สรุป “เครือสหพัฒน์” เซ็น MOU ผนึกพันธมิตร เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

สรุป “เครือสหพัฒน์” เซ็น MOU ผนึกพันธมิตร เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

เครือสหพัฒน์ X ลงทุนแมน
ย้อนกลับในปี 2485 “เฮียบเซ่งเชียง” เป็นร้านค้าเล็ก ๆ ที่ขายของเบ็ดเตล็ด เริ่มขายสินค้าอุปโภคบริโภค ไปพร้อม ๆ กับการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น “สหพัฒนพิบูล” ที่คนไทยคุ้นเคยกันในตอนนี้
ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่สร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจนี้มาตลอดกว่า 83 ปีที่ผ่านมา คือ การขยายขอบเขตสินค้าอุปโภคบริโภคให้กว้างออกไปเรื่อย ๆ
ล่าสุดปี 2568 ภายในงานสหกรุ๊ปแฟร์ & เฟส ครั้งที่ 29
เครือสหพัฒน์ ประกาศลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับพันธมิตรต่าง ๆ ในหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น อสังหาริมทรัพย์, เทคโนโลยี, อีคอมเมิร์ซ, การลงทุนระหว่างประเทศ, พลังงานสะอาด, การบิน ไปจนถึงค้าปลีก และการศึกษาเลยทีเดียว
แล้วในครั้งนี้ เครือสหพัฒน์ประกาศความร่วมมือกับใครบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เริ่มต้นกันที่ “ธุรกิจอสังหาฯ และการท่องเที่ยว”
เครือสหพัฒน์ ร่วมมือกับ “ดุสิตธานี” โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนา “โครงการดุสิต สวีท เจ-พาร์ค ศรีราชา” ด้วยคอนเซปต์ที่พักที่ผสานกลิ่นอายญี่ปุ่นกับมาตรฐานการบริการระดับสากลจากดุสิตธานี เพื่อยกระดับอำเภอศรีราชา ให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวทั่วโลก
รวมทั้งยังร่วมมือกับ “ไทยโอบายาชิ” เพื่อร่วมกันพัฒนา โรงแรมอัลตราลักชัวรีย่านราชดำริ ที่มี Seibu Prince Hotels Worldwide จากญี่ปุ่น ซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี มาเป็นผู้บริหารจัดการโรงแรม
นับเป็นการสร้างแลนด์มาร์กใหม่ให้กับประเทศไทย ที่ผสานวัฒนธรรมไทย-ญี่ปุ่นเข้าไว้ด้วยกันอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามในภาคของการท่องเที่ยว นอกจากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ แล้ว ต้องบอกว่า “ธุรกิจการบิน” ก็สำคัญไม่แพ้กัน
เครือสหพัฒน์ ได้ร่วมมือกับ “บางกอกแอร์ เอวิเอชั่น เทรนนิ่ง เซ็นเตอร์” โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่ Private Airfields และสิ่งอำนวยความสะดวกในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ มามีส่วนรวมในการยกระดับมาตรฐานการฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินให้เทียบเท่าระดับสากล ตั้งแต่การเพิ่มจำนวนนักเรียนการบิน การจัดการเรียนการสอน ไปจนถึงการพัฒนาหลักสูตร
นอกจากนี้ เครือสหพัฒน์ ยังให้ความสำคัญทางด้านพลังงานสะอาด สังเกตได้จากกการร่วมมือกับ “ราชพัฒนา เอ็นเนอร์ยี” ในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดที่จะให้บริการที่ บริษัท เอจีซี ไมโคร กลาส (ประเทศไทย) จำกัด ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ จังหวัดลำพูน ถือเป็นก้าวแรกสู่การสร้างสวนอุตสาหกรรมสีเขียวในอนาคตเลยทีเดียว
ทีนี้ลองมาดูความร่วมมือกับภาคต่างประเทศกันบ้าง..
รู้หรือไม่ว่า บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินงานด้านการลงทุนและการพัฒนาในเครือสหพัฒน์ ได้ลงนามความร่วมมือกับ “ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน)” เพื่อส่งเสริมการลงทุนระหว่างไทย-จีน และสนับสนุนการดำเนินธุรกรรมทางการเงินข้ามพรมแดนอย่างมีประสิทธิภาพ
เช่นเดียวกับการร่วมมือกับ “DHL” เพื่อขยายขีดความสามารถของห่วงโซ่อุปทานของกลุ่มสหกรุ๊ป พร้อมกับการต่อยอดธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังร่วมมือทางการตลาดอินฟลูเอนเซอร์ในภูมิภาคเอเชียระหว่าง BigxShow, Media Intelligence, Hakuhodo Thailand, LALA Station (JAPAN) และ HUUM เพราะต้องการจะขยายธุรกิจ Influencer Marketing พร้อมพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่ให้ก้าวสู่ระดับภูมิภาคเอเชียในเวลาเดียวกัน
และอีกหนึ่งในความร่วมมือที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ การเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ “Amazon Web Services” ผู้นำเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติงระดับโลก
โดยเชื่อว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติระบบดิจิทัลในเครือสหพัฒน์ หลังจากนี้อาจได้เห็นการนำ AI, Machine Learning และ Data Analytics เข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจ ที่คงไม่ใช่แค่การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานเท่านั้น
แต่ยังเป็นการปูทางสู่การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลอีกด้วย
ถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วในด้านการค้าและการตลาด เครือสหพัฒน์ เดินหน้าอย่างไรบ้าง ?
คำตอบก็คือ เครือสหพัฒน์ ร่วมมือกับ “สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ” ภายใต้โครงการ Buy With Confidence เพื่อยกระดับมาตรฐานและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยไปสู่ตลาดโลก
นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ “สมาคมการค้าไทยมุสลิม” เพื่อขับเคลื่อนตลาดและช่องทางการจำหน่ายสินค้าฮาลาลไทยสู่เวทีสากล
รวมทั้งการร่วมมือกับ “Etoile Kaito” จากญี่ปุ่น โดยเปิดร้าน Kamakura Neco Salon แห่งแรกในไทย เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านสินค้าไลฟ์สไตล์ในธีมแมว
ส่วนการร่วมมือกับ “โฟกัส มีเดีย (ประเทศไทย)” ก็เพื่อการส่งเสริมศักยภาพในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ และขยายโอกาสทางธุรกิจในการเข้าถึงตลาดต่างประเทศมากขึ้นนั่นเอง
ท้ายนี้ อีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่เครือสหพัฒน์ไม่เคยลืมก็คือ ภาคการศึกษา, ทรัพยากรมนุษย์ และสุขภาพ
โดยเครือสหพัฒน์ร่วมมือกับ “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” เพื่อผลิตบุคลากรสายวิชาการ และสายสนับสนุนวิชาการ ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและส่งเสริมการพัฒนานักศึกษา รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือในการบริการทางวิชาการแก่สังคมและชุมชน ทั้งภาครัฐและเอกชน
นอกจากนี้ ยังจับมือกับ “มหาวิทยาลัยศรีปทุม” เพื่อพัฒนาศักยภาพครูให้มีความรู้ในการใช้ AI พร้อมเสริมสร้างคุณธรรมความซื่อสัตย์ เรียกได้ว่า เป็นการยกระดับการศึกษาไทยให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
ที่สำคัญในมิติด้านสุขภาพ ดองกิ (ประเทศไทย) หนึ่งในเครือสหพัฒน์ ยังได้ร่วมมือกับ “เขตสุขภาพที่ 5 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข” เพื่อส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์สุขภาพจากชุมชนท้องถิ่น และยกระดับมาตรฐานให้เทียบเท่าสากล
สรุปแล้ว การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ทั้งหมดนี้ คงไม่ใช่เพียงเพื่อผลักดันธุรกิจเครือสหพัฒน์ให้เติบโต
แต่ในขณะเดียวกัน ยังเป็นการเปิดประตูให้ธุรกิจไทยได้ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันที่เกิดจากการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตขึ้น อีกด้วย..
Reference
- ข้อมูลเปิดเผยจากเครือสหพัฒน์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon