กรณีศึกษา Peloton จากมูลค่า 2 ล้านล้าน วันนี้เหลือ 1 แสนล้าน

กรณีศึกษา Peloton จากมูลค่า 2 ล้านล้าน วันนี้เหลือ 1 แสนล้าน

2 พ.ค. 2023
กรณีศึกษา Peloton จากมูลค่า 2 ล้านล้าน วันนี้เหลือ 1 แสนล้าน /โดย ลงทุนแมน
Peloton เคยเป็นหนึ่งในหุ้น ที่นักลงทุนคาดหวังไว้สูง ก่อนที่ความคาดหวังจะกลายเป็นความผิดหวังอย่างรวดเร็ว สะท้อนให้เห็นจาก มูลค่าบริษัท Peloton
ปี 2019 มูลค่าบริษัท 275,000 ล้านบาท
ปี 2020 มูลค่าบริษัท 1,530,000 ล้านบาท
มูลค่าบริษัท Peloton เพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว และขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่เกือบ 2,000,000 ล้านบาท
กลับมาที่ปัจจุบัน Peloton มีมูลค่า เหลือเพียง 118,000 ล้านบาท เท่านั้น ร่วงลงมาจากจุดสูงสุด มากถึง 94% อยู่ในระดับต่ำที่สุด ตั้งแต่จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้น
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น กับ Peloton ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
อธิบายธุรกิจหลักของ Peloton สรุปง่าย ๆ เลย ก็คือ
- พัฒนาและขายอุปกรณ์ออกกำลังกายพรีเมียม เช่น เครื่องวิ่ง, เครื่องปั่นจักรยาน
- ให้บริการระบบสมาชิก เช่น คอร์สเทรนเนอร์ออนไลน์ ที่มาพร้อมกับเพลงของศิลปินชั้นนำ ไปจนถึงฟีเชอร์ออกกำลังกายออนไลน์กับเพื่อนบนจอคล้าย iPad บนเครื่องวิ่ง..
ก่อนหน้านี้ Peloton เคยเป็นหุ้นแห่งความหวัง ในช่วงล็อกดาวน์ จากการที่เราต้องอยู่แต่บ้าน และหันมาซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายในบ้าน
ความนิยมที่เกิดขึ้น ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัท จะกลายเป็นเมกะเทรนด์ เป็น New Normal ที่เราจะหันมาออกกำลังกายกันในบ้านทดแทนการเข้ายิม
จนถึงขนาดที่ว่า Peloton ถูกยกให้เป็น “Netflix for fitness” ทั้งในแง่การเข้าไปดิสรัปต์ธุรกิจยิมแบบดั้งเดิม รวมถึงการเติบโตของกิจการ แบบก้าวกระโดด
ในช่วงนั้น ผลประกอบการของ Peloton ก็เติบโตถล่มทลาย ตามที่หลายคนคาดไว้ไม่มีผิด
ปี 2019 รายได้ 31,500 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 62,900 ล้านบาท เติบโต 100%
แต่หากเรามาดูด้านค่าใช้จ่าย
ปี 2019 ค่าใช้จ่าย 38,500 ล้านบาท
ปี 2020 ค่าใช้จ่าย 65,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71%
สรุปสถานะ Peloton ในช่วงที่เล่ามา ก็คือ รายได้เติบโตสูง แต่ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นมากเป็นเงาตามตัวเหมือนกัน ธุรกิจจึงยังคงขาดทุนอยู่
แต่ด้วยกระแส New Normal การเป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นมาจาก Kickstarter ถูกมองว่าเป็นสตาร์ตอัปที่อยู่ในเมกะเทรนด์ นักลงทุนจึงสนใจหุ้นตัวนี้ มากเป็นพิเศษ
ในระดับที่มูลค่าบริษัท Peloton ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์ โดยมีมูลค่าเกือบ 2,000,000 ล้านบาท
แต่ตัวเลขนี้ ก็อยู่ได้ไม่นาน..
เพราะผ่านไปเพียงปีเดียว Peloton พลิกจากบริษัทเมกะเทรนด์ เป็นบริษัทที่รายได้ไม่เติบโต บวกกับเจอผลขาดทุนมหาศาล..
เหตุผลที่บริษัทอธิบายเอาไว้ก็มีทั้งจากปัญหาภายในบริษัทเอง และผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจ สรุปเป็นข้อ ๆ คือ
- ปรับลดราคาผลิตภัณฑ์ลง เพื่อต้องการกระตุ้นยอดขาย
- รับรู้ค่าใช้จ่าย เช่น เงินชดเชยเลิกจ้าง ค่ายกเลิกสัญญาซื้อขายวัตถุดิบ และการปรับมูลค่าทรัพย์สินต่าง ๆ ลง
โดย Peloton ก็ได้มีการปรับโครงสร้างค่าใช้จ่าย เช่น การปลดพนักงาน การปรับรูปแบบการผลิตจากเดิมที่ผลิตเองเป็นจ้างคนอื่นผลิต ไปจนถึงการจ้างบริษัทขนส่งให้ขนส่งสินค้าแทน เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย
จุดนี้ จึงเป็นข้อสงสัยที่ว่า Peloton ตั้งต้นจากการเป็นแบรนด์พรีเมียม แต่กลับปรับลดราคาลง จะทำให้แบรนด์เสียภาพลักษณ์หรือไม่ รวมถึงการปลดพนักงานในช่วงที่นักลงทุนคาดหวังไว้ว่าบริษัทจะเติบโต
บทสรุปของเรื่องดังกล่าว ก็ได้สะท้อนไปที่ยอดขายผลิตภัณฑ์หลัก ก็คือ ยอดขายเครื่องออกกำลังกาย ที่ปรับตัวลดลง
ปี 2021 รายได้เครื่องออกกำลังกาย 109,000 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้เครื่องออกกำลังกาย 75,000 ล้านบาท
ในขณะที่ Peloton มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เป็น 3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปี 2020 จนท้ายที่สุดในปี 2022 บริษัทขาดทุนไปเกือบ 100,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้ จึงทำให้หุ้นของ Peloton โดนถล่มขายจากนักลงทุนที่ผิดหวัง จนมูลค่าบริษัทเหลือเพียง 118,000 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 2 ปี
ที่น่าสนใจคือ บริษัทแห่งนี้ ก็เป็นอีกการลงทุนที่ผิดพลาดของกองทุน Ark ของ Cathie Wood ที่ได้เข้าไปลงทุนไว้ เพราะคาดว่าบริษัทจะเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่สุดท้ายก็ได้ขายขาดทุนออกมา..
ถ้าถามว่าเรื่องนี้ ให้บทเรียนอะไรกับเรา ?
ในความเป็นจริงแล้ว Peloton ก็เป็นเพียงบริษัทหนึ่ง ที่ทำธุรกิจและอยู่ในตลาดหุ้นเหมือนกับอีกหลายบริษัท
บริษัทมีผลิตภัณฑ์จริง
ขายของได้จริง
มีลูกค้า และมีแนวทางในการทำธุรกิจ
แต่สิ่งที่ Peloton อาจจะมีมากกว่าบริษัทอื่น ๆ ก็คือ “ความคาดหวังของนักลงทุน” ที่หวังเอาไว้จนอาจจะเกินความเป็นจริง
อาจจะด้วยเรื่องของการล็อกดาวน์ในช่วงโรคระบาด ที่เข้ามาช่วยกระตุ้นให้ผลประกอบการโตระเบิด พอดิบพอดี
หรือแม้แต่การคาดการณ์ว่าธุรกิจขายเครื่องปั่นจักรยาน ที่มีลูกเล่นเสริมเป็นจอคอร์สเทรนเนอร์ออนไลน์ เป็นเมกะเทรนด์ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกได้ จนลืมมองพื้นฐานของธุรกิจไป
เราในฐานะนักลงทุน จึงต้องชั่งน้ำหนักให้ดี ระหว่างความคาดหวัง และข้อเท็จจริง ของธุรกิจ ว่าอยู่ในมูลค่าที่เหมาะสมหรือไม่
เพราะหากความคาดหวังมันล้น
ในวันที่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามคาด
ทุกอย่างที่ถูกปั่นขึ้นไปก็จะตกลงมา
เหมือนเครื่องปั่นจักรยาน ที่ชื่อว่า Peloton..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://companiesmarketcap.com/peloton/marketcap/#:~:text=Market%20cap%3A%20%243.38%20Billion,cap%20according%20to%20our%20data.
-https://companiesmarketcap.com/peloton/pe-ratio/
-https://finance.yahoo.com/news/exclusive-warren-buffett-says-mr-125010039.html#:~:text=Market%20%2D%2D%20he's%20kind%20of,moral%20taint%20attached%20to%20that.%E2%80%9D
-https://investor.onepeloton.com/static-files/13124811-5f25-4103-8fb6-9364f789af57
-https://investor.onepeloton.com/static-files/18e825f8-acaa-4905-9214-a3b411d89f8b
-https://investor.onepeloton.com/static-files/1dbcdc3f-5fb7-41c7-a1af-05d2ee456a92
-https://investor.onepeloton.com/static-files/6fc0b035-ea15-4617-9558-8ebd348c1169
-https://investor.onepeloton.com/static-files/ffb429fe-79e4-4376-b8e7-e9247bf2e43c
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.