให้กับลูกค้าที่ใช้ดีลอีกด้วย สุดท้ายก็จะไปกระทบกับกำไรของร้านอาหาร
เมื่อเป็นแบบนี้ก็ทำให้มีปัญหากับร้านอาหาร ร้านอาหารบางร้านจะลดคุณภาพของอาหารลงเมื่อร่วมรายการและบางร้านถึงขนาดใช้คูปองไม่ได้
ถ้าเราเป็นลูกค้าที่นำคูปองไปใช้ เราก็คงไม่อยากที่จะกลับไปใช้บริการ ensogo อีก
ปัญหาเหล่านี้ได้ส่งผลมากขึ้นทุกปีๆ จนในที่สุด ensogo ต้องปิดตัวลงไปอย่างที่เราเห็นกัน
แล้ว eatigo ได้พลิกโอกาสจากความล้มเหลวของ ensogo ได้อย่างไร?
โมเดลของ eatigo จะไม่ได้ทำให้ร้านอาหารเสียประโยชน์และลูกค้าได้รับการบริการที่ดีเหมือนเดิมซึ่งแตกต่างจาก ensogo ที่ส่วนใหญ่แล้วร้านอาหารจะเสียประโยชน์
นอกจากเรื่องนี้แล้ว eatigo ยังมีข้อได้เปรียบที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง
ปกติแล้วถ้าเป็นการซื้อดีล เราจะต้องจ่ายเงินซื้อมาก่อน
ซึ่งบางครั้งก็เหมือนกับการบังคับให้เราต้องไปใช้ดีล เพราะเราได้จ่ายเงินไปแล้ว
ถ้าเราติดธุระด่วนไม่สามารถไปใช้ดีลได้ในเวลาที่กำหนด ก็จะต้องเสียดีลนั้นไปฟรีๆ
แต่สำหรับ eatigo เราสามารถจองและกดยกเลิกได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก่อน
สุดท้ายแล้วคนใช้ก็แฮปปี้ที่ได้ส่วนลดโดยไม่ต้องจ่ายเงินก่อน ส่วนร้านอาหารก็แฮปปี้ที่มีรายได้เพิ่มจากช่วงเวลาปกติ
เรื่องนี้ทำให้เราคิดได้ว่า
การทำธุรกิจนั้น
เราต้องให้ความสำคัญกับลูกค้า และคู่ค้า ของเรา
ถ้ามีใครเสียเปรียบ ธุรกิจนั้นก็น่าจะอยู่ได้ไม่นาน
แต่ถ้าทุกฝ่ายแฮปปี้กันหมด
วงจรธุรกิจก็จะเสริมกัน และอาจทำให้เราสำเร็จได้เหมือน eatigo..
----------------------
eatigo มีส่วนลด แต่เรามีบทความ ติดตามเรา ได้ที่
-แอปลงทุนแมน blockdit.com
-อินสตาแกรม instagram.com/longtunman
-ทวิตเตอร์ twitter.com/longtunman
-ไลน์ line.me/R/ti/p/%40longtunman
-หนังสือลงทุนแมน 3.0 ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.