
อ่านรายงานประจำปี จำเป็นต่อการลงทุนในหุ้น แต่หนา 100 หน้า ให้ AI อย่าง NotebookLM สรุปได้ใน 1 นาที ทำอย่างไร ?
อ่านรายงานประจำปี จำเป็นต่อการลงทุนในหุ้น แต่หนา 100 หน้า ให้ AI อย่าง NotebookLM สรุปให้ได้ใน 1 นาที ทำอย่างไร ? /โดย ลงทุนแมน
- หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้เรารู้จักบริษัทมากยิ่งขึ้น และมีประโยชน์ต่อการลงทุนคือ อ่านรายงานประจำปี และงบการเงินของบริษัท
โดยในเอกสารนั้นจะประกอบด้วยข้อมูลและตัวเลขทางการเงินที่สำคัญมากมาย ซึ่งสามารถใช้ในการวิเคราะห์การลงทุน
ไม่ว่าจะเป็น ภาพรวมธุรกิจ, ลักษณะการประกอบธุรกิจ, สัดส่วนรายได้, ปัจจัยความเสี่ยง และอื่น ๆ อีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น ภาพรวมธุรกิจ, ลักษณะการประกอบธุรกิจ, สัดส่วนรายได้, ปัจจัยความเสี่ยง และอื่น ๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม เอกสารเหล่านี้มักจะมีความหนาไม่ต่ำกว่า 100 หน้า ซึ่งหากอ่านเองทั้งหมดจะต้องใช้เวลาและพลังงานไม่น้อยเลย
ตรงนี้เองที่ NotebookLM เครื่องมือ AI จาก Google เข้ามาช่วยเราได้
- ทำไม NotebookLM ถึงเหมาะกับการสรุปงบการเงินและรายงานประจำปี ?
เพราะ NotebookLM ถูกออกแบบให้เป็นที่ปรึกษาหรือผู้ช่วยส่วนตัว ด้านการอ่านและสรุปเอกสารโดยเฉพาะ ซึ่งเราโยนไฟล์ PDF หรือเว็บไซต์ให้ได้เลย (โยนลิงก์ YouTube ให้ช่วยสรุปทั้งคลิปยังได้ด้วย)
แต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดคือ NotebookLM จะใช้เฉพาะข้อมูลที่เราป้อนเท่านั้น ไม่ดึงข้อมูลจากข้างนอกซึ่งอาจส่งผลให้คำตอบที่ได้ไม่ตรงกับข้อมูลที่เรามี แตกต่าง AI Chatbot เจ้าอื่น ๆ
พร้อมยังบอกอีกด้วยว่า คำตอบที่ได้นั้นมาจากส่วนไหนในเอกสารที่เราป้อนเข้าไป
สำหรับการใช้ NotebookLM อ่านรายงานและงบการเงินจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก
- ส่วนที่ 1 ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่ไม่ใช่ตัวเลข
คำถาม (Prompt) ที่ใช้ในการหาข้อมูล ได้แก่
1. “บริษัททำธุรกิจอะไร”
นอกจากจะได้คำตอบแบบสรุปว่า บริษัททำธุรกิจอะไร แล้วยังได้รู้ว่าบริษัทมีสินค้าและบริการอะไรบ้าง ที่มาพร้อมกับคำอธิบายในแต่ละส่วน
ตัวอย่างเช่น Alphabet โฮลดิงที่มีสินค้าและบริการในเครือมากมาย ตั้งแต่ Google Search, YouTube, Google Workspace, Gemini จนถึง Waymo
ถ้าไล่อ่านเองอาจจะเหนื่อย แต่ NotebookLM สามารถสรุปเนื้อหาให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ได้เลย พร้อมแปลไทยอีกด้วย
2. “กลยุทธ์ของบริษัทคืออะไร”
หนึ่งในตัวตัดสินสำคัญว่า อนาคตของบริษัทหรือหุ้นที่เราลงทุน จะเป็นอย่างไร
โดย NotebookLM จะสรุปกลยุทธ์หลัก และแบ่งกลยุทธ์แยกย่อยออกมาให้เห็นด้วย สามารถนำไปใช้กับการคาดการณ์ผลประกอบการได้
3. “มีปัจจัยเสี่ยงและการบริหารความเสี่ยงอย่างไร”
หลายคนมักจะมองแต่ด้านบวก จนลืมว่าการทำธุรกิจจริง ๆ ก็มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง ซึ่งในรายงานประจำปี จะมีเนื้อหาส่วนนี้อยู่แล้ว เพราะทุกบริษัทถูกบังคับให้เขียน
โดยปัจจัยเสี่ยงในรายงานประจำปีจะเป็นปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อธุรกิจ ทำให้เราประเมินสถานการณ์ได้ครอบคลุมมากขึ้น
ขณะเดียวกันการที่เรารับรู้ว่า บริษัทบริหารความเสี่ยงอย่างไร ก็ช่วยให้ประเมินได้ว่า ความเสี่ยงที่บริษัทมีนั้นลดน้อยลงหรือไม่ และแค่ไหน
4. “มีข้อพิพาททางกฎหมายหรือไม่ อย่างไร”
อีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคนมองข้าม แต่ก็ส่งผลต่อธุรกิจอย่างรุนแรงได้เช่นกัน
ตัวอย่างเช่น 3M ที่โดนฟ้องร้องเกี่ยวกับอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค จนมูลค่าหุ้นลดลงมากกว่า 60%
ดังนั้นเราจึงควรรู้ว่า บริษัทมีข้อพิพาททางกฎหมายอะไรอยู่บ้าง
5. “สรุปเนื้อหาที่ CEO เขียนถึงผู้ถือหุ้น”
สิ่งที่ CEO เขียนจะบอกเราได้ว่า ภาพรวมเกี่ยวกับบริษัทในปัจจุบันเป็นอย่างไร เหตุการณ์สำคัญมีอะไรบ้าง กลยุทธ์ในการดำเนินงาน และแนวโน้มในอนาคตมีทิศทางแบบไหน
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของส่วนนี้คือ มุมมองของ CEO ที่มีต่อบริษัทเป็นอย่างไร เช่น Jeff Bezos อดีต CEO ของ Amazon ที่มักจะเน้นย้ำการทำธุรกิจและลงทุนให้ได้กระแสเงินสดมหาศาลในอนาคต มากกว่าการทำตัวเลขผลประกอบการให้สวยในทุกไตรมาส
6. “ขอข้อมูลผู้ถือหุ้นและผู้บริหาร”
ความสำคัญของผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ เป็นกลุ่มคนที่มีสิทธิออกเสียงสำคัญ เราที่เป็นนักลงทุนรายย่อยจึงควรที่จะรู้จักไว้
และหนึ่งสิ่งที่หุ้นนอกแตกต่างจากหุ้นไทยคือ บริษัทหนึ่งสามารถมีหุ้นได้หลากหลาย Class เช่น Alphabet มีหุ้น Class A, หุ้น Class B และหุ้น Class C
ซึ่งแต่ละ Class มีสิทธิออกเสียงที่ไม่เท่ากัน
NotebookLM นอกจากจะตอบข้อมูลผู้ถือหุ้นแล้ว ยังจะบอกด้วยว่า บริษัทนั้น ๆ มีหุ้นกี่ Class แล้วแต่ละ Class มีสิทธิออกเสียงเท่าไร
ส่วนผู้บริหารก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นคนคุมทิศทางบริษัท บริษัทที่ดีสามารถกลายเป็นบริษัทที่เลวร้ายได้ หากได้ผู้บริหารที่แย่ กลับกันบริษัทที่เลวร้ายก็สามารถฟื้นตัวได้ หากได้ผู้บริหารที่เก่ง
- ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขต่าง ๆ ที่สำคัญต่อธุรกิจ อย่างเช่น ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงาน
คำถามที่ใช้ในการหาข้อมูล ได้แก่
1. “ผู้สอบบัญชีให้ความเห็นต่องบการเงินไว้อย่างไร”
NotebookLM จะหาคำตอบมาให้เลย เพียงแต่เราต้องเข้าใจเรื่องความเห็นต่องบการเงิน
โดยความเห็นของผู้สอบบัญชีมี 4 ประเภท ได้แก่
1. ความเห็นแบบไม่มีเงื่อนไข (Unqualified Opinion)
2. ความเห็นแบบมีเงื่อนไข (Qualified Opinion)
3. ความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง (Adverse Opinion)
4. ไม่แสดงความเห็น (Disclaimer)
2. ความเห็นแบบมีเงื่อนไข (Qualified Opinion)
3. ความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง (Adverse Opinion)
4. ไม่แสดงความเห็น (Disclaimer)
ประเภทที่ 1 คือดีที่สุด เพราะหมายความว่า งบการเงินของบริษัทมีความถูกต้อง ขณะที่ประเภทที่ 2 เราต้องไปดูต่อว่า รายการไหนในงบการเงินที่มีประเด็น
แต่หากเป็นประเภทที่ 3 หรือ 4 ไม่ต้องถามคำถามต่อไปก็ได้ โดยถ้าหลีกเลี่ยงการลงทุนได้ยิ่งดี เพราะงบการเงินที่บริษัทแสดง ผู้สอบบัญชีไม่สามารถรองรับความถูกต้องได้
2. “ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานเป็นอย่างไร”
นอกจากบริษัททำธุรกิจอะไรแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนก็คงอยากรู้ก่อนลงทุนไม่แพ้กันนั่นคือ ผลประกอบการเป็นอย่างไร ฐานะทางการเงินมั่นคงหรือไม่
โดย 2 ส่วนนี้สามารถหาอ่านในงบการเงินได้ง่าย ๆ เลย แต่ถ้าอยากให้รวดเร็วกว่าเดิม สามารถให้ AI อ่านแล้วสรุปมาได้เลย
หรือแม้แต่ให้ช่วยวิเคราะห์แนวโน้ม และหาตัวเลขที่ต้องดูเป็นพิเศษ ในงบการเงิน ก็ทำได้
หรือแม้แต่ให้ช่วยวิเคราะห์แนวโน้ม และหาตัวเลขที่ต้องดูเป็นพิเศษ ในงบการเงิน ก็ทำได้
3. “สรุปสัดส่วนรายได้ตามแต่ละส่วนธุรกิจ”
เพื่อจะได้รู้ว่า บริษัทมีรายได้จากสินค้าหรือบริการอะไรบ้าง รวมถึงรู้ว่าตัวไหนที่ทำเงินหลักให้กับบริษัท
ข้อดีของการใช้ AI ในการสรุปสัดส่วนรายได้คือ ปกติหลายบริษัทมักจะให้เฉพาะตัวเลขรายได้แต่ละส่วน โดยไม่ได้บอกว่าเป็นสัดส่วนเท่าไร แต่ AI จะคำนวณมาให้เลย ง่ายต่อการนำไปวิเคราะห์ต่อ
4. “อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรจากการดำเนินงาน อัตรากำไรสุทธิ 3 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร”
รายได้โต กำไรโต อาจดูดี แต่ถ้ากำไรโตช้ากว่ารายได้ อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดี ดังนั้นเราจำเป็นต้องรู้ว่า อัตรากำไรในแต่ละส่วนเป็นเท่าไร และมีแนวโน้มเป็นอย่างไร
เหมือนกับสัดส่วนรายได้ บริษัทมักจะไม่ได้คำนวณอัตรากำไรให้ ตรงนี้เองที่ให้ NotebookLM สรุปได้เลย นำไปใช้งานต่อได้ทันที
ความหมายของ 3 อัตรากำไร
อัตรากำไรขั้นต้น = (รายได้ - ต้นทุนขาย) ÷ รายได้
อัตรากำไรจากการดำเนินงาน = (กำไรขั้นต้น - ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน) ÷ รายได้
อัตรากำไรสุทธิ = (กำไรจากการดำเนินงาน - ดอกเบี้ย - ภาษี) ÷ รายได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางบางส่วน ที่นักลงทุนสามารถนำ NotebookLM มาช่วยวิเคราะห์และสรุปข้อมูลรายงานประจำปีและงบการเงิน ของบริษัทที่เราสนใจ เพื่อลดเวลาในการทำการบ้าน และเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ธุรกิจ
ซึ่งความสามารถของ NotebookLM ทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากกว่านี้
ขึ้นอยู่กับเทคนิคการ Prompt และความคิดสร้างสรรค์ในการถามคำถามของเรา..
ขึ้นอยู่กับเทคนิคการ Prompt และความคิดสร้างสรรค์ในการถามคำถามของเรา..