รู้จัก เคแอนด์เค ซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ ในสงขลา ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ /โดย ลงทุนแมน

หากพูดถึงการซื้อข้าวของเครื่องใช้เข้าบ้านในทุกวันนี้
เรามักจะเลือกซื้อที่ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่มีชื่อเสียง
เช่น โลตัส บิ๊กซี หรือแม็คโคร

แต่รู้ไหมว่า ในสงขลามีซูเปอร์มาร์เก็ตที่เป็นที่นิยมไม่แพ้แบรนด์ใหญ่ นั่นก็คือ “เคแอนด์เค”

ที่น่าสนใจคือ เคแอนด์เค มีจุดเริ่มต้นมาจากหาบเร่ตลาดนัด
แต่วันนี้ได้กลายมาเป็นธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต ที่มีมูลค่ามากกว่า 900 ล้านบาท

จากหาบเร่ตลาดนัดกลายมาเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตร้อยล้านได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น
เคแอนด์เค ก่อตั้งโดยครอบครัว “สิริธนวงศ์สกุล”
ประกอบไปด้วย “คุณพ่อเว้ง แซ่โก่ว” และ “คุณแม่เฮียง แซ่ซึ้ง” และลูก ๆ อีก 12 คน
แรกเริ่มครอบครัวหาเลี้ยงชีพ ด้วยการหาบเร่สินค้าไปขายตามตลาดนัด

ต่อมาปี 2515 ครอบครัวเล็งเห็นโอกาส การเติบโตของร้านโชห่วยในจังหวัดสงขลา
ที่จะซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคไปทีละปริมาณมาก ๆ เพื่อนำไปแยกขายปลีกต่ออีกที

ครอบครัวสิริธนวงศ์สกุล จึงได้ตัดสินใจเปิดร้านค้าเล็ก ๆ และใช้ชื่อว่า “โก่วย่งฮั้ว” เพื่อขายส่งสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับร้านโชห่วยในจังหวัด รวมถึงให้บริการจัดส่งสินค้าในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย

ด้วยการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนั้น
ก็ได้ดึงดูดธุรกิจรายใหญ่หลายรายให้รุกเข้าสู่อุตสาหกรรมค้าปลีก

อย่างที่เราเห็นกันมาแล้ว
การเข้ามาของค้าปลีกสมัยใหม่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค
ผู้บริโภคหันไปใช้บริการค้าปลีกสมัยใหม่ แทนร้านโชห่วยแบบดั้งเดิม

เมื่อร้านโชห่วยไม่สามารถสู้ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้
ก็ต้องเลิกกิจการไปในที่สุด เรื่องนี้ส่งผลให้ลูกค้าของโก่วย่งฮั้วลดลงอย่างมาก
จุดนี้เอง ก็เรียกได้ว่าเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งที่บริษัทต้องเผชิญ

แต่ในท่ามกลางวิกฤติ ยังมีโอกาสเสมอ

เพราะแม้ว่ากลุ่มลูกค้าร้านโชห่วยแบบดั้งเดิมต้องเลิกกิจการไป แต่พี่น้องสิริธนวงศ์สกุลก็ยังเห็นโอกาสจากลูกค้าอีกกลุ่ม นั่นก็คือกลุ่มของพ่อค้าแม่ค้าที่ซื้อสินค้าไปขายต่อ
โดยลูกค้ากลุ่มนี้จะซื้อสินค้าไปขายต่อ ครั้งละปริมาณไม่มากเท่ากับร้านโชห่วย

บริษัทจึงหันไปเจาะตลาดกับกลุ่มนี้แทน โดยปรับโมเดลธุรกิจใหม่จากธุรกิจขายส่ง
เปลี่ยนเป็นธุรกิจขายปลีกภายใต้แนวคิด “ซูเปอร์มาร์เก็ตขายสินค้าในราคาส่ง”

จนกระทั่งในปี 2536 บริษัทจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “เค. แอนด์ เค. ซุปเปอร์ค้าส่ง” เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดบริษัทมากขึ้น

โดยชื่อ “เคแอนด์เค” มาจากชื่อผู้ร่วมก่อตั้ง คุณกิตติพล สิริธนวงศ์สกุล และคุณกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล ซึ่งทั้งสองมีชื่อภาษาอังกฤษขึ้นต้นด้วยตัว K

และการที่บริษัทมีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน จึงสามารถเข้าใจคนในพื้นที่เป็นอย่างดี ทำให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ บริษัทจึงได้ค่อย ๆ ขยายสาขาไปตามจังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียงในเวลาต่อมา

จนในปี 2563 ก็ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai
ใช้ชื่อว่าบริษัท เคแอนด์เค ซุปเปอร์สโตร์ เซาท์เทิร์น จำกัด (มหาชน)

ปัจจุบันบริษัทประกอบธุรกิจค้าปลีก และค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ค้าปลีกผ่านสาขา 28 สาขา และค้าส่งผ่านศูนย์กระจายสินค้า 1 แห่งในอำเภอหาดใหญ่ รวมถึงเป็นแหล่งกระจายสินค้าไปตามสาขาบริษัทด้วย

เรามาดูผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา

ปี 2561 รายได้ 948 ล้านบาท กำไร 16 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 936 ล้านบาท กำไร 12 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 974 ล้านบาท กำไร 15 ล้านบาท

โดยรายได้ทั้งหมดของบริษัทมาจาก
- รายได้จากธุรกิจค้าปลีก 83%
- รายได้จากธุรกิจค้าส่ง 16%
- รายได้อื่น ๆ อีก 1%

หากแบ่งสาขาตามที่ตั้งของแต่ละจังหวัดจะได้ว่า
สงขลามี 25 สาขา พัทลุงมี 2 สาขา และสตูลมี 1 สาขา

เราจะเห็นว่ารายได้ของบริษัทจะมาจากจังหวัดสงขลาเป็นหลัก หมายความว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจังหวัดสงขลา เป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของบริษัทด้วย

เรื่องราวความเป็นมาของ เคแอนด์เค ให้ข้อคิดอะไร ?

เรื่องแรก ก็น่าจะเป็นเรื่องการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจ
เหมือนที่ เคแอนด์เค เห็นโอกาสการเติบโตของร้านโชห่วยในขณะนั้น จึงตัดสินใจเปิดร้านค้าส่งมารองรับความต้องการของผู้บริโภค

รวมถึงการเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง ทำให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้เหมือนที่ เคแอนด์เค มีความเชี่ยวชาญ เข้าใจวิถีชีวิตชาวจังหวัดสงขลา และจังหวัดใกล้เคียง จึงสามารถขยายสาขาไปกว่า 28 สาขา ท่ามกลางคู่แข่งใหญ่ ๆ เช่น โลตัส และบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้

สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ การปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงในวันที่มีการแข่งขันอุตสาหกรรมรุนแรงมากขึ้น บริษัทจึงมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ พร้อมกับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้

ทั้งหมดนี้เอง ก็น่าจะเป็นเบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้ครอบครัวสิริธนวงศ์สกุล
จากที่เคยหาบเร่สินค้าไปขายตามตลาดนัด ได้กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจ
ที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน อย่างในทุกวันนี้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.kandk.co.th/KFile/2020-Report.pdf
-https://www.kandk.co.th/corporate-profile.php
-https://forbesthailand.com/people/entrepreneurs/
-https://www.hatyaifocus.com/
-https://data.go.th/dataset/e91e1a6d-89a5-46b0-9176-029f2388fcd5/resource/e650e3ba-3119-4e1a-a172-8aff227cb82d/download/-2564-30..64.pdf