ผู้ถือหุ้น CPALL กับ ผู้ถือหุ้น MAKRO กำลังแบกโลตัสมากขึ้น /โดย ลงทุนแมน

สรุปของสรุปอีกทีสำหรับคนที่สงสัยว่า
การปรับโครงสร้างธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มซีพีในครั้งนี้
มันจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อ ผู้ถือหุ้น CPALL กับ ผู้ถือหุ้น MAKRO

ถ้าเอาแบบละเอียด ไปอ่านโพสต์ก่อนหน้าที่ https://www.facebook.com/113397052526245/posts/1134244477108159
แต่ถ้าอยากได้แบบกระชับก็คือ
CPALL จะมีส่วนได้เสียในกิจการโลตัส มากขึ้น จาก 40.00% เป็น 65.97%
และ CPALL จะมีส่วนได้เสียในกิจการเดิมของ MAKRO ลดลง จาก 93.08% เป็น 65.97%
แต่ในภาวะปัจจุบัน กิจการโลตัสได้รับผลกระทบสถานการณ์โควิด
ในขณะที่ MAKRO ยังกำไรดีอยู่ในช่วงนี้
นั่นหมายความว่า กำไรต่อหุ้นของ CPALL จะลดลงจากดีลนี้ ถ้าสถานการณ์ยังคงเดิม

ส่วน MAKRO จะเข้าไปถือโลตัสทั้งกิจการ ซึ่งจะมีส่วนได้เสียในกิจการโลตัส มากขึ้นแบบมีนัยสำคัญ เพราะผู้ถือหุ้นรายย่อยจะ Dilute ลงครึ่งหนึ่งจากดีลนี้

ถ้ากิจการโลตัสยังไม่ค่อยดี กำไรต่อหุ้นของ MAKRO ก็จะลดลงไปด้วย

ต้องหมายเหตุว่าสถานการณ์ของกิจการโลตัสอาจเป็นชั่วคราวก็ได้
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า โลตัสจะกลับมาทำกำไรได้ดี หรือมี Synergy ระหว่างกิจการอะไร เพื่อให้กำไรต่อหุ้นของ CPALL กับ MAKRO ดีขึ้นได้หรือไม่

แต่ดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน
CPH ซึ่งเป็นบริษัทลูกของเครือเจริญโภคภัณฑ์โดยตรง กำลังทำดีล ที่ CPH จะแบกโลตัสน้อยลง
และต้องยอมรับความจริงว่า
ดีลนี้จะทำให้ ผู้ถือหุ้น CPALL กับ ผู้ถือหุ้น MAKRO แบกโลตัสมากขึ้น นั่นเอง..