Secretlab ขายเก้าอี้เล่นเกม รายได้ 6,000 ล้าน

Secretlab ขายเก้าอี้เล่นเกม รายได้ 6,000 ล้าน

12 พ.ย. 2021
Secretlab ขายเก้าอี้เล่นเกม รายได้ 6,000 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
ปัจจุบันกีฬาอีสปอร์ต กำลังได้รับความนิยมอย่างมากและมีการจัดการแข่งขันขนาดใหญ่ที่บางรายการ
ยกตัวอย่างเช่น The International 2021 หรือ TI10 รายการแข่งขันเกม Dota 2 ที่เพิ่งผ่านไม่นานมานี้
มีเงินรางวัลรวม มากถึง 1,300 ล้านบาท
นั่นจึงทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเกมถูกพัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเล่น
เช่น เมาส์ และคีย์บอร์ดสำหรับเกมเมอร์ ไปจนถึงธุรกิจพัฒนา “เก้าอี้เกม”
หนึ่งในนั้นก็เป็นของบริษัท ที่ชื่อว่า Secretlab ที่เรียกได้ว่ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
เพราะแม้ว่า Secretlab จะเพิ่งก่อตั้งได้เพียง 6 ปี แต่สามารถสร้างรายได้
มากกว่า 6,000 ล้านบาท รวมถึงได้จัดจำหน่ายไปยัง 60 ประเทศทั่วโลก
สิ่งที่น่าสนใจก็คือไอเดียเริ่มต้นของบริษัทแห่งนี้ ไม่ได้มาจากการค้นคว้าวิจัยจากห้องแล็บ
ไม่ได้มาจากนักวิเคราะห์หรือนักธุรกิจที่คาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตของอุตสาหกรรมเกม
แต่กลับเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ระหว่างที่หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทกำลังจัดบ้าน..
แล้วใครกันที่เป็นเจ้าของไอเดียที่ว่านี้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ (กรุงเทพฯ) จัดงาน Open Days วันที่ 6 และ 10 ธ.ค. นี้
ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน: https://bit.ly/2ZzvnKF
เว็บไซต์โรงเรียน: www.sis.edu/bangkok
╚═══════════╝
จริง ๆ แล้ว ก็ต้องบอกว่าผู้ก่อตั้งบริษัทเก้าอี้เกม Secretlab เคยเป็นเกมเมอร์และนักแข่งอีสปอร์ตมาก่อน
โดยพวกเขามีชื่อว่า Ian Ang และ Alaric Choo เป็นชาวสิงคโปร์ ปัจจุบันมีอายุ 29 ปี และ 33 ปี
ชีวิตในวัยเด็กของ Ian แม้จะเรียกได้ว่าเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่ง แต่เขามีกิจกรรมและงานอดิเรกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ซอฟต์บอล ฟุตบอล และเกมคอมพิวเตอร์
ในวัย 18 ปี Ian ได้เริ่มแข่งเกมจริงจังและเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต โดยเขาได้เข้าร่วมแข่งขันเกม StarCraft II ในรายการระดับท้องถิ่น ทำให้เขาได้เจอกับ Choo ซึ่งพวกเขาก็ได้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่นั้นมา
แต่ในเวลาต่อมาเมื่อ Ian ต้องรับราชการทหารทำให้เขาต้องหยุดเล่นเกม
ภายหลังจากรับราชการทหาร เขามีความคิดต้องการที่จะจริงจังกับเส้นทางในชีวิตมากขึ้น
นั่นจึงทำให้เขาหยุดเส้นทางนักกีฬาอีสปอร์ตและเริ่มทำงานในบริษัทสตาร์ตอัปคอมพิวเตอร์
สำหรับเล่นเกมที่ชื่อว่า Aftershock พร้อม ๆ กับลงเรียนหลักสูตรปริญญาในด้านธุรกิจควบคู่ไปด้วย
ระหว่างนั้น ที่บ้านของ Ian ก็ได้มีการรีโนเวตบ้านพอดี
ซึ่งในขณะที่เขากำลังขนย้ายของใช้และจัดของภายในบ้านอยู่นั้น
เขาก็สังเกตเห็นว่าตัวเขาเองมีอุปกรณ์ทุกอย่างที่เป็นอุปกรณ์สำหรับเกมเมอร์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด เมาส์ ไปจนถึงหูฟัง
จุดนี้เอง ก็ได้ทำให้ Ian ฉุกคิดขึ้นได้ว่าอุปกรณ์เล่นเกมก็ครบ แต่ทำไมเขายังขาดเก้าอี้สำหรับเล่นเกม
ทั้ง ๆ ที่มันก็เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญไม่น้อย เพราะยิ่งเราจะนั่งเล่นเกมนานเท่าไร
ความสำคัญของเก้าอี้ ที่ต้องคอยซัปพอร์ตสุขภาพของหลังเรา ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
ในความเป็นจริงแล้ว ณ เวลานั้น ก็พอมีแบรนด์เก้าอี้เกมมิง ที่มีดีไซน์สวยงาม แข็งแรง อีกทั้งมีบริการประกันครอบคลุมการใช้งานที่ดีอยู่แล้ว
แต่พอมองให้ลึกลงไปในรายละเอียด กลับยังไม่มีเก้าอี้เกมมิงแบรนด์ไหนเลยที่ตอบโจทย์เรื่องการรองรับสรีระของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในที่นี้ก็คือเก้าอี้ที่จะซัปพอร์ตสุขภาพของเรา ไม่ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยหรือบาดเจ็บกล้ามเนื้อจากการนั่งเป็นระยะเวลานาน
ซึ่งถ้ามองไปที่ตลาดตอนนั้น เก้าอี้ประสิทธิภาพสูงที่ถูกค้นคว้าวิจัยสำหรับปัญหาสุขภาพโดยเฉพาะยังคงมีราคาแพงและยังมีดีไซน์ที่ไม่ตอบโจทย์กับคำว่าเกมมิงเกียร์ เหมือนอุปกรณ์ชนิดอื่น ๆ ที่เขามี
จุดนี้เอง ที่ได้กลายไปเป็นไอเดียเริ่มต้นที่ทำให้เขาอยากก่อตั้งธุรกิจเก้าอี้เกมมิงขึ้นมา
เมื่อมีไอเดียแล้ว สเต็ปต่อไปก็คือการเช็กว่าไอเดียนี้เจ๋งพอหรือไม่
Ian จึงได้นำไอเดียเก้าอี้เกมมิงไปปรึกษากับหัวหน้าของเขา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Aftershock
โดยที่เขาก็ได้คำตอบกลับมาว่า “คุณอย่ามัวเสียเวลาและรอให้คนอื่นทำตัดหน้าไปก่อน”
พอได้รับคำแนะนำดังนั้น เขาจึงไม่รอช้าและก็ชวนเพื่อนสนิทของเขา หรือ Choo
ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นคนแรกที่เขานึกถึงและทำงานอยู่ในอาคารเดียวกันแต่อยู่กันคนละบริษัท
ส่วนเหตุผลที่ต้องเป็น Choo นอกจากเรื่องของความเชื่อใจในฐานะเพื่อนสนิทแล้ว
Choo คือผู้ที่เก่งในเรื่องที่เกี่ยวกับผู้คน และเก่งในด้านการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา
ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ Ian รู้ดีว่าเขาไม่เก่งและเป็นทักษะที่เขายังอ่อนอยู่
แต่เขารู้ดีว่ามันจะเป็นฟันเฟืองที่ทำให้ไอเดีย กลายมาเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
และเมื่อ Choo ได้ฟังเกี่ยวกับไอเดียของ Ian แล้ว เขาก็ได้ตกลงที่จะสร้างธุรกิจไปด้วยกันทันที
หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้รวบรวมเงินทุนราว 50,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 1.2 ล้านบาท
โดยมาจากเงินเก็บของตัวพวกเขาเองและเงินทุนจากครอบครัวบางส่วน
ซึ่งในวันที่เริ่มต้นบริษัทนั้น พวกเขามีอายุเพียง 22 ปี และ 26 ปีเท่านั้น
ในที่สุด..
ไอเดียที่ Ian บังเอิญคิดออกระหว่างจัดบ้าน
ก็ได้กลายมาเป็นบริษัทผลิตเก้าอี้เกมมิง “Secretlab”
สำหรับชื่อ Secretlab มาจากการที่พวกเขาชื่นชอบ คำว่า Secret
เนื่องจากพวกเขามองว่าคำนี้เป็นคำที่มีเสน่ห์ในภาษาอังกฤษ
ส่วนคำว่า Lab เพราะบ่งบอกถึงตัวตนของ Choo และความหลงใหลเกี่ยวกับงานวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ในห้องทดลองเหมือนนักวิทยาศาสตร์
พวกเขาทั้งคู่ใช้เวลานานกว่า 8 เดือนในการออกแบบตัวต้นแบบชิ้นแรก
และมีการปรับปรุงแก้ไขอีกกว่า 20 ครั้ง จนได้คลอดโมเดลรุ่นแรก
ออกมาในชื่อรุ่นว่า “Secretlab THRONE V1” ซึ่งเปิดตัวในปี 2015
เมื่อเก้าอี้ตัวนี้ ถูกนำเสนอสู่ตลาดเกมเมอร์สัปดาห์แรก
THRONE V1 ก็สามารถทำยอดขายไปได้กว่า 200 ตัว
จากกระแสตอบรับที่แรงเกินคาด ก็ได้ทำให้ธุรกิจเก้าอี้เกมมิงของ Ian และ Choo
คืนทุนตั้งแต่เดือนแรกที่ออกวางขาย..
พอเห็นแล้วว่า Secretlab ฮิตติดตลาด พวกเขาก็ได้โฟกัสไปที่การวิจัยและพัฒนาเก้าอี้เกมมิงต่อเนื่อง
เพราะแม้รูปลักษณ์มันจะสำคัญก็จริง แต่การที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตในระยะยาวนั้น
มันก็ต้องมีเรื่องของคุณภาพเข้ามาเกี่ยวเสมอ จึงไม่แปลกเลยที่เก้าอี้รุ่นที่เปิดตัวในปี 2020
พวกเขาใช้เวลานานถึง 3 ปีในการวิจัยและพัฒนา
ทั้งหมดนี้ก็ได้ทำให้เก้าอี้เกมมิงจาก Secretlab ได้รับการรีวิวที่ดีจากเหล่าคนดังในวงการเกม
รวมถึงผู้ใช้จำนวนมากในเรื่องความสบายจากการใช้งานและดีไซน์ที่สวยงาม
นอกจากนี้ ในการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตระดับโลก อย่างเช่น เกม Dota 2 หรือ League of Legends ก็มักจะเห็นเก้าอี้เกมมิงของ Secrestlab ปรากฏอยู่ในสนามแข่งขันหลายรายการ นั่นทำให้เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกต่างรู้จักแบรนด์เก้าอี้เกมมิง Secretlab เป็นอย่างดี
ภายหลังจากความสำเร็จในธุรกิจเก้าอี้สำหรับเกมเมอร์แล้ว
บริษัทก็ได้ขยายไปยังผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
อย่างเช่น โต๊ะเกมมิง และอุปกรณ์ตกแต่งอื่น ๆ สำหรับนักเล่นเกมโดยเฉพาะ
ในปี 2019 Heliconia Capital Management ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Temasek Holdings
ก็ได้ลงทุนใน Secretlab และบริษัทก็ได้รับการประเมินมูลค่าไว้ที่ 7,000 ล้านบาท
ปัจจุบัน Secretlab มีการจัดจำหน่ายไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และมีการผลิตเก้าอี้ออกจำหน่ายกว่า 1 ล้านตัวต่อปี
โดยยอดขาย 60% มาจากตลาดในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป
ในขณะที่ยอดขายในสิงคโปร์เองคิดเป็นเพียง 5% ของยอดขายรวมเท่านั้น
ซึ่งก็เรียกได้ว่า Secretlab กลายมาเป็นบริษัทระดับสากลไปแล้วเรียบร้อย
และจากผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้เกิดการทำงานในรูปแบบ Work From Home
ซึ่งผู้คนต้องใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น ก็ยิ่งช่วยผลักดันให้ผลประกอบการของผู้ผลิตเก้าอี้อย่าง Secretlab นั้นเติบโตอย่างมาก
โดย Secretlab มีรายได้ ณ สิ้นปีงบประมาณ 2021 ที่ 6,322 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปี 2020 ที่มีรายได้ 2,106 ล้านบาท หรือเติบโตเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ถึงตรงนี้ เราสามารถสรุปได้ว่าในบางครั้งไอเดียธุรกิจอาจเกิดขึ้นจากความช่างสังเกตของเรารวมกับงานอดิเรกที่เราทำ
อย่างตัว Secretlab เอง ก็เป็นอีกไอเดียที่ถูกต่อยอดมาเป็นธุรกิจได้
ทั้ง ๆ ที่หากเรามองไปที่จุดเริ่มต้นนั้น มันเริ่มมาจากการที่ Ian กำลังจัดบ้าน
และสังเกตเห็นว่าเขามีอุปกรณ์เล่นเกมครบ แต่ขาดเก้าอี้ที่ดีพอ
และอีกข้อคิดที่เราได้จาก Secretlab ก็คือ การยอมรับในจุดอ่อนของตัวเอง
ซึ่งก็ต้องย้อนไปวันแรกที่ Ian ก่อตั้งบริษัท และรู้ว่าตัวเขาเองไม่เก่งในเรื่องที่เกี่ยวกับผู้คน
ซึ่งพอรู้แบบนี้ เขาก็ไม่ฝืนและเลือกที่จะมองหาผู้ที่เขาไว้ใจและคิดว่าเก่งกว่าให้มาช่วยกันสร้างธุรกิจ
จนเขาก็ได้เพื่อนสนิทอย่างคุณ Choo ให้มาร่วมมือกันเพื่อช่วยปิดจุดอ่อนนั้น
ก็ต้องบอกว่างานของคุณ Choo ที่เข้ามารับผิดชอบด้านการวิจัยพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ก็กลายเป็นจุดแข็งของ Secretlab ซึ่งก็ได้ทำให้ในวันนี้ธุรกิจเก้าอี้เกมมิงของพวกเขาขายดีทั่วโลกและสร้างรายได้ระดับพันล้านบาท เลยทีเดียว..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า Ian กับ Choo ก็เรียกได้ว่าเป็นทั้งคอเกม และคอซีรีส์
นั่นก็เพราะว่า Ian ในฐานะ CEO มีป้ายประจำตำแหน่งที่ใช้ในออฟฟิศว่า Protector of the Realm หรือผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักร
ในขณะที่คุณ Choo ที่รับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ก็มีป้ายประจำตำแหน่งว่า Warden of the North หรือผู้คุมแดนเหนือ
ซึ่งทั้งคู่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากซีรีส์ Game of Thrones นั่นเอง..
╔═══════════╗
โรงเรียนนานาชาติเซนต์สตีเฟ่นส์ (กรุงเทพฯ) เชิญผู้ปกครองเข้าร่วมงาน Open Days เพื่อรับทราบถึงหลักสูตรการเรียนการสอนอันโดดเด่น ท่ามกลางบรรยากาศการดูแลเอาใจใส่นักเรียน
วันที่ 6 ธันวาคม 2564 เวลา 09:00 - 12:00 น. สำหรับนักเรียนระดับชั้นปฐมวัยอายุ 2 - 5 ปี
วันที่ 10 ธันวาคม 2564 เวลา 09:00 - 12:00 น. สำหรับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา อายุ 5 - 18 ปี
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.