
ONSENS ผู้นำธุรกิจออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นและสปาแบบครบวงจร กำลังจะ IPO
ONSENS x ลงทุนแมน
สังเกตไหมว่ายุคนี้ คนไทยให้ความสนใจกับการดูแลรักษาสุขภาพที่มากขึ้น
ซึ่งหากพูดถึงกิจกรรมเพื่อสุขภาพ หรือ Wellness Activities ที่ทุกคนคุ้นเคย ก็คงจะหนีไม่พ้นการออกกำลังกาย เช่น การเข้าฟิตเนส, การเล่นกีฬา, การเดิน และการวิ่ง หรือแม้แต่กิจกรรม Ice Bath ที่เป็นกระแสในปัจจุบัน
รู้หรือไม่ว่า อีกหนึ่งศาสตร์การฟื้นฟูที่นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และปรับสมดุลร่างกายแล้ว ยังช่วยให้ผ่อนคลายเพื่อให้จิตใจได้พักผ่อน ช่วยให้นอนหลับสบาย
สิ่งนั้นคือการแช่ “ออนเซ็น” หรือการแช่น้ำแร่ร้อนแบบญี่ปุ่น ที่เป็นธรรมเนียมเก่าแก่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
ซึ่งก็เปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ อย่างธุรกิจออนเซ็นหรือบ่อน้ำร้อน
และชื่อแรกที่ทุกคนนึกถึงก็น่าจะมีชื่อแบรนด์ “Yunomori” ต้นตำรับออนเซ็นญี่ปุ่นรายแรกในประเทศไทยรวมอยู่ด้วย
และชื่อแรกที่ทุกคนนึกถึงก็น่าจะมีชื่อแบรนด์ “Yunomori” ต้นตำรับออนเซ็นญี่ปุ่นรายแรกในประเทศไทยรวมอยู่ด้วย
สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือ แบรนด์ดังกล่าวมีเจ้าของเป็นคนไทยซึ่งบริหารภายใต้ บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ONSENS
ที่กำลังจะ IPO เร็ว ๆ นี้
ที่กำลังจะ IPO เร็ว ๆ นี้
แล้วความน่าสนใจของธุรกิจนี้เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน ONSENS ถือเป็นผู้นำบริการออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่น ร่วมกับการบริการสปาแบบครบวงจรเป็นรายแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ ยูโนะโมริ ออนเซ็น แอนด์ สปา (Yunomori Onsen and Spa)
ด้วยจุดเด่นในการผสานวัฒนธรรมการแช่ออนเซ็นแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น เข้ากับบริการสปานวดแผนไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยคุณภาพการบริการที่มีมาตรฐานเทียบเท่าบริการสปาในโรงแรม 5 ดาว
จากผู้ให้บริการระดับมืออาชีพที่ยากต่อการลอกเลียนแบบ พร้อมมอบประสบการณ์การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Wellness) แก่ลูกค้าในราคาที่เข้าถึงง่าย
ภายใต้การดูแลของทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจธุรกิจออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่น และสปาเป็นอย่างดี
ภายใต้การดูแลของทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจธุรกิจออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่น และสปาเป็นอย่างดี
จุดนี้เอง ทำให้ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจมา ไม่ว่าพฤติกรรมลูกค้าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
ONSENS ก็สามารถวิเคราะห์การแข่งขัน เพื่อกำหนดกลยุทธ์มาพัฒนาธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ONSENS ก็สามารถวิเคราะห์การแข่งขัน เพื่อกำหนดกลยุทธ์มาพัฒนาธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการจะมอบประสบการณ์ในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ในรูปแบบที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ส่งผลให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีจนเกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) และสามารถสร้างความจดจำแก่ผู้บริโภคได้ในวงกว้าง
จึงไม่แปลกที่ภาพรวม ONSENS กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
สังเกตได้จากผู้ใช้บริการออนเซ็นสปาในปี 2565 เฉลี่ยราว 20,844 คนต่อเดือน เพิ่มขึ้นมาเป็น 26,075 คนต่อเดือน ในปี 2567 หรือเติบโตเฉลี่ย 11.85% ต่อปี
สังเกตได้จากผู้ใช้บริการออนเซ็นสปาในปี 2565 เฉลี่ยราว 20,844 คนต่อเดือน เพิ่มขึ้นมาเป็น 26,075 คนต่อเดือน ในปี 2567 หรือเติบโตเฉลี่ย 11.85% ต่อปี
โดยปัจจุบันนี้ ONSENS เปิดบริการภายใต้ 2 แบรนด์คือ
- Yunomori Onsen and Spa
บริการออนเซ็นหลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยสปาแบบครบจบในที่เดียว
รวมทั้งสิ้น 4 สาขา แบ่งเป็นสาขาในไทย 3 สาขา คือ สุขุมวิท 26, สาทร 10 และพัทยา
และสิงคโปร์ 1 สาขา
บริการออนเซ็นหลากหลายรูปแบบ พร้อมด้วยสปาแบบครบจบในที่เดียว
รวมทั้งสิ้น 4 สาขา แบ่งเป็นสาขาในไทย 3 สาขา คือ สุขุมวิท 26, สาทร 10 และพัทยา
และสิงคโปร์ 1 สาขา
- KLAI SPA
บริการสปาในรูปแบบเดย์สปา ที่ผสมผสานศาสตร์การนวดไทยโบราณ เข้ากับเทคนิคการบำบัดสมัยใหม่
ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งด้วยศิลปะรูปแบบไทยร่วมสมัย
ปัจจุบันมี 1 สาขาคือ เยาวราช
บริการสปาในรูปแบบเดย์สปา ที่ผสมผสานศาสตร์การนวดไทยโบราณ เข้ากับเทคนิคการบำบัดสมัยใหม่
ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งด้วยศิลปะรูปแบบไทยร่วมสมัย
ปัจจุบันมี 1 สาขาคือ เยาวราช
จะเห็นได้ว่าทำเลแต่ละแห่งนั้นอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ ใจกลางเมือง และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการจะรองรับทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาตินั่นเอง
ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการจะรองรับทั้งลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาตินั่นเอง
นอกจากนี้ ONSENS ยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มชื่อว่า “Happy Rice”
ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมเมดในทุกสาขาของ Yunomori เพื่อรับรองลูกค้าที่มาใช้บริการออนเซ็นหรือสปา ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในวันพักผ่อนให้สมบูรณ์แบบ และครบวงจรในที่เดียว
ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมเมดในทุกสาขาของ Yunomori เพื่อรับรองลูกค้าที่มาใช้บริการออนเซ็นหรือสปา ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในวันพักผ่อนให้สมบูรณ์แบบ และครบวงจรในที่เดียว
ทีนี้ลองมาดูผลประกอบการของ ONSENS กันบ้าง..
ปี 2565
รายได้รวม 205 ล้านบาท กำไรสุทธิ 14.8 ล้านบาท
อัตรากำไรขั้นต้น 34%
อัตรากำไรสุทธิ 7.2%
รายได้รวม 205 ล้านบาท กำไรสุทธิ 14.8 ล้านบาท
อัตรากำไรขั้นต้น 34%
อัตรากำไรสุทธิ 7.2%
ปี 2566
รายได้รวม 273.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 43.5 ล้านบาท
อัตรากำไรขั้นต้น 42%
อัตรากำไรสุทธิ 16%
รายได้รวม 273.9 ล้านบาท กำไรสุทธิ 43.5 ล้านบาท
อัตรากำไรขั้นต้น 42%
อัตรากำไรสุทธิ 16%
ปี 2567
รายได้รวม 288.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 33.3 ล้านบาท
อัตรากำไรขั้นต้น 45%
อัตรากำไรสุทธิ 11.5%
รายได้รวม 288.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 33.3 ล้านบาท
อัตรากำไรขั้นต้น 45%
อัตรากำไรสุทธิ 11.5%
โดยบริษัทฯ มีรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามจำนวนผู้ใช้บริการออนเซ็นและสปาที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้นทุนหลักของบริษัทฯ เป็นต้นทุนคงที่ ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาดจากการให้บริการ (Economies of Scale) สะท้อนมายังอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนอัตราส่วน D/E Ratio ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 2.5 เท่า
โดยสัดส่วน 81.96% นั้นเป็นหนี้สินจากสัญญาเช่า หากพิจารณาเฉพาะส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย บริษัทฯ จะมีอัตราส่วน IBD/E อยู่เพียง 0.3 เท่า
สะท้อนฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และความพร้อมในการรองรับการเติบโตในอนาคต
โดยสัดส่วน 81.96% นั้นเป็นหนี้สินจากสัญญาเช่า หากพิจารณาเฉพาะส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย บริษัทฯ จะมีอัตราส่วน IBD/E อยู่เพียง 0.3 เท่า
สะท้อนฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และความพร้อมในการรองรับการเติบโตในอนาคต
ก้าวต่อไปของ ONSENS คือ การวางเป้าหมายสู่ Social Wellness Space ชั้นนำของประเทศ
ด้วยการต่อยอดการพัฒนา Social Wellness Hotel & Spa โครงการแรกที่ทองหล่อซอย 17 เพื่อให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและไลฟสไตล์อย่างครบวงจร
ด้วยการต่อยอดการพัฒนา Social Wellness Hotel & Spa โครงการแรกที่ทองหล่อซอย 17 เพื่อให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและไลฟสไตล์อย่างครบวงจร
พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่ปลายปีในชื่อ PAK Massage ด้วยแนวคิดที่เข้าถึงง่ายในราคาที่จับต้องได้ โดยตั้งเป้าเป็นร้านนวดยุคใหม่ ที่ตอบสนองวิถีชีวิตคนเมือง
โดยมีแผนขยายสาขาครอบคลุมทั้งแบรนด์ Yunomori และแบรนด์อื่น ๆ รวม 8 สาขา ภายในปี 2570 เพื่อรองรับความต้องการด้านสุขภาพแบบองค์รวมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
อุตสาหกรรมสปาในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 61,900 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 9.41% ต่อปี
โดยที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ศูนย์กลางสปาแห่งเอเชีย”
อุตสาหกรรมสปาในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 61,900 ล้านบาท มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 9.41% ต่อปี
โดยที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ศูนย์กลางสปาแห่งเอเชีย”
Reference :
- เอกสารข้อมูลธุรกิจ บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
- เอกสารข้อมูลธุรกิจ บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
Tag: ONSENS