ทำไม Tomorrowland และ Taylor Swift ถึงสำคัญกับประเทศไทย

ทำไม Tomorrowland และ Taylor Swift ถึงสำคัญกับประเทศไทย

5 เม.ย. 2024
ทำไม Tomorrowland และ Taylor Swift ถึงสำคัญกับประเทศไทย /โดย ลงทุนแมน
จากเหตุการณ์ Taylor Swift ได้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ แต่ไม่มาเล่นที่ไทย รวมไปถึงคอนเสิร์ต Bruno Mars ที่เพิ่งได้มาจัดที่ไทย
ทำให้เราได้รู้ว่าการที่ประเทศไทยเป็นหมุดหมายของงานแสดงคอนเสิร์ตระดับโลก อาจเป็นเรื่องที่สำคัญที่ประเทศเราต้องมีการวางกลยุทธ์ในเรื่องนี้แบบเป็นระบบ
รวมไปถึงล่าสุด มีข่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ Tomorrowland จะใช้ประเทศไทยเป็นประเทศในการจัดงาน
สำหรับคนที่ไม่รู้จักว่า Tomorrowland คืออะไร ก็ต้องบอกว่า Tomoorrowland เป็นงานเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ระดับโลก และมีการวิเคราะห์กันว่างานนี้จะสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจได้ประมาณ 9,000 ล้านบาท
9,000 ล้านบาท นี่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ?
ก็มากพอกันกับมูลค่าทางเศรษฐกิจ ที่ Taylor Swift ทำได้จากการจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น
Tomorrowland คือ งานเทศกาลดนตรี EDM ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้
ซึ่งจุดเด่นของงานนี้ก็คือ ธีมงานในแต่ละปีที่มีความยิ่งใหญ่ และจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทุกครั้ง
โดย Tomorrowland ถูกจัดขึ้นครั้งแรก ตอนปี 2005 ในเมือง Boom ประเทศเบลเยียม
ในตอนนั้นงานมีจัดวันเดียว มีคนเข้าร่วมงานเพียง 9,000 คน ก่อนจะมีเสียงตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ จนขยายการจัดงานไปต่างประเทศ อย่างเช่น
- งาน TomorrowWorld ที่จัดในเมือง Chattahoochee Hills ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อน SFX Entertainment บริษัทที่เป็นเจ้าของงานนี้ จะเจอปัญหาสภาพคล่องจนงานไม่ได้ไปต่อ
- งาน Tomorrowland Brazil ที่จัดที่ประเทศบราซิล ในเมืองเซาเปาลู เมืองแห่งวัฒนธรรม และ สถาปัตยกรรมที่สวยงาม
- งาน Tomorrowland Winter ที่จัดที่ประเทศฝรั่งเศส บนยอดเขา Alps ยอดเขาที่สูงที่สุดในยุโรป
ทั้งหมดนี้ทำให้ Tommorrowland กลายเป็นงานที่มีคนเข้าร่วมจากทั่วโลกมากกว่า 600,000 คน จากทุกประเทศที่จัด และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ หลายพันล้านบาท
เริ่มตั้งแต่งาน Tomorrowland ในเบลเยียม ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 9,000 ล้านบาท เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ไปจนถึงงาน TomorrowWorld ที่จัดขึ้นตอนปี 2014 ในสหรัฐอเมริกา ก็สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมาแล้วถึง 3,100 ล้านบาท
ส่วนงาน Tomorrowland Brasil และงาน Tomorrowland Winter ถึงจะไม่มีประมาณการมูลค่าที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจออกมา แต่ก็มีคนเข้าร่วมเกือบ 200,000 คน
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็จะเห็นได้ว่า ถ้า Tomorrowland เลือกไปจัดงานที่ประเทศไหน ก็แทบจะการันตีเลยว่าประเทศนั้นจะได้เงินสะพัด เข้าไปทุกปี
และเรื่องนี้เริ่ม ก็ดูมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยเหมือนกัน
เพราะจากข่าวล่าสุด ที่ทางรัฐบาลไทย ได้มีการลงนามข้อตกลง MOU กับ หุ้นส่วนที่เป็นบริษัทเอกชนในไทย เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ ของการจัดงาน Tomorrowland
แล้วถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง
มันจะส่งผลอย่างไรกับไทย ?
เรื่องแรก ก็คือ อุตสาหกรรมดนตรีในไทยจะเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด
เพราะตอนนี้ อุตสาหกรรมดนตรีในประเทศมีมูลค่าอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท
แต่ที่ผ่านมางาน Tomorrowland สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ 3,000 ถึง 9,000 ล้านบาท
โดยที่ครึ่งหนึ่งของมูลค่าตรงนี้จะไหลเข้าอุตสาหกรรมดนตรีโดยตรง
นั่นก็เท่ากับว่า ถ้างานนี้เกิดขึ้นจริง อุตสาหกรรมดนตรีในไทย ปีนั้นก็จะพุ่งขึ้นเป็หลายเท่าตัว
ส่วนอีกเรื่องก็คือ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่จะได้ประโยชน์
อย่างที่รู้กันว่า ประเทศไทยมีจุดแข็ง ที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรมอาหาร แลนด์มาร์กอย่างเช่น วัด ไปจนถึง สถานที่ท่องเที่ยว อย่างเช่น ทะเล ภูเขา
การเป็นพาร์ตเนอร์กับ Tomorrowland ก็จะเป็นการเสริมจุดแข็งตรงนี้ และ ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะนักท่องเที่ยวก็คาดหวังว่าจะมีเข้างานเทศกาลดนตรีไปด้วย และท่องเที่ยวในประเทศไทยตามจุดต่าง ๆ ไปด้วย
และด้วยการท่องเที่ยวไทยที่เข้มข้น ก็อาจะทำให้มูลค่าเศรษฐกิจ มากขึ้นไปถึงระดับ 20,000 ล้านบาทได้
ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยแบบฟรี ๆ
ด้วยคนเป็นแสนคน ที่ไม่ต้องใช้เงินจ้างโฆษณา และที่สำคัญเป็นประชาสัมพันธ์แบบ organic ที่ไม่ต้องจัดฉากแบบดูไม่เป็นธรรมชาติ
ซึ่งเป็นผลดีกับเศรษฐกิจไทย เพราะไทยเองพึ่งพาการท่องเที่ยว เป็นสัดส่วนถึง 16% ของ GDP ซึ่งก็เรียกได้ว่ามีผลต่อภาพรวม
ในขณะเดียวกัน เราก็มีโอกาส ที่จะใช้งาน Tomorrowland ในการโปรโมตบ้านเราได้ แบบที่เกิดขึ้นกับ Taylor Swift และสิงคโปร์
แต่แน่นอนว่าสิ่งสำคัญ ที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือ “ความพร้อม” ของตัวเราเองด้วย
ด้วยความที่เป็นเทศกาลดนตรี ที่เรียกได้ว่าใหญ่สุดในโลก แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นเงาตามตัวมาด้วย ก็คือ ความเป็นมาตรฐาน
ดังนั้นความพร้อมทางด้านบุคลากร ตั้งแต่การประสานงาน ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก ของประเทศไทย ก็ต้องผ่านเกณฑ์ สิ่งเหล่านี้ จึงจะเกิดขึ้นได้
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็จะเห็นได้ว่า Tomorrowland เป็นงานเทศกาลดนตรีที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมาก มีคนตามไปดูทุกปี และ ประสบความสำเร็จจนขยายการจัดออกไปในหลายประเทศ
ซึ่งก็น่าติดตามว่า ประเทศไทยที่เป็นเป้าหมายต่อไป งานนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่
ที่ผ่านมา อาจมีคนพูดกันว่า
คนไทย บริษัทไทย ต้องปรับตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยี ผลิตชิป ผลิต EV ที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก
ข้อความนี้ ก็ไม่ได้ผิดอะไร
แต่ในอีกมุมหนึ่ง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่เป็นสิ่งที่ประเทศไทยมีจุดเด่นอยู่แล้ว หากเราโฟกัส เตรียมทุกอย่างให้พร้อม
มันก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญ ที่ทำให้ประเทศไทยเป็นที่หนึ่งในด้านนี้ ไม่แพ้สิงคโปร์..
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.