กรณีศึกษา ราคาแร่แพลทินัม พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงโลหะมีค่า คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงทองคำ แต่ในเวลานี้ มีโลหะอีกชนิดที่กำลังร้อนแรง นั่นก็คือ แพลทินัม

เพราะตอนนี้มีราคาเพิ่มขึ้นถึง 38% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
และในเดือนมิถุนายน เพียงเดือนเดียว ราคาก็พุ่งไป 28%

ทำไมจู่ ๆ แพลทินัม ถึงมีราคาพุ่งแรง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ราคาแร่แพลทินัม ย้อนหลัง 10 ปี
ปี 2015 = 892 USD/oz
ปี 2016 = 905 USD/oz
ปี 2017 = 931 USD/oz
ปี 2018 = 790 USD/oz
ปี 2019 = 972 USD/oz

ปี 2020 = 1,079 USD/oz
ปี 2021 = 966 USD/oz
ปี 2022 = 1,083 USD/oz
ปี 2023 = 1,009 USD/oz
ปี 2024 = 911 USD/oz

จะเห็นว่า ราคาของแร่แพลทินัม ขึ้น ๆ ลง ๆ แทบไม่ไปไหน
ทว่าปีนี้จู่ ๆ ราคาแร่แพลทินัม ก็ปรับตัวขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

โดย ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2025 ราคาอยู่ที่ 1,323 USD/oz และเคยขึ้นไปสูงสุดถึง 1,505 USD/oz ในเดือนเดียวกัน ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นมากถึง 63% นับตั้งแต่ต้นปี (YTD)

แล้วแร่แพลทินัม ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมไหนบ้าง ?

แร่แพลทินัม เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น ไม่เป็นสนิม, ทนความร้อนสูง และเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีที่ดี

แพลทินัม จึงนิยมนำมาใช้ในเครื่องฟอกไอเสียรถยนต์สันดาป เพื่อเร่งปฏิกิริยา และลดมลพิษจากการเผาไหม้

อีกทั้งยังใช้ในอุตสาหกรรมเคมี, อิเล็กทรอนิกส์, เทคโนโลยีขั้นสูง, การแพทย์ และเครื่องประดับด้วย

แล้วปัจจัยอะไร ที่ทำให้ราคาแร่แพลทินัมสูงขึ้น ?

ตามทฤษฎี ราคาสินค้า Commodity หรือสินค้าโภคภัณฑ์ จะมีปัจจัยมากระทบราคาอยู่ 2 ด้านคือ อุปสงค์ (Demand) กับอุปทาน (Supply)

ในด้านของอุปทาน แร่แพลทินัมที่ขุดได้ทั้งโลก 70% มาจากประเทศแอฟริกาใต้เพียงประเทศเดียว

และในตอนนี้ แอฟริกาใต้กำลังเผชิญกับปัญหาการผลิต ในหลาย ๆ ด้านพร้อมกัน

- วิกฤติการขาดแคลนไฟฟ้าที่รุนแรง ทำให้เหมืองแร่แพลทินัม ไม่สามารถดำเนินการผลิตได้เต็มประสิทธิภาพ

- ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ราคาแร่แพลทินัมเท่าเดิมมาตลอด ทำให้บริษัทเหมืองขาดแรงจูงใจในการลงทุนขุดเจาะเหมืองใหม่ ๆ ซึ่งส่งผลต่อกำลังการผลิตในอนาคต

- ปัญหาด้านแรงงาน มีการประท้วงหยุดงานเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิต

เมื่อผู้ผลิตเบอร์ 1 ของโลกมีปัญหา ก็ทำให้ภาพรวมของอุปทานแร่แพลทินัมทั้งโลก ตึงตัวอย่างรุนแรง ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ทันกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น

ข้อมูลจาก World Platinum Investment Council ระบุว่า จีนกลายเป็นผู้บริโภคและผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดในปี 2024 คิดเป็นกว่า 29% ของการนำเข้าแพลทินัมทั้งหมด

ความต้องการแพลทินัมของจีน แบ่งได้ 4 กลุ่มดังนี้
- ความต้องการแพลทินัม ในยานยนต์ 17%
- ความต้องการแพลทินัม ในเครื่องประดับ 20%
- ความต้องการแพลทินัม ในโรงงานอุตสาหกรรม 31%
- ความต้องการแพลทินัม ในการลงทุน 32%

อาจกล่าวได้ว่า จีนไม่ได้ซื้อเพื่อใช้ในวันนี้ แต่ซื้อเพื่อวางรากฐานของอุตสาหกรรมในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

ในทางเศรษฐศาสตร์ จะเรียกเหตุการณ์นี้ว่า Supply Shortage คือภาวะที่ปริมาณสินค้าหรือบริการมีอยู่น้อยกว่าความต้องการของตลาด

และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ราคาแร่แพลทินัมพุ่งสูงขึ้น อย่างโดดเด่นภายในปีนี้

แพลทินัม ซึ่งเคยมีราคาไม่หวือหวาเหมือนทองคำ มานานหลายปี กำลังสร้างปรากฏการณ์ราคาพุ่งทะยานขึ้น จนนักลงทุนทั่วโลกต้องหันกลับมามอง

การเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นผลลัพธ์ของสมการระหว่างอุปทานและอุปสงค์

กรณีของแพลทินัม คือตัวอย่างที่ชัดเจนของภาวะที่ อุปทาน ซึ่งกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหา ไม่สามารถตอบสนองต่อ ความต้องการที่ไม่ได้หายไปไหน แถมยังมีแนวโน้มใหม่ ๆ เข้ามาสนับสนุน

จากแร่ที่เคยถูกมองว่า กำลังจะหมดอนาคตไปพร้อมกับรถยนต์น้ำมัน

วันนี้แพลทินัมได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในฐานะโลหะสำคัญ ทั้งในอุตสาหกรรมดั้งเดิม และอุตสาหกรรมอนาคต เช่น เทคโนโลยีพลังงานสะอาด อย่างเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน รวมถึงนาโนเทคโนโลยี

ซึ่งก็ทำให้แร่ชนิดนี้ กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง..