รู้จัก John DeLorean อีลอน มัสก์ ในยุค 1980 แต่จบด้วยความล้มเหลว

รู้จัก John DeLorean อีลอน มัสก์ ในยุค 1980 แต่จบด้วยความล้มเหลว

10 พ.ย. 2021
รู้จัก John DeLorean อีลอน มัสก์ ในยุค 1980 แต่จบด้วยความล้มเหลว /โดย ลงทุนแมน
ปัจจุบันเรารู้จัก อีลอน มัสก์ ในฐานะอัจฉริยะแห่งโลกยานยนต์และมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก
แต่รู้หรือไม่ว่าในช่วงปี 1970 ถึง 1980 ชายที่ชื่อว่า “John DeLorean” เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงและโด่งดังไม่แพ้ อีลอน มัสก์ เลยทีเดียว
นั่นก็เพราะว่าเขาคนนี้เป็นผู้สร้าง DMC-12 หรือรถสปอร์ตที่มีประตูปีกนกและมีดีไซน์ล้ำยุค
จนถูกนำไปใช้เป็นไทม์แมชีนในภาพยนตร์เรื่อง Back to the Future ในปี 1985
แม้ว่าจะโด่งดังถล่มทลาย แต่ทว่าบั้นปลายของ DeLorean เขากลับถูกจับกุมด้วยข้อหาค้ายาเสพติด แต่สิ่งที่เขาทำไปทั้งหมดนี้ เขาก็ให้เหตุผลว่าก็เพื่อรักษาบริษัทและความฝันของเขาเอาไว้
เรื่องราวของ DeLorean เป็นอย่างไร
ทำไมนักนวัตกรรมล้ำยุค ลงเอยกลายเป็นผู้ค้ายา ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
รร.นานาชาติไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ ขอเรียนเชิญผู้ปกครองที่มีบุตร-หลาน อายุ 15-16 ปี เข้าร่วมงาน "ชิงทุนการศึกษาระดับ A Level" ในวันเสาร์ที่ 20 พ.ย. เวลา 08.45-13.45 น. ลงทะเบียนที่ลิงก์นี้ shorturl.at/orQV2
╚═══════════╝
John Zachary DeLorean เกิดเมื่อปี 1925 ในครอบครัวชั้นแรงงาน
โดยคุณพ่อของเขาเป็นพนักงานในโรงงานประกอบรถยนต์ของ Ford Motor
จากหน้าที่การงานของคุณพ่อ ก็ได้ทำให้ DeLorean กลายเป็นเด็กที่มีความรู้และสนใจในรถยนต์ตั้งแต่ยังเล็ก
ในเวลาต่อมา เขาก็เลือกเรียนและจบการศึกษาในระดับปริญญาโท
ทั้งสาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกลและบริหารธุรกิจ
แม้ว่างานแรกของเขาจะเป็นตัวแทนขายประกันชีวิต
แต่ต่อมา เขาก็ได้เป็นพนักงานในบริษัท Chrysler
ซึ่งในขณะนั้น ทำธุรกิจผลิตและซ่อมตัวถังของรถ
แต่ไม่นานนักในปี 1952 เขาก็ถูกทาบทามให้เข้าร่วมทีมวิจัยและพัฒนาของบริษัทยานยนต์ชื่อว่า “Packard Motor”
ในช่วงที่บริษัทประสบปัญหา ก็ได้ DeLorean ที่ในตอนนั้นยังคงเป็นเพียงดาวรุ่งของบริษัท สามารถนำพาให้ Packard ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนั้นมาได้ และก็ได้ทำให้ชื่อเสียงของ DeLorean เริ่มมีมากขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
จนในปี 1956 ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง General Motors หรือ GM ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานั้น ก็ได้ทาบทาม DeLorean ให้มาเป็นวิศวกรของแบรนด์รถยนต์แบรนด์หนึ่งของ GM ที่มีชื่อว่า “Pontiac”
DeLorean ถือว่าเป็นคนที่มีความเก่งและเป็นอัจฉริยะทางด้านวิศวกรรมและการออกแบบ
เขาสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้หลังจากเข้าทำงานได้ไม่นาน และก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าทีมวิศวกรของ Pontiac ในปี 1961 หรือเพียง 5 ปีหลังจากเข้ามาทำงานที่นี่
ด้วยการปรับโฉมรถแบรนด์ Pontiac โดยใช้คอนเซปต์ง่าย ๆ แต่ไม่มีใครกล้าทำในขณะนั้น
คือการนำเครื่องยนต์ที่มีกำลังมากที่สุด มาใส่ในรถที่เล็กที่สุดจนเกิดเป็น Pontiac รุ่น GTO
ซึ่งโมเดล GTO นี้เอง ถือเป็น American Muscle Car คันแรก หรือก็คือรถอเมริกัน
ที่มีเครื่องยนต์กำลังสูง เป็นรถทรงคูเป มี 2 ประตู และที่สำคัญคือราคาจับต้องได้
GTO ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นอเมริกัน
และมียอดขายถึง 30,000 คันทันทีที่ออกจำหน่ายในปีแรก
ด้วยความสำเร็จของ Pontiac GTO และอีกรุ่นหนึ่งคือ Firebird
ซึ่งเกิดขึ้นภายใต้การนำของ DeLorean
ทำให้ไม่นานนัก เขาก็ได้ขึ้นเป็นผู้จัดการทั่วไปของ Pontiac
จากนั้นเพียงไม่กี่ปี เขาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองประธานฝ่ายการผลิตรถยนต์และรถบรรทุกของ GM ทั้งหมดในภูมิภาคอเมริกาเหนือ
จุดนี้เองก็ได้ทำให้ DeLorean กลายเป็นผู้บริหารที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ด้วยวัยเพียง 40 ปี ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าตำแหน่งประธาน GM คนต่อไปก็จะตกเป็นของ DeLorean อย่างแน่นอน
แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชื่นชอบ DeLorean โดยเฉพาะเหล่าผู้บริหารของ GM..
DeLorean เป็นคนที่มีสไตล์การใช้ชีวิตและการทำงานที่ไม่เหมือนกับผู้บริหารคนอื่น ๆ ใน GM
โดยเขามักจะแต่งตัวเหมือนร็อกสตาร์มากกว่าใส่สูทผูกเน็กไทเหมือนผู้บริหารคนอื่น ๆ
เขาชอบที่จะพบปะสังสรรค์กับเหล่าดาราฮอลลีวูดและมักตกเป็นข่าวกับเหล่านางแบบชื่อดังอยู่บ่อยครั้ง
นอกจากนี้ DeLorean ยังมีสไตล์การทำงานที่ไม่เหมือนใคร ทั้งการคิดนอกกรอบ ไม่ค่อยปฏิบัติตามธรรมเนียมหรือผู้ใหญ่ในบริษัท และเขามักจะทำงานอื่นควบคู่ไปด้วย
บวกกับการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดในหน้าที่การงาน ทำให้เขามักจะถูกเพ่งเล็งจากคนรอบข้าง
แต่ด้วยฝีมือของเขาและผลงานที่สร้างผลประโยชน์อย่างมากซึ่งส่งผลต่อผลตอบแทนและโบนัสของผู้บริหารคนอื่น ๆ ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรื่องทุกอย่างก็ได้ถูกปล่อยผ่านไป
จนกระทั่งในปี 1973 DeLorean ได้มีการวิจารณ์การทำงานรวมถึงโครงสร้างภายในของ GM ออกสื่อสาธารณะ ทำให้เขาถูกกดดันจากหลายฝ่าย และต้องออกจากบริษัทในที่สุด
จุดนี้เองที่ได้ผลักดันให้เขาเลือกเดินเส้นทางที่จะสานฝันของเขาให้เป็นจริง
ซึ่งก็คือการมีแบรนด์รถยนต์เป็นของตัวเอง
ในปี 1975 DeLorean ก็ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเอง DeLorean Motor Company หรือ DMC
โดยมีรถต้นแบบที่ใช้ชื่อว่า DMC-12 ซึ่งพัฒนาร่วมกับ Giorgetto Giugiaro นักออกแบบชาวอิตาลี ที่เคยร่วมงานกับแบรนด์ชื่อดังอื่น ๆ อย่าง Aston Martin, Audi, BMW หรือ Ferrari มาแล้ว
ด้วยจุดเด่นของรถที่เป็นทรงสปอร์ต มีประตูที่โดดเด่นด้วยรูปแบบทรงปีกนก
ตัวถังที่คงทนและมีอายุใช้งานได้ยาวนานเพราะผลิตจากเหล็กสเตนเลส
อีกทั้งดีไซน์ของรถเรียกได้ว่าแตกต่าง ราวกับว่าเป็นรถที่มาจากอนาคต
นอกจากนี้คอนเซปต์ของรถที่โฆษณาไว้ว่ามีเครื่องยนต์กำลังสูง ประหยัดน้ำมัน ทนทาน และคุ้มค่ากว่ารถคันอื่น ๆ ในตลาด
ทำให้ DMC-12 ได้รับความสนใจและถูกกล่าวถึงเป็นอย่างมาก และด้วยชื่อเสียงในวงการยานยนต์ของ DeLorean จึงมีนักลงทุนและดีลเลอร์จำนวนมากร่วมลงทุนในบริษัทของเขา
แต่ทว่าการที่จะแจ้งเกิดในอุตสาหกรรมรถยนต์ในสมัยนั้นเป็นเรื่องยากมาก เพราะมีแต่รายใหญ่ที่อยู่ในตลาดทำให้การแข่งขันจำเป็นต้องใช้เงินทุนจำนวนมหาศาลในการก่อตั้งโรงงานผลิต
เมื่อเป็นแบบนี้ DeLorean จึงตัดสินใจฉีกกรอบการระดมทุนในสมัยนั้น ซึ่งเดิมที่มักพึ่งพาแต่ภาคเอกชนเปลี่ยนไปเป็นการมองหาภาครัฐเพราะมีเงินหนาไม่แพ้ธนาคารใหญ่ ๆ ระดับโลก
จนในปี 1978 เบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ ก็ได้ถูกเลือกให้เป็นที่ตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ของ DMC
แล้วทำไมต้องเป็นที่ไอร์แลนด์เหนือ ?
ในช่วงเวลานั้น เบลฟาสต์ตกอยู่ในสงครามกลางเมืองระหว่างชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกและนิกายโปรเตสแตนต์
ซึ่งมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นทุกวัน มีผู้เสียชีวิตนับพัน ส่งผลให้มีอัตราการว่างงานสูงถึง 1 ใน 3 ของประชากร
จุดนี้เอง ที่ทำให้ทีมของ DMC สามารถเจรจากับรัฐบาลสหราชอาณาจักรซึ่งมีอำนาจการปกครองไอร์แลนด์เหนืออยู่ในขณะนั้น จนได้รับเงินทุนจำนวนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นประมาณ 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อคิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน หรือราว 1.4 หมื่นล้านบาท
โดยมีข้อกำหนดคือ DMC ต้องจ้างแรงงานส่วนใหญ่จากเมืองเบลฟาสต์ รวมถึงจะได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเติมอีกหาก DMC สามารถทำยอดขายได้ตามเป้าภายในเวลาที่กำหนด
ในขณะที่เรื่องของความปลอดภัยของตัวโรงงานเอง ก็ไม่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง
เพราะโรงงานจะกลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญของชาวเมือง
แต่แล้วเมื่อโรงงานสร้างเสร็จเรียบร้อย ปัญหาก็เริ่มก่อตัวขึ้น..
เนื่องจากการออกแบบรถปกติในสมัยนั้น อาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีขึ้นไปจึงจะสามารถนำเข้าสู่กระบวนการผลิตจริงได้
แต่สำหรับ DMC-12 รถคันนี้กลับใช้เวลาในการออกแบบเพียง 2 ปีเท่านั้น
และด้วยการออกแบบตัวรถที่เรียกได้ว่ามีความแปลกใหม่ในยุคนั้น
ทำให้เป็นเรื่องยากในการเริ่มผลิตจริงและก่อให้เกิดข้อผิดพลาดหลายจุด
ทั้งหมดนี้ ก็ได้ส่งผลให้การผลิตต้องล่าช้าออกไปมากกว่า 2 ปี หลังจากโรงงานสร้างเสร็จ
จนกระทั่งในปี 1981 ก็เริ่มมีการส่งมอบรถให้กับดีลเลอร์แต่ละรายที่ได้จองรถไว้กับทาง DMC
แต่ทว่ากลับมีรายงานเกี่ยวกับข้อบกพร่องของตัวรถเป็นจำนวนมาก
ทั้งเรื่องของกำลังของรถที่น้อยไม่เหมือนอย่างที่โฆษณาไว้ ไปจนถึงงานประกอบที่ไม่ได้มาตรฐานรวมถึงมีจุดตำหนิทั่วรถ
ซึ่งไม่สมกับราคาที่ถือว่าแพงในระดับรถหรู และที่สำคัญคือประตูปีกนกซึ่งเป็นจุดเด่นของรถ กลับมีปัญหาบ่อยครั้งในการเปิดและปิด
และด้วยความที่คนงานในโรงงานเกือบทั้งหมด ไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวกับการประกอบรถยนต์มาก่อน จึงส่งผลต่อยอดการผลิตรถที่ทำได้น้อยกว่าเป้าที่ตั้งไว้
โดยตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์ในปี 1978 มีรถผลิตออกมาได้เพียง 9,000 คัน
แต่จากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้มีเพียง 3,000 คันที่ถูกส่งมอบสู่ลูกค้า
ในขณะที่อีกกว่า 6,000 คันยังคงอยู่ที่ ดีลเลอร์ ท่าเรือและโรงงานของ DMC
ปัญหาที่ถาโถมเข้ามา ณ เวลานั้น ก็ได้ทำให้เงินทุนที่มีใกล้หมดเต็มที
อีกทั้งรัฐบาลใหม่ของสหราชอาณาจักรก็ปฏิเสธที่จะลงทุนเพิ่มเติมในบริษัทต่างชาติ
ทำให้ในที่สุด DMC ต้องปลดพนักงานออกกว่าครึ่งหนึ่งเพื่อยื้อเวลาออกไป
ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ ตัวของ DeLorean เองก็ไม่ได้อยู่เฉยและก็ไม่ยอมปล่อยให้ความฝันของเขาพังทลายไป
เขาได้ไปเข้าพบกับนักลงทุนจำนวนมากทั้งในและนอกประเทศเพื่อขอเงินสนับสนุนเพิ่มเติม
แต่ก็ไม่มีใครสนใจที่จะลงทุนในบริษัทที่ใกล้ล้มละลายอย่าง DMC
ทว่ายังคงมีนักลงทุนกลุ่มหนึ่งที่พร้อมจะให้เงินสนับสนุนโดยแลกกับหุ้นจำนวนหนึ่ง
แต่เนื่องจาก DeLorean พิจารณาข้อเสนอแล้ว เขากลับกลัวที่จะเสียอำนาจในบริษัทของเขาไป
ทำให้เขาไม่มีทางเลือก จนท้ายที่สุดก็ได้มีข่าวลือออกมาว่า DeLorean ได้ตัดสินใจหาเงินทุนจากการขายยาเสพติด..
ในปี 1982 DeLorean ถูก FBI จับกุมที่โรงแรมแห่งหนึ่งในข้อหาค้ายาเสพติด
เป็นโคเคนน้ำหนักกว่า 220 ปอนด์ มูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาทในปัจจุบัน
เขาต้องใช้เวลาสู้คดีนานกว่า 2 ปี ก่อนที่ศาลจะตัดสินให้เขาบริสุทธิ์ เนื่องจากว่าเพื่อนบ้านที่ DeLorean ได้ปรึกษาด้วยในตอนที่เขามีปัญหาทางด้านการเงิน เป็นสายข่าวให้กับ FBI และเป็นผู้เสนอดีลยาเสพติดให้กับ DeLorean
ซึ่งศาลพิจารณาว่า DeLorean ถูกล่อลวง โดยไม่ได้มีเจตนาจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดตั้งแต่แรก
อีกทั้ง FBI ก็รู้ดีว่า DeLorean เดือดร้อนเรื่องเงินและพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้บริษัทของเขาอยู่รอด
ถึงแม้จะหลุดจากคดีมาได้ แต่ความฝันของเขาก็พังทลายไปแล้ว
DMC ต้องปิดกิจการลงในเวลาไม่กี่เดือนหลังจากที่ DeLorean ถูกจับกุม
รวมถึงเขาเองก็ต้องเลิกกับภรรยา และถูกขุดคุ้ยเรื่องเก่า ๆ
ทั้งพฤติกรรมการใช้จ่ายเกินตัวหรือการยักยอกเงินทุนบางส่วนออกจากบริษัท
หลังจากนั้น DeLorean ก็เก็บตัวและไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในอุตสาหกรรมยานยนต์อีกเลย
จนกระทั่งเขาได้เสียชีวิตลงในปี 2005 ภายในอะพาร์ตเมนต์ของเขา
อย่างไรก็ตาม ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นของตัวรถ ทำให้ DMC-12 ได้ไปปรากฏในภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง Back to the Future ในปี 1985 ในฐานะรถที่ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นไทม์แมชีนสุดล้ำ
ซึ่งหากตัดเรื่องความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
DeLorean ก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะแห่งวงการยานยนต์บุคคลหนึ่ง
ที่ครั้งหนึ่งเคยสร้างแบรนด์รถยนต์ของตัวเองมาแข่งกับยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม
และยังคงถูกพูดถึงกันอยู่จนถึงปัจจุบัน..
╔═══════════╗
รร.นานาชาติไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ ขอเรียนเชิญผู้ปกครองที่มีบุตร-หลาน อายุ 15-16 ปี เข้าร่วมงาน "ชิงทุนการศึกษาระดับ A Level" ในวันเสาร์ที่ 20 พ.ย. เวลา 08.45-13.45 น. ลงทะเบียนที่ลิงก์นี้ shorturl.at/orQV2
╚═══════════╝
References
-https://www.forbes.com/wheels/news/john-delorean-reinvented-the-dream-car-then-he-totaled-it/
-https://www.imdb.com/name/nm1359338/bio
-https://horsepowermemories.com/2021/02/22/john-delorean-and-the-pontiac-gto/
-https://www.sandstoneproductions.co.uk/blogtothefuture/2020/11/22/deloreanmotorcompany
-https://www.youtube.com/watch?v=mln2SymT73s
-https://www.netflix.com/us/title/80219915?s=a&trkid=13747225&t=lin&vlang=en&clip=81323640
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.